Skip to main content
sharethis
ฮัสซันให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น ยัน BRN รวมกลุ่มใหม่ 15 คน มุ่งเจรจา แจงละเอียดยิบ‘สิทธิความเป็นเจ้าของ’ ย้ำข้อเรียกร้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญไทย ยังไม่คุยเรื่องเขตปกครองพิเศษจนกว่าการพูดคุยสันติภาพจะมีเสถียรภาพ
 
วันที่ 2 ก.ย.56 เมื่อเวลา 21.00 น.รายการโลกวันนี้ สถานีวิทยุร่วมกันช่วยกันสลาตัน (Media Selatan) ออกอากาศในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คลื่น 91.50 MHz และเว็บไซต์ www.rdselatan.com ถ่ายทอดบันทึกเสียงสัมภาษณ์ของนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำขบวนการ BRN ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลไทย โดยนายฮัสซันให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกันที่ประเทศมาเลเซีย
 
นายฮัสซัน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเอกสาร 38 หน้าของ BRN ที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 5 ข้อของ BRN ที่ส่งให้ตัวแทนฝ่ายไทย
 
นายฮัสซัน ระบุว่า การที่ BRN อ้างเรื่องเขตปกครองพิเศษเมืองพัทยากับกรุงเทพมหานครในเอกสาร 38 หน้าดังกล่าวนั้น ไม่ได้ความหมายว่า BRN ต้องการให้มีการปกครองพิเศษเหมือนกับเมืองพัทยาหรือกรุงเทพมหานคร แต่สิ่งที่ BRN เรียกร้อง คือ “สิทธิในการกำหนดใจตนเอง (Right of Self Determination) ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย”
 
นายฮัสซัน ยืนยันว่า ปัจจุบัน BRN จะยังไม่พูดคุยประเด็นเขตปกครองพิเศษในการพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนรัฐบาลไทย เนื่องจากการพูดคุยสันติภาพดังกล่าวยังไม่มีเสถียรภาพเพียงพอ ทั้งนี้ BRN จะพูดคุยประเด็นนี้ก็ต่อเมื่อการพูดคุยสันติภาพมีเสถียรภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้
 
 
แทคทีม 15 คนเดินหน้าสู่การเจรจา
 
นายฮัสซัน กล่าวว่า หากรัฐไทยจะเดินหน้าพูดคุยสันติภาพกับ BRN ต่อไป ทาง BRN จะดำเนินการ ดังนี้
 
1.BRN จะดำเนินการพูดคุยสันติภาพต่อไปภายใต้กรอบของฉันทามติทั่วไปว่าด้วยกระบวนการสานเสวนาสันติภาพ (GENERAL CONSENSUS ON PEACE DIALOGUE PROCESS) ที่ลงนามเมื่อวันที่ 28 ก.พ.56 และจะมีการพูดคุยสันติภาพตามตารางที่แนบไว้กับเอกสาร 38 หน้า
 
2.การพูดคุยสันติภาพครั้งที่ 5 นี้ (ครั้งต่อไป) BRN จะมีการเปลี่ยนคณะพูดคุยสันติภาพ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ในคณะพูดคุยสันติภาพต่อไปด้วยหรือไม่
 
3.การพูดคุยสันติภาพครั้งที่ 5 นี้ BRN จะมีคณะพูดคุยสันติภาพ 15 คน มาจาก ตัวแทน BRN จำนวน 4 คน ตัวแทนองค์กรปลดปล่อยสหปาตานี (PULO) 2 คน ตัวแทนจากขบวนการแนวร่วมอิสลามเพื่อปลดปล่อยปาตานี (BIPP) 1คน นักประวัติศาสตร์ 1 คน นักเศรษฐศาสตร์ 1 คน นักกฎหมาย 1 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมศาสตร์ 3 คน ตัวแทนนักเคลื่อนไหว 1 คน และตัวแทนนักศึกษา 1 คน ซึ่งคณะพูดคุยสันติภาพชุดนี้นำโดย BRN
 
