Skip to main content
sharethis
ผู้นำศาสนา ร่วมกันละหมาดที่มัสยิดกลางนราธิวาส ให้กำลังใจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และมุ่งทำงานเพื่อปชช. โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในขณะที่อธิการบดีม.อิสลามยะลาร้องทุกฝ่ายเร่งแก้ไขความขัดแย้ง
 
 
2 ธ.ค. 2556 เว็บไซต์มติชนรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น.  ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดนราธิวาส องค์กรผู้นำศาสนา องค์กรผู้นำการศึกษา องค์กรผู้นำท้องที่ และองค์กรภาคประชาสังคม  ร่วมกันละหมาดฮายัติและสวดดูอาร์ขอพรให้กำลังใจกับการทำงานของคณะรัฐบาล  ซึ่งถือว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยขอให้มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไปโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้หลังจากเสร็จสิ้นการละหมาดแล้วตัวแทนได้ยื่นหนังสือผ่านนายณัฐพงศ์  ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ส่งกำลังใจต่อไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วย
 
ด้านนายอับดุลเราะห์หมาน อับดุลสมัด  ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การร่วมละหมาดขององค์กรต่างๆในครั้งนี้เป็นการแสดงน้ำใจของประชาชนในพื้นที่ที่อยากให้กำลังใจกับรัฐบาลในการทำงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องสามัคคีกันเท่านั้นปัญหาทุกอย่างถึงจะจบ
 
ด้านนายอดุลย์  อารีหะหมัด ประธานกรรมการมัสยิดปาทานนราธิวาส  กล่าวฝากไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  ให้เคารพกฎหมายบ้านเมืองพร้อมวอนอย่าดึงประเทศให้ต่ำลง ซึ่งขณะนี้ทุกประเทศกำลังพัฒนาเพื่อที่จะเข้าร่วมอาเซียน อย่าต้องทำให้ประเทศต้องล้าหลัง  อีกทั้งชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มนายสุเทพขณะนี้ 
 
อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา ออกแถลงการณ์ร้องทุกฝ่ายร่วมหาทางออก
 
อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา (ม.ฟาฏอนี) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิสมาอีลลุตฟีย์ จะปะกียา ได้ออกแถลงการณ์กรณีวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย โดยมีข้อความขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและใช้ความรุนแรง โดยแถลงการณ์ดังกล่าวส่งไปยังผู้เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อประชาสัมพันธิ์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
 
จากสถานการณ์วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งมีการชุมนุมของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันของผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย  อันจะก่อให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนทั่วประเทศอย่างใหญ่หลวงและกว้างขวาง ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเมืองและความมั่นคงของชาติ
 
ข้าพเจ้าในนามของอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี (มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา) คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา ใคร่ขอแถลงและเสนอแนวทางแก้ปัญหาวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้ ดังนี้
 
(1) สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในทัศนะของศาสนาอิสลาม ถือว่า เป็นฟิตนะฮฺ (ความโกลาหลและวุ่นวาย) ซึ่งเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าและศาสนิกชนทุกศาสนา โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมทั้งหลาย  ต้องร่วมกันยุติปัญหาความขัดแย้ง ร่วมกันหาทางออก ถ้าทุกฝ่ายเพิกเฉยไม่รีบหาทางยุติปัญหา  ความขัดแย้งเกิดที่เกิดขึ้นจะขยายตัว ลุกลามและบานปลาย  สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง
 
(2) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ  ผู้บริหารสถาบันการศึกษานักการเมืองทุกระดับ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ทหารและตำรวจ ผู้นำและผู้รู้ทางศาสนา ผู้นำองค์กรเอกชน นักธุรกิจ ผู้นำสตรี นิสิต นักศึกษา มาช่วยกันให้สติ  แนะนำ ตักเตือน ระดมความคิด สานเสวนา เพื่อระงับยับยั้งฝ่ายต่างๆที่กำลังขัดแย้งกัน ให้ใช้ความอดทน อดกลั้น หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การเผชิญหน้าและปะทะกัน การละเมิดกฎหมาย ตลอดจนร่วมกันผลักดันให้ทุกฝ่ายหันมาใช้กระบวนการสันติวิธีและการสานเสวนา พูดคุยเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน
 
(3 ) ตามหลักการอิสลาม ความขัดแย้งและแตกแยกกันของประชาชน ถือเป็นสิ่งมุนกัร (สิ่งที่มิชอบ) สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก จึงเป็นหน้าที่ของประชาชน ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นจะต้องช่วยกันหาทางยุติความขัดแย้งและนำความสันติสุขสมานฉันท์ของประชาชนให้กลับคืนมา ทั้งด้วยอำนาจ (มือ)  คำพูดและใจของเขา
 
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย  ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นทั้งหลาย  ช่วยกันเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย เสนอแนะทางออก เพื่อให้เกิดความปรองดอง ความรักสามัคคีและความสันติสุขสมานฉันท์ของคนในประเทศ หลีกเลี่ยงการยั่วยุและเติมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งให้เกิดความแตกแยก การปะทะและเผชิญหน้ากันของประชาชน
 
นอกจากนั้น ในการเข้าไปมีบทบาทในการนาซีฮัต (ตักเตือน) และระงับยับยั้งในสิ่งมุนกัร (สิ่งที่มิชอบ) นั้น ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้วิธีการที่ดี มีมารยาท สุภาพอ่อนโยน ละมุนละม่อม อดทน อดกลั้น บนพื้นฐานของหลักการศาสนาและกฎหมาย
 
 ศาสนาอิสลามห้ามมิให้ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง เช่น การด่าทอ นินทาว่าร้าย พูดจากหยาบคาย ไม่สุภาพ พูดเท็จ ลามกอนาจาร การละเมิด โจมตีใส่ร้าย ตลอดจนการละเมิดกฎหมาย เป็นต้น
 
 (4) ขอเรียกร้องให้บรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง ใช้สื่อในสังกัดนำเสนอทางออก ยุติความแตกแยก และความขัดแย้งของประชาชน โปรดหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวในลักษณะที่เป็นการยั่วยุและเติมเชื้อไฟความขัดแย้งให้ลุกลาม บานปลาย  เพราะ ผู้ที่บอบช้ำและเสียหายมากที่สุดจากวิกฤติครั้งนี้ คือ ประเทศชาติและประชาชน
 
สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองให้ปลอดภัยจากไฟแห่งฟิตนะห์ (ความวุ่นวายและแตกแยกกันของประชาชน) ซึ่งมันไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบเฉพาะคู่ขัดแย้งเท่านั้น แต่มันจะส่งผลและสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนส่วนอื่นๆที่บริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
 
ขอเชิญชวนชนชาวไทยทุกภาคส่วน ผนึกกำลังกัน ร่วมฝ่าวิกฤติ ยุติความขัดแย้ง นำสันติสุขและความรู้รักสามัคคีของประชาชนกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net