Skip to main content
sharethis

สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้วิพากษ์ข้อเสนอ กปปส.ชี้ทำประเทศถอยหลัง เอื้อประโยชน์พรรคประชาธิปัตย์ และพร้อมสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ให้ประชาชน 48 ล้านคนตัดสิน

17 ธ.ค.2556 สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ออกแถลงการณ์วิพากษ์แนวทางการปฏิรูปการเมืองของ กปปส.ที่เสนอให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลาง และสภาประชาชน ว่าไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย และเป็นการนำพาประเทศเดินถอยหลัง

โดยในแถลงการณ์ของ สกต.ได้วิพากษ์และตั้งคำถามต่อข้อเสนอการปฏิรูปประเทศของ กปปส.ไว้ 4 ข้อ คือ

“1.ไม่ว่านายกรัฐมนตรีคนกลาง หรือสภาประชาชน ล้วนเป็นข้อเสนอเพื่อสร้างพื้นที่ทางอำนาจให้กับชนชั้นนำ  สร้างป้อมค่ายที่จะใช้ต่อสู้ระหว่างชนชั้นนำ “สภาประชาชน” แท้จริงก็คือสภาขุนนาง เพื่อเป็นฐานรองรับนายกคนกลางซึ่งสื่อมวลชนก็ วิเคราะห์ฟันธงออกมาแล้วว่าจะมาจากองคมนตรีคนใดคนหนึ่ง แล้วดอกผลอันใดเล่าที่จะตกถึงมือชนชั้นล่างของสังคมอย่างแท้จริง แม้แต่มวลชนที่ร่วมสู้กับ นายสุเทพฯ ก็ไม่ได้รับอะไร นอกจากความสะใจ

2. นายกฯ คนกลาง คือใคร มาจากไหน ก็รู้กันอยู่แล้ว ที่ผ่านๆมาก็ ล้วนมาจากการแต่งตั้งจากอำนาจเบื้องบน ซึ่งไม่ได้ยึดโยงกับอำนาจประชาชนโดยตรง ประชาชนจึงไม่มีช่องทางในการตรวจสอบ ทั้งๆ ที่ กปปส. เน้นย้ำเรื่อง “อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน” ตรงนี้ก็ขัดแย้งในตัวเองมากๆ

3. การใช้มาตรการบังคับ กดดัน สร้างความเกลียดชัง ไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทำตามอำเภอใจ จนเกินเลยไปสู่สภาวะอนาธิปไตย ในสังคม เพียงเพื่อบีบคั้นให้นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออก หรือสร้างเงื่อนไขให้ทหารยึดอำนาจ ไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย ไม่ใช่สันติอหิงสา ตามที่นายสุเทพฯ โฆษณาชวนเชื่ออยู่ทุกครั้งที่ขึ้นเวที แนวทางการเคลื่อนไหวของ กปปส. จึงเข้าลักษณะ “กรรมส่อเจตนา” เจตนาที่ว่า คือ ต้องการให้ทหารทำการรัฐประหาร หรือให้อำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญ เข้ามาแทรกแซงการบริหารของรัฐบาล

4. แนวทางของ กปปส. ที่นายสุเทพฯ ประกาศต่อสาธารณะนั้น ต้องการให้เว้นวรรคประชาธิปไตย 8- 14 เดือน ให้ “นายกฯ และครม. คนกลาง” รักษาการบริหารประเทศ โดยอ้างว่าต้องให้คนกลางเข้ามานำการปฏิรูปการเมืองการปกครอง ให้เสร็จแล้วจึงจัดการเลือกตั้งในภายหลัง”

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า แนวทางของ กปปส.เป็นการนำประเทศเดินถอยหลัง และเอื้อประโยชน์ต่อพรรคประชาธิปัตย์

“เป็นการนำประเทศถอยหลังไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชใหม่ และแก้ไขกฎกติกาต่างๆ ให้เอื้อประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคของมหาอำมาตย์ แต่พ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งแบบเสรีประชาธิปไตย มาตลอดระยะเวลา 21 ปี ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นนายกฯ จากการเลือกตั้งปลายปี 2551 ก็เพราะกองทัพฯ ช่วยอุ้มชูขึ้นสู่ตำแหน่ง มิใช่เพราะชนะการเลือกตั้ง”

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ สกต.ยังสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งวันที่  2 กุมภาพันธ์ 2557 และให้พรรคการเมืองสามารถนำเสนอนโยบายการปฏิรูปการเมืองตามความเชื่อของแต่ละพรรค

“ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแต่ละพรรคการเมืองและ องค์กรต่างๆ ในสังคมที่ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมือง ก็สามารถเสนอนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองได้ตามความเชื่อของตนเอง การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 จะชี้ขาดว่า 48 ล้านเสียงของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องการระบบการเมืองแบบใด และอย่างไร เสียงข้างมากของประชาชนไทยจะชี้ขาด เพราะนี่คือเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net