4.BRN พร้อมที่จะพูดคุยเรื่องขั้นตอนและมาตรการลดปฏิบัติการความรุนแรง
 
5.BRN ยืนยันว่าจะไม่มีการเรียกร้องเพื่อแบ่งแยกดินแดน
 
6.ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของ BRN เป็นประเด็นสำคัญในการพูดคุยสันติภาพต่อไป เพื่อจะยกระดับการพูดคุยสันติภาพเป็นการเจรจาในอนาคต เพื่อนำไปสู่การวางอาวุธของทั้ง 2 ฝ่าย และนำไปสู่การลงนามสันติภาพ (Peace Agreement) ของทั้ง 2 ฝ่าย
 
 
ย้ำข้อเรียกร้องทั้งหมดอยู่ใต้รัฐธรรมนูญไทย
 
นายฮัสซัน กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อเรียกร้องข้อที่ 4 ที่ว่าด้วย “สิทธิความเป็นเจ้าของชาวมลายูปาตานี” มีใจความสำคัญที่รัฐบาลไทยต้องยอมรับสิทธิความเป็นเจ้าของชาวมลายูปาตานี ดังนี้ 1.สิทธิขั้นพื้นฐานและความยุติธรรมสำหรับสังคมมลายูปาตานี 2.รัฐบาลไทยต้องเคารพสิทธิของชาวมลายูปาตานี
 
3.สิทธิในการปกครองด้วยตนเอง รวมเป็นถึงสิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม และ 4.รัฐไทยต้องให้โอกาสและเปิดช่องทางแก่ชาวมลายูปาตานี ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส และยะลาได้ปกครองตนเอง
 
“ข้อเรียกร้องทั้งหมดอยู่ภายใต้ของกรอบรัฐธรรมนูญไทย ปี 2550” นายฮัสซัน กล่าว
 
 
คำอธิบาย ‘สิทธิความเป็นเจ้าของ’
 
นายฮัสซัน กล่าวด้วยว่า สำหรับคำอธิบายของข้อเรียกร้องข้อที่ 4 มีดังนี้ 1.รัฐบาลต้องยอมรับว่า สังคมมลายูปาตานีเป็นประชาคมซึ่งมีเอกภาพและเป็นประเด็นที่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภาของประเทศไทย
 
2.รัฐต้องยอมรับว่า ในประวัติศาสตร์ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา เคยเป็นรัฐอิสลามมาก่อน ซึ่งมีผู้ปกครองและผู้อาศัยเป็นชาวมลายูปาตานีที่นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ดั้งเดิมและถูกสยามยึดไปในปี ค.ศ.1786
 
ดังนั้นตามข้อเท็จจริงนี้ ประชาคมมลายูปาตานีสามารถที่จะเรียกร้องสิทธิความเป็นเจ้าของได้ ขณะเดียวกันรัฐไทยต้องยอมรับว่าชาวมลายูปาตานีมีสิทธิความเป็นเจ้าของในดินแดนปาตานีแห่งนี้ และต้องนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในรัฐสภาของไทยด้วย
 
3.BRN ยืนยันว่าจะไม่เรียกร้องการแบ่งแยกดินแดน และเรื่องนี้ต้องเข้าพิจารณาในรัฐสภาด้วย และ 4.เรื่องสิทธิความเป็นเจ้าของของมลายูปาตานี ต้องมีการพูดคุยอย่างละเอียดกันต่อไป เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกัน ซึ่งมีประเด็นด้วยกัน 7 ข้อ
 
 
ประเด็นที่ต้องคุย รวม“เขตปกครองพิเศษ”
 
นายฮัสซัน กล่าวว่า สำหรับเรื่องสิทธิความเป็นเจ้าของของมลายูปาตานี มีประเด็นที่ต้องพูดคุยด้วยกัน 7 ประเด็น ดังนี้ 1.ต้องยอมรับสถานะของประชาคมมลายูปาตานี 2.เขตปกครองพิเศษ (Special Administration Region)
 
