Skip to main content
sharethis

สปส.แนะแรงงานกลับบ้านปีใหม่พกบัตรประกันฯติดตัว หวั่นเกิดเจ็บป่วยกะทันหัน

นางอำมร เชาวลิต เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกันหลายวันตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2556 - 1 ม.ค.2557 จะมีลูกจ้าง ผู้ประกันตนออกเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาเเละไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ จำนวนมาก สปส.จะออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ประกันตนเกี่ยวกับการประกันสังคม เเละสิทธิประโยชน์หากเกิดการเจ็บป่วย ขอให้ผู้ประกันตนพกบัตรรับรองสิทธิฯติดตัวไปด้วย เมื่อเกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือได้รับอุบัติเหตุ เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน ลูกจ้าง ผู้ประกันตนสามารถเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที ทั้งนี้ กิจกรรมจะมีขึ้นในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.โดยจัดที่สถานีขนส่งหมอชิตเเละสถานีรถไฟหัวลำโพง

(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 24-12-2556)

สปส.สำรวจความคิดเห็น "ผู้ประกันตน" จะใช้สิทธิรับ "เงินบำเหน็จ" หรือ "เงินบำนาญ" คาดรู้ผล มี.ค.57

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในปี 2557 กระทรวงแรงงานยังมุ่งส่งเสริมให้แรงงานไทยทั้งในระบบและนอกระบบกว่า 30 ล้านคน ได้รับการคุ้มครองและมีหลักประกันชีวิตที่มั่นคง โดยขยายประกันสังคม มาตรา 40 ไปสู่แรงงานนอกระบบทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ในกรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ ทั้งนี้ในส่วนของสิทธิประโยชน์เงินชราภาพที่มีเงื่อนไขว่า ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปี และเกษียณจากการทำงาน พ้นความเป็นผู้ประกันตนและส่งเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน หรือ 15 ปี จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จ แต่หากส่งเงินสมทบครบ 15 ปี จะได้เป็นเงินบำนาญนั้น เห็นว่าในอนาคตควรจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 15 ปี มีสิทธิเลือกได้ว่าจะรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ

"ในปี 2557 เป็นปีแรกที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะจ่ายเงินบำนาญชราภาพ จึงเตรียมส่งแบบสำรวจความคิดเห็นผู้ประกันตนว่า ประสงค์จะรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ คาดว่าจะสรุปผลสำรวจนี้ได้ในเดือนมีนาคมนี้ จากนั้นจะนำข้อมูลไปหารือในคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) ว่าควรจะแก้ไขให้ผู้ประกันตนสามารถเลือกรับเงินบำเหน็จหรือบำนาญหรือไม่ หากบอร์ด สปส.เห็นด้วย จะแก้ไขกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ผมจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยืนยันร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับเดิม ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว ในวาระที่ 1 ไปก่อน เนื่องจากมีหลายประเด็นที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น การกำหนดให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินสมทบ มาตรา 40 เป็นประจำทุกปี การกำหนดให้ผู้ประกันตนซึ่งไม่มีทายาท คู่สมรส หรือญาติรับสิทธิประโยชน์เงินบำเหน็จชราภาพแทน โดยผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือให้ผู้ใดก็ได้เป็นผู้รับสิทธิประโยชน์นี้แทน หากเสียชีวิต แต่ถ้าไม่มีการทำหนังสือระบุไว้ก็ให้เป็นมรดกแก่ทายาท เป็นต้น" นายจีรศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ นายจีรศักดิ์กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานมีนโยบายและยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำอย่างมี ประสิทธิภาพและทั่วถึง โดยส่งเสริมการจ้างงานในทุกกลุ่ม เช่น นักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษา ผู้สูงอายุ ผู้พิการ มีการอบรมวิชาชีพและพัฒนาทักษะฝีมือ รวมทั้งจัดบริการแนะแนวอาชีพที่เหมาะสมแก่เยาวชนเพื่อให้เลือกเรียนและทำงาน ในสายอาชีพที่ถนัด ยกระดับฝีมือแรงงานไทย รวมทั้งเพิ่มผลผลิต และเตรียมพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ล่าสุด กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเพิ่มเติมขึ้นมาใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรม 44 สาขาอาชีพ เช่น กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อัญมณี เหล็ก ฯลฯ

(ประชาชาติธุรกิจ, 24-12-2556)

แรงงานไทยหนุนไม่เอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยงปีใหม่

น.ส.มณี ขุนภักดี หัวหน้าฝ่ายรณรงค์และเผยแพร่ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้แรงงานต่อกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในโรงงาน จาก 1,391 ตัวอย่าง แบ่งเป็น ชายร้อยละ 43.9 หญิงร้อยละ 56.1 ใน 8 พื้นที่คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี อ่างทอง สระบุรี ปทุมธานีพบว่า ร้อยละ 85.5 เห็นด้วยว่ากฎหมายห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงานมีประโยชน์ ทั้งต่อตัวนายจ้างและลูกจ้าง และร้อยละ 70.7 เห็นด้วยหากงานเลี้ยงปีใหม่ในโรงงานจะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 25.2 ไม่รู้ว่าการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงานผิดกฎหมาย จึงต้องการให้ประชาสัมพันธ์ในโรงงานโดยตรง

