ควาญช้างพังแตงโม บุกสภาทนายความ แฉอดีตอธิบดีกรมป่าไม้

ควาญช้างพังแตงโม บุกสภาทนายความ ยื่นหนังสือร้องเรียน แฉ “ดำรง พิเดช” จับช้างพังแตงโมทั้งๆ ที่มีเอกสารครบ และอัยการสั่งไม่ฟ้อง  เผยสภาพพังแตงโมเป็นอัมพาตและใกล้ตาย ด้านสภาทนายความเตรียมช่วยเหลือด้านกฎหมายเต็มที่

30 พ.ย. 56 - ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ นายเนติวินท์ อมรสิน ควาญช้างพังแตงโม เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ในกรณีที่ช้างพังแตงโมวัย 4 ปี ที่เคยถูกนายดำรง พิเดช อดีตอธิบดีกรมป่าไม้จับไป ป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต

นายเนติวินท์ กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของควาญช้างพังแตงโมวัย 4 ปี ซึ่งเป็นควาญช้างที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก และมีความรักความผูกพันกับช้างพังแตงโมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.พ.ศ.2555 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำโดยนายดำรง พิเดช อธิบดีกรมป่าไม้ในขณะนั้นได้ยึดช้างพังแตงโมของนายเนติวินท์ โดยแจ้งข้อหาว่า ผู้ครอบครองมีความผิดตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต และช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อหรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งสัตว์ป่าอันได้โดยการกระทำผิดและได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ให้ดำเนินคดีและได้นำช้างของกลางไปเลี้ยงไว้ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ จังหวัดลำปาง
 
ต่อมาอัยการศาลจังหวัด ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ในข้อหาความผิดตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวหาและสั่งให้คืนช้างของกลางและวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๖ เมื่อนายเนติวินท์ไปดูช้างพังแตงโมที่ สถาบันคชบาลแห่งชาติ จังหวัดลำปาง พบว่า มีอาการบาดเจ็บเป็นอัมพาต ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เป็นปกติและมีบาดแผลหลายแห่งตามร่างกายทั้งบริเวณ ลำตัว สะโพก ขาและก้น จนไม่สามารถลุกได้
 
“ช้างพังแตงโมว่าไปก็เหมือนลูกสาวที่มีความผูกพันกันมา คนเลี้ยงช้างอย่างไรก็ต้องอยู่กับช้าง หากพังแตงโมเสียก็ต้องนำกลับมาทำพิธีที่สุรินทร์ และพังแตงโมเป็นช้างตัวเดียวที่มี”นายเนติวินท์กล่าว
 
ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความได้รับหนังสือร้องเรียนของนายเนติวินท์ และกล่าวว่าเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง นายเนติวินท์ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ต้องคืนทรัพย์ของกลางคืนลูกช้าง ในสภาพสมบูรณ์เช่นเดียวกับวันเอาช้างไป ส่วนความเสียหายรัฐต้องชดเชยให้ ถ้ากรมอุทยานฯไม่เร่งดำเนินการชดใช้ชดเชยก็อาจจำเป็นต้องใช้กระบวนการทางศาลยุติธรรมต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท