Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ตื่นมาเช้านี้อากาศเริ่มเย็นลงกว่าทุกวัน เดินออกมาหลังบ้านแหงนมองดูยอดมะพร้าว ฝูงนกเอี้ยงร้องกัน เจียวจ้าวดังระงม มันคงกำลังจะเริ่มออกหาอาหารเพื่อเลี้ยงปากท้องและลูกๆ ของมัน  

เกิดเป็นนกก็คงจะดีนะ เพราะมันคงไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร จะหาเงินที่ไหนมาให้ค่าน้ำค่าไฟค่าลูกๆ เรียนหนังสือและต้องใช้จ่ายจิปาถะ ตื่นขึ้นมาก็ยอกล้อเล่นกันสนุกสนาน

นั่งดูนกเนิ่นนาน กลับเข้ามาในตัวบ้าน เปิดทีวีดูแทบทุกช่องมีแต่ข่าวความวุ่นวายทางการเมืองในเมืองหลวง การแก่งแย่งชิงดี แบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งสี แบ่งข้าง นี่หรือประเทศไทย ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นแทบทุกปี ทุกรัฐบาลไป พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่

อีกมุมหนึ่งของชนบท พวกเรากำลังดิ้นรน กระเสือกกระสนเพื่อปากท้อง เพื่อครอบครัว เพื่อความอยู่รอดกันอย่างปากกัดตีนถีบ ก่อนการเลือกตั้งแต่ละที พวกคุณก็บอกว่าจะแก้ไขจะปรับปรุง จะทำโน่น นี่ นั่น สุดท้ายก็เข้าไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของตัวเองและพวกพ้อง  ปล่อยพวกเราประชาชนตาดำๆ สู้ชีวิตแสนยากเข็นต่อไป

ปิดทีวีเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาดีกว่า ยิ่งดูก็ยิ่งปวดหัว ขนาดไม่ได้ไปประท้วงอะไรกับใคร ก็ยังไม่มีจะกิน

ออกมานอกบ้านมองดูไร่อ้อยข้างๆบ้าน ลมยามเช้าพัดยอดเอนเอียงไปมา เมื่อหลายเดือนก่อนเคยคิดว่าจะได้เงินจากการขายอ้อยเพื่อผ่อนปรนหนี้สินบ้าง แต่วันนี้จิตใจกลับหดหู่เมื่อรู้ว่าราคาอ้อยตกต่ำกว่าปีที่แล้วมาก คนได้ก็คงเป็นโรงงานตามเคย  แล้วคนทำไร่อ้อยอย่างพวกเราหละได้อะไร คงได้หนี้สินเพิ่มขึ้น

เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะได้โทรคุยและรับฟังปัญหาของเพื่อนๆ ที่ไปเก็บเบอร์รี่ด้วยกันที่ฟินแลนด์  ชีวิตของพวกเขาแต่ละคนในวันนี้ดูลำบากยิ่งนัก ทุกคนมีชีวิตที่ไม่แตกต่างจากเราเลย

อย่างครอบครัวพี่บุญรวยที่ จ.ชัยภูมิ เขาได้ไปเก็บเบอร์รี่ด้วยกัน 4 คน แต่กลับมาโดยที่ไม่ได้เงินค่าแรงงานแม้แต่บาทเดียว ในขณะที่ไปต้องกู้ยืมเงินจากนายทุนเพื่อใช้จ่าย กลับมาถึงบ้านเจ้าหนี้ก็ทวงถาม หนำซ้ำแม่ก็มาป่วยเข้านอนโรงพยาบาล พี่บุญรวยและน้องๆ ต้องบากหน้าไปกู้เงินคนอื่นมารักษาแม่

สุดท้ายแม่ก็ได้จากพวกเขาไป

จะมีอะไรที่มันเจ็บปวดกว่านี้อีกเล่าชีวิตคน

แล้วพรุ่งนี้ชีวิตพวกเขาจะต้องทำอย่างไรจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้เขา จะหาเงินที่ไหนมาให้ลูกๆ เรียนหนังสือ

อีกครอบครัวคือครอบครัวของนาง หรือ นรินทิพย์ ก้อนมาตร อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ครอบครัวนี้เขาไปด้วยกัน 6 คน โดยที่กลับมาเงินค่าเก็บเบอร์รี่เพียง 3 คน อีกสามคนบริษัทยังไม่ยอมจ่าย ก่อนจะไปทุกคนต้องไปกู้หนี้เขาทุกบาททุกสตางค์ กลับมาถึงบ้านวันแรกนายทุนมารอเพราะ 6 คนหนี้ร่วม 6 แสนกว่าบาท  เงินที่ได้มาสามารถใช้หนี้ได้ไม่ถึงครึ่ง ต้องพยายามคุยกับเจ้าหนี้เข้าใจและยอมผ่อนผันหนี้สินให้

มันยังมีอีกหรือเรื่องแบบนี้ทั้งๆ ที่ไปถูกต้องจากกรมแรงงาน แล้วพรุ่งนี้มะรืนนี้และวันต่อๆ ไปพวกเขาจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ ดอกเบี้ยก็คงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นางเองก็มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกๆ อีก 2 คนๆ โตก็ 12 ปี ส่วนคนเล็กก็ 16 เดือน และยังมีแม่ที่แก่ชรา แล้วน้อง ๆ ก็มีลูก ๆ ที่ต้องรับผิดชอบกันทุกคน

