Skip to main content
sharethis

12 ธ.ค.2556 เว็บไซต์มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต ส.ส. จ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สั่งจำคุก 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ

คดีนี้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีหมายเลขดำ ที่ อ.1886/2553 จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2553 จำเลยร่วมกันแถลงข่าวกล่าวหานายวสันต์ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญว่า ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่น่าเชื่อถือ ขัดต่อจริยธรรมของตุลาการ ขาดความยุติธรรม และขาดความเป็นกลาง เป็นเหตุให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2555 ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับ 50,000 บาท แต่จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์สู้คดี

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วเห็นว่า โจทก์มีพยานเบิกความยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุ จำเลยได้พาสื่อมวลชนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยจำเลยที่ 1 แถลงข่าวและทำใบปลิวแจกสื่อมวลชน และสื่อมวลชนได้นำคำแถลงข่าวไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าสื่อมวลชนคัดลอกจากสำเนาคำร้องที่ยื่นคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญและนำไปลงตีพิมพ์เองนั้นไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

ส่วนจำเลยที่ 2 แม้จะไม่ได้เป็นผู้แถลงข่าว แต่เดินทางไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 โดยมีเจตนาเดียวกัน และขณะจำเลยที่ 1 แถลงข่าวและแจกใบปลิว จำเลยที่ 2 ก็อยู่ด้วยและเดินทางกลับไปพร้อมกัน จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมสมคบกันกับจำเลย 1 มีลักษณะเป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ทั้งนี้ ข้อความที่อยู่ในใบปลิวแถลงข่าว เป็นข้อความเท็จ เห็นว่าทั้งสองกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง ฟังไม่ขึ้น

มีประเด็นต้องพิจารณาต่อไปว่าที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองนั้นเหมาะสมหรือไม่ เห็นว่า สังคมในปัจจุบันมีการยุยง ปลุกปั่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ โดยไม่คำนึงถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งจำเลยที่ 1 จบการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตและเป็นอาจารย์หลายสถาบัน

ส่วนจำเลยที่จบปริญญาตรี เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุดรธานี เป็นกรรมาธิการและรองกรรมาธิการหลายคณะ จำเลยทั้งสองเป็นคนมีเกียรติ มีความน่าเชื่อถือของบุคคลทั่วไป ควรทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคม แต่กลับร่วมกันใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ต่อโจทก์ซึ่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  โดยเจตนาไม่สุจริต ต้องการให้ข้อความที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแพร่กระจายไปทั่วราชอาณาจักร ทำให้ประชาชนจำนวนมาก รู้สึกดูหมิ่นดูแคลน ไม่เชื่อถือว่าศาลรัฐธรรมนูญปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม และเป็นการลดความน่าเชื่อถือของศาลอย่างร้ายแรง

หากปลุกปั่นต่อไปจะทำให้ประชาชนไม่เคารพกฎหมาย และหลังถูกฟ้องจำเลยทั้งสองยังไม่รู้สึกสำนึก แม้จะเป็น ส.ส.ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน แต่เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ที่ศาลลงโทษจำคุก 1 ปี จึงเห็นสมควรไม่รอการลงโทษ และเห็นควรไม่ต้องลงโทษปรับจำเลย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติอุดม ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 1.5 แสนบาท ยื่นขอประกันตัวระหว่างฎีกา โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ โดยตีราคาประกัน 1 แสนบาท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net