Skip to main content
sharethis



วันนี้ (26 ธันวาคม ) ในขณะที่ใครหลายต่อหลายคนกำลังเตรียมเฉลิมฉลองปีใหม่กับครอบครัวหรือคนรัก ในเฟสบุ๊คก็ปรากฎคำอวยพรส่งร่อนกันไปทั่วเนื่องในวันคริสตร์มาส คนไทยหลายคนเตรียมตัวจะไปเลือกตั้งในวันที่ 2 กพ. ปีหน้าที่กำลังจะมาถึงหรือได้เลือกตั้งล่วงหน้าหากคนๆ นั้นอยู่นอกราชอาณาจักรไทย คนไทยอีกหลายๆ คนอยู่บนท้องถนนเพราะอยากเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง บ้างก็ว่าเลือกตั้งก่อนแล้วปฏิรูปไปพร้อมกัน กิจกรรมมากมายเกิดขึ้นแตกต่างกันจากทั่วทุกสารทิศทั่วทุกมุมโลกและทั่วประเทศ

แต่วันนี้หลายครอบครัวใน 12 ประเทศ ไม่มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมเหล่านี้ และหนึ่งในนั้นคือ อะเจห์ประเทศอินโดนีเซีย เพราะวันที่ 26 ธันวาคม เป็นวันครบรอบ 9 ปี มหาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ถูกจารึกไว้แล้วในประวัติศาสตร์โลก

อะเจห์ไม่เพียงแต่สึนามิเท่านั้นที่ทำให้คนเสียชีวิตจำนวนประมาณ 1 แสนคน แต่ความเสียหายจากแผ่นดินไหวกว่า 9 ริกเตอร์ ก็ทำให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง แต่กลับยังไม่มีีผู้ใดได้ศึกษาอย่างจริงจังว่าผลกระทบจากแผ่นดินไหวอย่างเดียว ได้สร้างความเสียหายอย่างไรบ้าง ประกอบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์จำนวนมาก ที่ชนกันกระหน่ำวุ่นวายเนื่องจากภาวะหนีตายในยามคับขัน แต่ก็ยากที่จะคำนวน เพราะเกือบทุกคนที่ประสบภัยพิบัติในอะเจห์คิดตรงกันว่า "ถ้าไม่่ใช่เพราะสึนามิ คงจะไม่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้"

ชาวอะเจห์หลายคนเชื่อว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เกิดขึ้นจากความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งคล้ายคลึงกับชาวฮินดู ชาวจีนที่นับถือศาสนาคริสตร์ ที่อยู่ในอะเจห์ โดยเฉพาะชาวอะเจห์เขาเชื่อกันว่า เมื่อพระเป็นเจ้าส่งภัยพิบัติมา อาจหมายถึงเวลาที่จะต้องทบทวนและตรวจสอบตัวเองว่าทำอะไรผิดบาปหรือไม่ และคำตอบที่ได้รับมีคล้ายคลึงกันก็คือ "พวกเราก่อสงครามและฆ่าฟันคนที่นับถือศาสนาเดียวกัน(อิสลาม)" และนี้อาจจะเป็นการลงโทษจากพระผู้เป็นเจ้า

เกือบ 30 ปี แห่งการต่อสู้ระหว่างอะเจห์กับรัฐบาลกลางอินโดนีเซีย 2 กลุ่มนี้มีสิ่งที่เหมือนกันคือ นับถือศาสนาเดียวกัน เพียงแต่แตกต่างกันในเรื่องของเชื้อชาติ ฝ่ายหนึ่งระบุตัวตนว่าเป็น ชาวอะเจห์ อีกฝ่ายหนึ่ง(รัฐบาล) ระบุว่าเป็น ชาวชวา

จะว่าไปศาสนาและเชื้อชาติอาจจะไม่เป็นปัญหา หากชาวอะเจห์ไม่รู้สึกว่า รัฐบาลส่วนใหญ่ที่เป็นชาวชวา ออกนโยบายเข้าข้างพวกตัวเองและหาผลประโยชน์ให้กับฝ่ายเดียวกันกับตนมากเกินไป อีกทั้งยังช่วงชิงผลประโยชน์จากอะเจห์ ได้แก่ น้ำมัน แก๊ส ป่าไม้ และทองคำ จากอะเจห์ โดยแบ่งผลประโยชน์กลับคืนเพียง 30% เท่านั้น

สงครามและหายนะจากน้ำมือของมนุษย์ (manmade disaster) จึงบังเกิดขึ้นก่อนภัยพิบัติทางธรรมชาติ (natural disaster)

เกือบ 30 ปี ที่สงครามทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1 แสนคน แต่เพียงไม่กี่นาที ตอนเช้าวันอาทิตย์ ในวันและเดือนเดียวกันนี้ภัยพิบัติทางธรรมชาติได้คร่าชีวิตผู้คนไปในจำนวนใกล้เคียงกันคือ 1 แสนคน

วันนี้ในอะเจห์ นักต่อสู้ที่เรียกร้องเสรีภาพไม่มีโอกาสได้เห็นอะเจห์ได้กลายเป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่มีโอกาสได้เห็นว่าอะเจห์รับส่วนแบ่งจากรัฐบาล 70-30 แทนที่จะเป็น 30-70 อย่างเช่นเมื่อก่อน เพราะคนกลุ่มนี้เกือบ 2,000 คน จมน้ำตายในคุกขณะเกิดสึนามิ เช่นเดียวกับนายทหารชั้นสูงของรัฐบาลกลางอินโดนีเซีย ก็ไม่ได้อยู่เห็นสันติภาพที่เกิดขึ้นภายหลัง เพราะค่ายทหารส่วนใหญ่อยู่ติดริมทะเลและได้ถูกทำลายจากคลื่นยักษ์เช่นเดียวกัน

สันติภาพและความสงบเกิดขึ้นภายหลังจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพราะต่างฝ่ายทั้งรัฐบาลกลางอินโดนีเซียและกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพ ต่างประสบชะตากรรมเดียวกัน คือสูญเสียผู้คนจำนวนมากจากเหตุการณ์สึนามิ

ในวันนี้ หลายครอบครัวจึงไม่มีโอกาสได้เฉลิมฉลองปีใหม่ หรือเหตุการณ์สำคัญใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีโอกาสจะได้เลือกตั้งหรือแม้แต่คัดค้านไม่ให้มีการเลือกตั้ง

แต่วันนี้คนไทยหลายคนยังมีโอกาสได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ถึงแม้ว่าหลายครอบครัวอาจจะมีประสบการณ์ร่วมเช่นเดียวกันกับชาวอะเจห์ คือ สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยพิบัติจากน้ำมือของมนุษย์ ในช่วงความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา

26 ธันวาคม 2556 จึงไม่ใช่แค่วันรำลึกถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติเท่านั้น แต่เป็นวันสำคัญที่สังคมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันเหตุการณ์สึนามิที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเรียนรู้ถึงความขัดแย้งรุนแรงจนนำไปสู่สงครามและมีผู้คนจำนวนมากมายเสียชีวิต ทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลาเดียวกันได้สร้างบาดแผลทางใจให้กับมนุษย์เราได้อย่างไร และจะมีทางไหนที่จะสามารถป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ที่เศร้าสลดเช่นนี้ ในประวัติศาสตร์มวลหมู่มนุษยชาติของเรา

ในสังคมไทย ข้าพเจ้าก็ได้แต่หวังว่าเราคงไม่ต้องรอให้พระเจ้าลงโทษ เราถึงจะเริ่มทบทวนตัวเอง อย่างเช่นประสบการณ์ของชาวอะเจห์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net