ได้ฟังเรื่องราวชีวิตครอบครัวนางแล้วก็เศร้าใจ  ยิ่งเขาถามคำถามหนึ่งมาว่า “พี่ไหวเรายังพอมีหวังไหมกับเงินที่เขายังไม่จ่ายเรา และเราจะชนะคดีเขาไหมที่ฟินแลนด์ และที่เมืองไทย” คำถามคำนี้มันทำให้ผมสะอึกและพูดอะไรไม่ออก จะให้พี่ตอบเธอว่าอย่างไรดีนาง

ส่วนครอบครัวพี่เสถียร  ชำนาญ ที่ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิก็เช่นเดียวกัน พี่เสถียรต้องไปรับจ้างทำงานที่โรงงานน้ำตาลแก่งสนามนางที่โคราช ส่วนปิยะกับศักดาวุฒิน้องชาย ไปทำงานโรงงานน้ำตาลที่ จ.อุทัยธานี เพราะภาระหนี้สินแท้ๆ ที่ทำให้พวกเขาพ่อ แม่ ลูกต้องจากกันคนละทาง

ครอบครัวดวงกับดาวที่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ถูกทวงหนี้ไม่เว้นแต่ละวัน ลูกๆ 2 คน ก็กำลังเรียนหนังสือ คนโต ม.4 คนเล็ก ม.1ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้เขา และให้ลูกๆ เรียนหนังสือ

ผมเองก็ไม่อยากโทษพวกเขาที่หวังความช่วยเหลือจากพี่เล็กและคนที่ช่วยเหลือทางฟินแลนด์ และพูดถึงแต่เรื่องเงิน ก็มันเงินจากหยาดเหงื่อแรงงานของเขาแท้ๆ เงินที่เขาสมควรจะได้แต่ไม่ได้ เพราะไอ้ Ber- Ex และพวกกระทรวงแรงงานพวกเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้แท้ๆ ที่ทำให้พวกเราต้องเป็นแบบนี้

ครอบครัวอุบลรัตน์ ที่สกลนคร แม้ว่าจะได้รับเงินแล้ว แต่มันก็น้อยนิดพอแค่ค่าตัดดอกเบี้ยเงินกู้ 3 แสนเท่านั้นเอง ใบโฉนดยังไม่ได้เอาออกมาจากนายทุนเลย เมื่อวานอุบลรัตน์บอกพึ่งกลับมาจากรับจ้างตัดอ้อย บอกว่าทั้งวันได้ 200 บาทเอง

ชีวิตของคนเก็บเบอร์รี่ทั้ง 50 คนคงไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ผมโทรหาเพื่อนๆ อีกหลายคน ใจก็อยากไปเยี่ยมพวกเขาด้วยตัวเอง แต่มันก็ติดตรงไม่มีเงิน ผมหวังว่าเพื่อนๆ ทุกคนคงเห็นใจและเข้าใจ

คิดถึงเรื่องราววุ่นวายมากมายหลายๆ เรื่องในวันนี้ ปวดหัวกับการเมืองไทยที่ไม่รู้จักจบสิ้น แทนที่จะเอาเวลามาช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและความเดือดร้อนของประชาชน กับเอาเวลาไปนั่ง “กัด” กันทั้งในสภาและนอกสภา เกณฑ์ไพร่พลประท้วง ปิดถนนตรงโน้นตรงนี้ จนทำให้คนทำมาหากินเขาเดือดร้อนกันทั่ว นี่หรือประเทศไทย

จวนจะเที่ยงของวันนี้ อากาศเริ่มร้อนแรงเพราะแสงแดดจ้า ผมได้มีโอกาสเข้าไปทำธุระที่อำเภอ ซึ่งห่างจากหมู่บ้าน 12 ก.ม ขณะขับรถฝ่าแสงแดดที่ร้อนแรงไปตามถนน พลันสายตาก็มองไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ยายุประมาณ 50 เศษ ผมมองไปที่เขาๆ สวมเสื้อผ้าเก่าๆ รองเท้าและหมวกไม่ได้สวมใส่ จึงทำให้มองเห็นใบหน้าที่ไหม้เกียมเพราะแสงแดด เขาใส่เสื้อแขนสั้นจึงทำให้ผมมองเห็นมือเขาที่พิการ มืออีกข้างถือถุงปุ๋ยใบใหญ่ เขาก้มบ้างเงยหน้าบ้างเพื่อเก็บบางสิ่งตามข้างถนน ใช่สิ่งที่เขาก้มลงเก็บมันคือ ”เงิน” เงินที่คนอื่นมองไม่เห็นค่า

มันทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า ขนาดเขาเป็นคนไม่สมประกอบ เขายังสู้ๆ โดยไม่รู้เป้าหมายปลายทางอยู่ที่ใด แล้วพวกเราหละ

สู้ๆ นะทุกๆ คน
ไหว ไพรสันติ จุ้มอังวะ
9 พฤศจิกายน 2556

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net