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จะขยายเพิ่มช่องทางการรับรู้ของโครงการโรงงานสีขาว ลด ละ เลิกเหล้า ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กระตุ้นให้ผู้ใช้แรงงาน นายจ้างผู้ประกอบการ ตระหนักถึงผลกระทบ ที่สำคัญรับรู้รับทราบกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถาน ประกอบกิจการโรงงานโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ หากดูข้อมูลจากผลวิจัยด้านนโยบายสุขภาพพบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลเสียทางเศรษฐกิจเกือบ 200,000 ล้านบาท และสถิติกลุ่มแรงงานที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพราะดื่มแอลกอฮอล์มีมากถึง 40,000 คน ส่วนใหญ่อายุ 30-44 ปี รองลงมา 15-29 ปี ซึ่งผู้ที่ดื่มหรือเคยดื่มจะขาดงาน เพราะปัญหาสุขภาพ ประสิทธิภาพขณะทำงาน ลดลงกว่าผู้ไม่ดื่มร้อยละ 1.7- 5.7 และในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ หากแต่ละโรงงานจะส่งเสริมให้เกิดงานเลี้ยงปลอดเหล้า ก็จะช่วยให้ประหยัดงบ ลดรายจ่าย ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุได้อย่างแน่นอ

(สำนักข่าวไทย, 26-12-2556)

สมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย เตรียมเสนอรัฐฯ ตั้งคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชน แก้ปัญหาแรงงานแบบบูรณาการ

สมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย หรือ ทีเอฟพีซี เตรียมเสนอรัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน มีสภาหอการค้าไทย และสมาพันธ์ฯ เป็นแกนนำหลัก ในการหาแนวทางการแก้ปัญหาด้านแรงงานของประเทศไทย ให้ปราศจากแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และแรงงานจากการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมงของไทยตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรม
         
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการแรงงานและทรัพยากรมนุษย์สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และคณะกรรมการสมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย กล่าวถึงประเด็นสำคัญ กรณีที่เสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ว่า การจัดตั้งคณะทำงานดังกล่าวจะช่วยให้การแก้ปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมประมง อย่างบูรณาการ สอดคล้องผสานกันในการปฏิบัติงานอย่างมีระบบแบบแผนอันจะก่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดต่ออุตสาหกรรมประมง และเพื่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างรวดเร็ว
         
ทั้งนี้ สมาพันธ์ฯ จะเสนอการตั้งคณะทำงานดังกล่าวผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไข ปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) โดยมีสภาหอการค้าไทยและสมาพันธ์ฯ เป็นแกนนำในการจัดตั้งและดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดตั้งได้ภายในเดือนมกราคม 2557 และหลังจากนั้นคณะทำงานนี้จะหารือร่วมกันในทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็วที่สุด
         
สมาพันธ์ฯ จัดตั้งขึ้นมาจากความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาแรงงานของอุตสาหกรรมประมงและ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย และการเข้าร่วมของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ
         
ล่าสุดสมาพันธ์ฯ ได้มีการลงนามเจตจำนง “หยุดการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย” การจัดทำสมุดปกขาว (White Book) เพื่อบอกกล่าวถึงกิจกรรมที่ได้ดำเนินงานมา ตลอดจนแผนงานในอนาคต และอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาและที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อรวบรวมแล้วเสร็จจะนำเรียนคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป รวมถึงดำเนินการขึ้นทะเบียนเรือประมงให้ถูกกฎหมายครบถ้วนในอนาคตอันใกล้
         
สำหรับภาครัฐนั้นเบื้องต้นคาดว่าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มคร้องแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

(ทีเอฟพีซี, 27-12-2556)

ทีดีอาร์ไอเตือนแรงงานจบใหม่ ป.ตรี ปี 57 เร่งปรับตัวเพิ่มทักษะ

รศ.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงสถานการณ์แรงงานปี 2557 ว่าปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี ) มีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น ส่วนการคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าหลายภาคส่วนคาดว่า สถานการณ์จะยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการส่งออก ปัจจัยการบริโภคในประเทศ การลงทุน และการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านจะชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรก และจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2, 3 และ 4 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานอย่างแน่นอน แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองด้วย หากมีการยืดเยื้อก็อาจจะส่งผลกระทบต่อไปอีก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่สามารถรองรับแรงงานได้หลากหลายระดับ 

อย่างไรก็ตาม หลักการของตลาดแรงงานหากจีดีพีต่ำกว่าร้อยละ 4 อาจจะส่งผลให้มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1 จากเดิมที่มีประมาณร้อยละ 0.7-0.8 โดยเฉพาะในส่วนการจ้างงานอย่างเป็นทางการ เช่นในกลุ่มอุตสาหกรรม ยานยนต์ แปรรูปอาหาร และที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือแรงงานที่จบใหม่ โดยเฉพาะระดับปริญญาตรีที่มีประมาณปีละ 300,000-400,000 คน ที่มีปัญหาการว่างงงานสะสมอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันอาจส่งผลดีกับธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานจะได้แรงงานตามที่ต้องการ เพราะธุรกิจขนาดใหญ่ชะลอการรับคน   ทั้งนี้ ขอเตือนให้แรงงานปรับตัวโดยเฉพาะแรงงานใหม่อาจศึกษาต่อไปก่อนหรือการเพิ่ม ทักษะให้กับตัวเองเพื่อให้ทำงานได้หลากหลายมากขึ้นโดยในส่วนนี้ภาครัฐอาจจะ ต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย.

(สำนักข่าวไทย, 30-12-2556)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net