Skip to main content
sharethis

สำนักงาน กสทช. เปิดให้ยื่นแบบคำขอใบอนุญาตฯ ดิจิตอลทีวี ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ เป็นวันแรก มีผู้สนใจเข้ายื่นแบบคำขอฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้น  20 บริษัท รวม 28 แบบคำขอฯ

28 ต.ค.2556 เวลา 16.00 น. ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้เปิดให้ยื่นแบบคำขอใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติเป็นวันแรก ณ อาคารหอประชุมชั้น 2 สำนักงาน กสทช.

โดยในวันนี้มีผู้สนใจเข้ายื่นแบบคำขอฯ แล้วจำนวน 20 บริษัท 28 แบบคำขอฯ คิดเป็นวงเงินหลักประกันทั้งสิ้น 1,687 ล้านบาท แบ่งเป็น   

1.หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว มีผู้ยื่นแบบคำขอฯ จำนวน 3 บริษัท  ได้แก่ บริษัท โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัท ไทยทีวี จำกัด และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

2. หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ มีผู้ยื่นแบบคำขอฯ จำนวน 6 บริษัท ได้แก่  บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด บริษัท 3เอ. มาร์เก็ตติ้ง จำกัด  บริษัท ไอ-สปอร์ต มีเดีย จำกัด บริษัท ไทยทีวี จำกัด และ บริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด

3.หมวดหมู่ทั่วไปแบบความคมชัดปกติ (ทั่วไป SD) มีผู้ยื่นแบบคำขอฯ จำนวน 12 บริษัท ได้แก่ บริษัท บีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด     บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชั่น จำกัด บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด บริษัท โฟร์ วัน วัน   เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด บริษัท ไทยทีวี จำกัด     บริษัท ทัช ทีวี จำกัด บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด   บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด

4. หมวดหมู่ทั่วไปแบบความคมชัดสูง (ทั่วไป HD)  มีผู้ยื่นแบบคำขอฯ จำนวน 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด  บริษัท พี เอ็ม กรุ๊ป จำกัด บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด
   
ฐากร กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) จะเป็นวันสุดท้ายของการยื่น  แบบคำขอฯ โดยทางสำนักงาน กสทช. จะเปิดให้รับบัตรคิวตั้งแต่เวลา 9.00 น. เริ่มยื่นคำขอตั้งแต่เวลา 9.30-16.00 น. ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะรับบัตรคิวสุดท้ายที่มายื่นขอใบอนุญาตฯ   ในเวลา 16.00 น. เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสารต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จในวันนั้น เนื่องจากมีเอกสารที่ต้องตรวจเป็นจำนวนมากและต้องดำเนินการโดยละเอียดรอบคอบ และจะประกาศรายชื่อผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลภายใน 45 วัน
   
สำหรับขั้นตอนการยื่นแบบคำขอฯ ในวันนี้ โดยสรุป เริ่มจากขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียน ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตฯ จะต้องนำใบเสร็จรับเงินค่าเอกสาร   การประมูลมาแสดงกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลรายชื่อและหมวดหมู่จากฐานข้อมูล  การจำหน่ายเอกสารการประมูล และจัดทำใบนำคำขอรับใบอนุญาตฯ พร้อมใบตรวจรับคำขอ และเอกสาร (Checklist) ขั้นตอนนี้ที่สำคัญคือ ชื่อผู้ยื่นคำขอและหมวดหมู่ที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้องตรงกับใบเสร็จรับเงินค่าเอกสารการประมูล ขั้นตอนที่ 2 การตรวจรับคำขอ  ผู้ยื่นคำขอฯ นำคำขอพร้อมเอกสารประกอบจำนวน 7 ชุด ประกอบด้วย ต้นฉบับ 1 ชุด  สำเนา 5 ชุด และสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ 1 ชุด ยื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบคำขอ  และเอกสาร ขั้นตอนที่ 3 การวางหลักประกัน ผู้ยื่นคำขอจะต้องนำเงินหลักประกันร้อยละ 10 ของราคาขั้นต่ำในแต่ละหมวดหมู่ ไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งจะตรวจรับและจะออกใบเสร็จรับเงินให้ไว้เป็นหลักฐาน
    
ทั้งนี้การวางหลักประกันในหมวดเด็ก เยาวชน และครอบครัว ราคาขั้นต่ำ   140 ล้านบาท วางหลักประกัน 14 ล้านบาท หมวดข่าวสารและสาระ ราคาขั้นต่ำ 220 ล้านบาท วางหลักประกัน 22 ล้านบาท หมวดทั่วไปความคมชัดปกติ ราคาขั้นต่ำ 380 ล้านบาท   วางหลักประกัน 38 ล้านบาท หมวดทั่วไปความคมชัดสูง ราคาขั้นต่ำ 1,510 ล้านบาท   วางหลักประกัน 151 ล้านบาท ซึ่งสำนักงาน กสทช. จะคืนหลักประกันแก่ผู้ขอรับใบอนุญาต  ที่ไม่ชนะการประมูลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล
   
ฐากร กล่าวย้ำอีกว่า เมื่อยื่นคำขอแล้ว ผู้ยื่นคำขอมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ  ตามมาตรการรักษาความเป็นธรรม ห้ามติดต่อสื่อสารกับผู้ยื่นคำขอรายอื่นๆ อันเกี่ยวเนื่องกับ การประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการประมูลโดยการประกาศและรับรองรายชื่อผู้ชนะการประมูล (Silence Period) โดยระหว่างนี้ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องห้ามการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่จะแข่งขันราคา หรือเรื่องที่ทำให้ส่งสัญญาณไม่ให้เกิดการแข่งขันราคาเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ยื่นซองจะต้องระมัดระวังการให้ข้อมูล เพราะหากมีการพิจารณาข้อสัมภาษณ์ใดๆ แล้วเข้าข่ายข้อห้ามจะถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน ซึ่งย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์  ต่อการแข่งขัน ส่วนกรณีที่มีการให้สัมภาษณ์ลักษณะเป็นแหล่งข่าว หรือมีเอกสารที่ถูกร้องเรียนเข้ามาถึงบริษัทใดๆที่ให้สัมภาษณ์ในสิ่งที่เข้าข่ายข้อห้าม ทาง กสทช. จะพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมดต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net