3.ต้องมีตัวแทนพิเศษที่เป็นชาวมลายูปาตานีในรัฐสภาไทย 4.ผู้ว่าราชการในพื้นที่ต้องเป็นคนมุสลิมมลายูปาตานี โดยมีรองผู้ว่าฯ 2 คน โดยเป็นตัวแทนคนไทยพุทธ 1 คนและตัวแทนจากส่วนกลางอีก 1 คนที่เป็นมุสลิม
 
5.ในพื้นที่ปัตตานี ยะลา นราธิวาสให้มีหัวหน้าตำรวจระดับจังหวัดเป็นชาวมลายูปาตานี รวมถึงตำรวจส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นชาวมลายูปาตานีด้วย 6.ข้าราชการในพื้นที่ส่วนใหญ่ต้องเป็นชาวมลายูปาตานี
 
7.กอฏีหรือดาโต๊ะยุติธรรมและสำนักงานกอฎีในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา ปัตตานี และสงขลา ต้องมีหน้าที่ดูแลกิจการศาสนาอิสลามในพื้นที่ ส่งเสริมเรื่องหลักศรัทธา การใช้กฎหมายอิสลามจริยธรรมและการศึกษาอิสลาม
 
8.สื่อวิทยุและโทรศัพท์ต้องมีเสรีภาพในการนำเสนอ ต้องสนับสนุนให้มีหนังสือพิมพ์ นิตยสารภาษามลายูอักษรยาวีด้วย
 
และ 9.ภาษีที่เก็บได้จากชาวมลายูปาตานีรัฐต้องส่งคืนให้ชาวมลายูปาตานี เพื่อใช้ในการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้รัฐต้องสนับสนุนงบประมาณจากส่วนกลางแก่พื้นที่อย่างเท่าเทียมกับภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเผยแพร่เทปดังกล่าวแล้ว ทางสถานีวิทยุได้เปิดสายให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็น ปรากฏว่ามีผู้เข้าสาย 26 สาย ส่วนใหญ่ค่อนข้างเห็นพ้องกับข้อเรียกร้องของนายฮัสซัน โดยมีบางส่วนแสดงความเห็นว่า ก่อนหน้านี้ข้อเสนอของ BRN เป็นเรื่องที่คลุมเครือ แต่การอธิบายของนายฮัสซันครั้งนี้ได้ให้ความกระจ่างมากขึ้น
 
นอกจากนี้ ผู้แสดงความเห็นยังแสดงความเป็นกังวลต่อท่าทีของฝ่ายไทยว่า จะมีความจริงใจในการเดินหน้าพูดคุยสันติภาพมากน้อยเพียงใด บางคนยังไม่มั่นใจว่ารัฐจะเปิดเวทีรับฟังชาวบ้านอย่างตรงไปตรงมา
 
ล่าสุด นายแวหามะ แวกือจิก ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน เปิดเผยว่า ในคืนวันนี้ (3 ต.ค.) เวลา 21.00 น.ทางสถานีได้รับการตอบรับจาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพฝ่ายทางการไทย ให้เข้าสายสัมภาษณ์สด เพื่อให้ภาพรวมของการพูดคุยสันติภาพในขณะนี้ ตลอดจนแสดงความคิดเห็นต่อท่าทีของนายฮัสซันที่ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นจะเปิดสายให้ผู้ฟังรายการได้เสนอประเด็นความคาดหวังต่อการพูดคุยสันติภาพในปัจจุบัน
 
 
ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของ BRN
 
1.การพูดคุยสันติภาพเป็นการพูดคุยของขบวนการต่อสู้ปาตานี โดยการนำของBRNกับรัฐบาลไทย
2.BRN เห็นด้วยกับการให้มาเลเซียเป็นคนกลางในการพูดคุยสันติภาพ
3.ตลอดระยะเวลาการพูดคุยต้องมีตัวแทนของอาเซียน โอไอซีและเอ็นจีโอเป็นสักขีพยาน
4.รัฐบาลไทยต้องยอมรับความเป็นเจ้าของการเป็นชนชาติมลายูบนแผ่นดินปาตานี
5.รัฐบาลไทยต้องให้อิสรภาพแก่นักต่อสู้ปาตานีและยกเลิกหมายจับทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข
 
 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net