ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร รายงาน ล่าสุดมีผู้บาดเจ็บ 58 ราย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 ราย ในขณะที่สะพานชมัยมรุเชฐและบช.น. ยังมีการปะทะ และตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้เป็นระยะ

 

2 ธ.ค. 2556 เมื่อเวลา 12.00 น.  ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร สรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์การสลายกลุ่มชุมนุมด้วยแก๊สนํ้าตา ล่าสุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาล รวมทั้งสิ้น 58 ราย 

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งในโรงพยาบาล 5 แห่ง ได้แก่ 1.คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จำนวน 34 ราย 2.รพ.กลาง 2 ราย 3.รพ.ราชวิถี 6 ราย 4.รพ.รามาธิบดี จำนวน 10 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1 ราย และ 5.รพ.พระมงกุฎเกล้า 3 ราย และรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 2 ราย.

 

สำหรับการชุมนุมในวันนี้ เว็บไซต์มติชนออนไลน์ รายงานว่าเวลาประมาณ 10.50 น.ผู้ชุมนุมพยายามบุกเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แต่โดนตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา ทำให้ผู้ชุมนุมต้องหลบ พร้อมเอากระสอบชุบน้ำคลุมไม่ให้ควันฟุ้งกระจาย

 

โดยก่อนหน้านี้. นายชุมพล จุลใส ประกาศบนเวทีราชดำเนิน ให้มวลชนเตรียมพร้อมเคลื่อนไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เวลา 10.30 น. นอกจากนั้นยังมีการนำมวลชนบางส่วนสมทบทำเนียบรัฐบาล พร้อมนำรถน้ำสู้กับแก๊สน้ำตา 

 

ทั้งนี้ หลังจากมีการยิงแก๊สน้ำตาเกิดขึ้น ทำให้หน่วยงานจากกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งสวมปลอกแขนพยาบาล เข้าไปดูแลผู้ชุมนุมที่ถูกยิงแก๊สน้ำตา 

 

 

ในขณะที่ด้านสะพานชมัยมรุเชฐช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเหตุวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถขังผู้ต้องหาของตำรวจที่ยึดได้ไปประชิดแท่งแบริเออร์แล้วใช้เชือกผูกเพื่อจะทำการลากออก ทางเจ้าหน้าตำรวจจึงได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเตือนให้หยุดการกระทำเพราะถือว่ากำลังกระทำผิดกฏหมาย แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังดำเนินการต่อ ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 3 ลูก ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงล่าถอยไป 

 

ต่อมาทางพระพุทธะอิสระได้เดินทางมาให้กำลังใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สะพานสะพานชมัยมรุเชฐ  และขอพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด  ทางพระพุทธะอิสระจึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถเครื่องขยายเสียงเข้ามาใกล้แนวแท่งแบริเออร์ก่อนทำการเทศนาธรรมให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประกาศเตือนผู้กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ พร้อมเปิดเพลงผ่อนคลายบรรยากาศด้วย 

 

เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์รายงานจากบริเวณสะพานอรทัย ถ.กรุงเกษม ซึ่งเป็นทางเข้าทำเนียบรัฐบาลว่า ว่า กลุ่มชายฉกรรจ์จากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ได้ข้ามสะพานอรทัย และขว้างก้อนหิน สิ่งของ และระเบิดปิงปองเข้าไปยังฝั่งทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีตำรวจประจำการอยู่  

 

ด้านฝั่งตำรวจก็ได้ตอบโต้ด้วยการขว้างก้อนหินกลับ ทำให้ผู้ชุมนุมวิ่งหาที่หลบ ทั้งนี้ได้มีเฮลิคอปเตอร์บินสังเกตโดยรอบ ขณะที่บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งถนนกรุงเกษม ได้มีผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่

 

 

ด้านเนชั่นแชนแนล รายงานเมื่อเวลา 13.15 น.บริเวณที่แยกการเรือน ถนนราชวิถี โดยมี นายอิสสระ สมชัย เป็นแกนนำนำมวลชนมากดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นผู้ชุมนุมได้เริ่มรื้อแนวป้องกันที่เป็นรั้วลวดหนาม กับแท่งแบริเออร์ โดยล่าสุดสามารถรื้อไปแล้ว 1 ชั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ยิงใส่ผู้ชุมนุมหลายสิบลูกพร้อมประกาศให้ม็อบถอยร่นออกจากแนว 50 เมตร และบอกว่า จะใช้กระสุนยางบริเวณแนวแบริเออร์ แต่ผู้ชุมนุมก็ไม่ฟังเสียงยังรุกล้ำเข้ามา ล่าสุดผู้ชุมนุมก็ยังคงทำการรื้อแนวลวดหนามหลังแนวแบริเออร์ชั้นแรกถูกรื้อออกแล้ว

 

ในขณะที่เมื่อเวลา 14.36 เนชั่นแชนแนลรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ขณะนี้ ยังคงเป็นไปอย่างตึงเครียด โดยผู้ชุมนุมมีความพยายามนำรถตำรวจที่ยึดมาได้เมื่อคืนนี้ย้ายแท่งแบริเออร์ เพื่อเปิดเส้นทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงระดมยิงแก๊สน้ำตา สลับกับการฉีดน้ำผสมสารเคมีใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ด้านฝั่งผู้ชุมนุมเอง ได้มีการใช้รถฉีดน้ำเพื่อสกัดละอองแก๊สน้ำตา 

 

มีรายงานว่า รถถ่ายทอดสดของช่องมีเดียนิวส์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าไปในรถ ทำให้ผู้ชุมนุมและทีมข่าวที่หลบอยู่แนวหลังรถต้องวิ่งหนี ขณะเดียวกัน รถตู้ของสำนักข่าวอัลจาซีรา ก็ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบชนิด 2 นัด บริเวณช่องเติมน้ำมันและประตูผู้โดยสาร ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังรายงานสดสถานการณ์การชุมนุมอยู่เช่นกัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม มีการระบุว่า วิถีกระสุนนั้นมาจากแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