ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้การดักเก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์จำนวนมากไม่ผิดหลักการรัฐธรรมนูญ หลังจากสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) ฟ้องร้องสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ในเรื่องนี้ ซึงเป็นการตัดสินที่แตกต่างจากคดีที่คล้ายคลึงกันก่อนหน้านี้

28 ธ.ค. 2556 - สำนักข่าวเดอะ การ์เดียนรายงานว่า ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้การดักเก็บข้อมูลจากโทรศัพท์ที่ละมากๆ ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ

ก่อนหน้านี้สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) ได้ฟ้องร้องต่อศาลแขวงในรัฐนิวยอร์ก กรณีการดักเก็บข้อมูลโทรศัพท์จำนวนมากโดย NSA ซึ่งการตัดสินในครั้งนี้ฟังดูขัดแย้งกับการตัดสินในศาลรัฐวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งผู้พิพากษากล่าวว่าการกระทำของ NSA ไม่เป็นไปตามหลักการรัฐธรรมนูญและมีลักษณะ "แทบจะเหมือนกับนิยายของจอร์จ ออร์เวล"  ซึ่งสื่อถึงนิยายเรื่อง 1984 ที่มีการสอดแนมและบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายรัฐ

อย่างไรก็ตามประเด็นนี้อาจถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลฎีกา โดยอาจจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ว่าจะยอมรับข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณาของทำเนียบขาวที่สั่งห้ามการดักเก็บข้อมูลของ NSA หรือไม่

ในคดีล่าสุดนี้ผู้พิพากษาวิลเลียม พอลลีย์กล่าวว่าหลักการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวในบทแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ควรจะมีการทำให้สมดุลเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถคงไว้ซึ่งฐานข้อมูลที่มีความสำคัญต่อการป้องกันการก่อการร้ายในอนาคตได้ โดยพอลลีย์อ้างว่า สิทธิ์คุ้มครองบุคคลจากการถูกค้นเป็นเรื่องสำคัญแต่ก็ไม่ใช่กฏที่ใช้ได้เสมอไปและการคุ้มครองของบทแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 ก็ควรถูกตั้งคำถามเรื่องความสมเหตุสมผล

พอลลี่ย์ยังได้กล่าวในคำตัดสินว่ากลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้ามียุทธวิธีการหลบเลี่ยงด้วยเทคโนโลยีทำให้รัฐบาลจำเป้นต้องฝ่าฝืนในเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัว พอลลี่ย์อ้างถึงเหตุการโจมตีตึดเวิร์ลเทรดและอาคารเพนตากอนเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 โดยระบุในคำตัดสินว่า "เทคโนโลยีทำให้กลุ่มอัลเคด้าสามารถปฏิบัติการก่อการร้ายในเชิงกระจายกำลังได้จากระยะไกล โครงการการดักเก็บข้อมูลโทรศัพท์จึงแสดงถึงการโต้ตอบของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยการเชื่อมโยงชิ้นส่วนข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลและกำจัดเครือข่ายก่อการร้ายอัลเดค้า"

เดอะ การ์เดียนระบุว่าคดีของ ACLU ถูกยกฟ้องมีสาเหตุหลักๆ มาจากการที่ปฏิบัติการเก็บข้อมูลของ NSA ได้รับอนุญาตจากกฎหมายที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ซึ่งอนุญาตให้มีการเก็บข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกันได้ หากมีการมอบอำนาจจากศาลลับของสหรัฐฯ

แม้ฝ่าย ACLU จะกล่าวถึงกรณีที่การเก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์ทั้งหมดจะเป็นการวางเป้าหมายกว้างเกินไปและเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย แต่ผู้พิพากษาพอลลี่ย์ก็อ้างว่าหากไม่มีข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้รัฐบาลก็ไม่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้ใช้รายต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลในการต่อต้านการก่อการร้ายได้ ทำให้แม้ว่าการเก็บข้อมูลมีลักษณธกระจายไปในวงกว้างแต่การจำกัดขอบเขตการสอดแนมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทางด้าน ACLU เปิดเผยว่าพวกเขาต้องการอุทธรณ์ต่อศาลชั้นถัดไปในนิวยอร์ก โดยจามีล แจฟเฟอร์ รองผู้อำนวยการด้านกฎหมายของ ACLU กล่าวว่าพวกเขาผิดหวังต่อคำตัดสินของศาลอย่างมาก เนื่องจากศาลตีความกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างผิดๆ กล่าวถึงเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัวน้อยเกินไป และตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการที่คับแคบและล้าสมัย

อย่างไรก็ตามผู้พิพากษาพอลลี่ย์บอกว่าการตัดสินของเขาไม่ได้หมายความว่าการดำเนินโครงการสอดแนมต่อไปจะถือเป็นเรื่องถูกต้อง โดยพอลลี่ย์ยอมรับว่าโครงการสอดแนมเป็นภัยต่อเสรีภาพของประชาชนทุกคนหากไม่มีการตรวจสอบ แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่รัฐสภาและทำเนียบขาวจะต้องดำเนินการอภิปราย ศาลอย่างพวกเขามีหน้าที่แค่ตัดสินว่าโครงการรวบรวมข้อมูลการใช้โทรศัพท์จำนวนมากถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่


เรียบเรียงจาก:

NSA mass collection of phone data is legal, federal judge rules, The Guardian, 27-12-2013
http://www.theguardian.com/world/2013/dec/27/judge-rules-nsa-phone-data-collection-legal