Skip to main content
sharethis

 

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2556   มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์นำเสนอทางออกประเทศไทยในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นระบุให้แต่ละฝ่ายถอยคนละก้าว ตั้งอนุญาโตตุลาการยุติความขัดแย้ง ส่งตัวแทนฝ่ายละคน บวกคนกลางอีกหนึ่งคน ระยะยาวเสนอทำเวทีระดมความเห็นประชาชนทั่วประเทศเสนอไอเดียวปฏิรูปประเทศไทย ทำประชามติพร้อมนำสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านคณะกรรมการร่างรธน.ที่มาจากประชาชน

รายละเอียดแถลงการณ์มีดังนี้ 

 

ทางออกประเทศไทย

เนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ในสภาวะคับขัน และมีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับซึ่งกันและกันอีกแล้ว จนทำให้การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่ทางตัน  มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยขอเสนอแนวทางออกที่น่าจะเป็นไปได้ของทุกฝ่ายและขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองยอมเสียสละเพื่อชาติและประชาชน ด้วยแนวทางที่เป็นทั้งทางออกเฉพาะหน้าและทางออกในระยะยาวซึ่งเป็นข้อเสนอรูปธรรมนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ดังต่อไปนี้

ทางออกเฉพาะหน้า

1.      ให้ทุกฝ่ายการเมืองที่อยู่ในความขัดแย้งยอมเสียสละ ชะลอบทบาททางการเมืองชั่วขณะ เพื่อหาทางออกให้ประเทศไทยร่วมกัน ก่อนที่จะเกิดการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงจากทั้งสองฝ่าย

2.      ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมทุกฝ่าย ถอยคนละก้าว  เลิกพฤติกรรมยั่วยุ 

3.      ให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.บ.ความมั่นคงที่ประกาศบังคับใช้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล  เพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

4.      ให้หน่วยงานยุติธรรมที่พิจารณาคดีเกี่ยวเนื่องกับการเมือง รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม

5.      ให้มีการตั้งอนุญาโตตุลาการเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมือง   โดยฝ่ายรัฐบาลกับผู้ชุมนุมเสนอมาฝ่ายละ 1 คน ซึ่งแต่ละฝ่ายยอมรับได้   และเสนอคนกลางเป็นที่ประจักษ์เข้ามาร่วมอีก 1 คน เพื่อร่วมกันคลี่คลายความขัดแย้ง

 

ทางออกระยะยาว

1.        เสนอให้องค์กรอิสระที่เกิดขึ้นโดยรัฐธรรมนูญซึ่งมีภารกิจการมีส่วนร่วมกับประชาชนมีเครือข่ายหรือหน่วยงานในระดับภูมิภาคท้องถิ่นอยู่แล้ว เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง  สภาพัฒนาการเมือง    คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย   สภาองค์กรชุมชน  และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  รวมทั้งสถาบันการศึกษา และสื่อมวลชน   ร่วมกันรับผิดชอบในการจัดเวทีสาธารณะระดมความคิดเห็นเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยตั้งแต่ฐานรากขึ้นมา  (เวทีในระดับตั้งแต่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศ)  ซึ่งคาดว่าจะสามารถสำเร็จได้ในกรอบระยะเวลา   1-2 ปี โดยใช้งบประมาณของหน่วยงานเหล่านี้ที่มีอยู่แล้ว

2.        แนวทางการปฏิรูปในแต่ละด้านให้ครอบคลุมถึงด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม   เมื่อได้รวบรวมความคิดเห็นจนได้ข้อเสนอที่ตกผลึกแล้ว  ให้นำไปสู่การรับฟังความคิดเห็นจนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นพ้องแล้วให้นำข้อเสนอไปสู่การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ นำร่างรัฐธรรมนูญสู่การรับฟังความคิดเห็น จนได้รับการยอมรับก่อนนำไปสู่การทำประชามติ  ในแต่ละด้าน

3.        ให้มีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่  โดยอยู่ในกรอบความคิดเห็นที่ผ่านการทำประชามติแล้ว ตามข้อ 2 โดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 200 คนให้มาจากประชาชนที่ร่วมในเวที ตามข้อ 1 เลือกกันเองมาเพื่อเป็นผู้แทนในการนำเสนอความคิดเห็นที่ได้จากการระดมสมองในเวทีจังหวัดละ ตั้งแต่ 1 ถึง 18 คน ตามสัดส่วนประชากรในแต่ละจังหวัด

4.        ให้นำร่างรัฐธรรมนูญที่ร่างตามกรอบความคิดเห็นตามข้อ 2-3   ขอความเห็นชอบจากประชาชน โดยการทำประชามติตามมาตรา9 ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2554

 
 

มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย

 26  พฤศจิกายน  2556

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net