Skip to main content
sharethis

8 ม.ค.2557 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกจดหมายเปิดผนึกถึง ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) และ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการทำงานของสื่อมวลชน วันเคลื่อนไหวปิดกรุงเทพฯ ของ กปปส. วันที่ 13 ม.ค. โดยมีรายละเอียดดังนี้

จดหมายร่วม 2 สมาคมสื่อถึง ศอ.รส. :

8 มกราคม 2557
 
เรียน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)
 
เนื่องจากคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกาศเคลื่อนมวลชนออกมาปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 มกราคม 2557 นั้น ในฐานะที่ ศอ.รส. มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศภายใต้กรอบของกฎหมายนั้น องค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเป็นห่วงความปลอดภัยและการถูกขัดขวางในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกแขนง จึงขอความร่วมมือกับ ศอ.รส. ดังต่อไปนี้
 
1.ในการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยก็ดี หรือการปฏิบัติการควบคุมฝูงชนก็ดี นอกจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนแล้ว ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่อยู่ในทุกพื้นที่ของการชุมนุมด้วย
 
2. ในบางสถานการณ์ เจ้าหน้าที่อาจประกาศบางพื้นที่เป็นพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษ หรือในกรณีที่มีการปิดล้อมสถานที่ เมื่อมีการแสดงตัวว่าเป็นสื่อมวลชน ด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น บัตรประจำตัวนักข่าวจากต้นสังกัด หรือการแสดงปลอกแขนสื่อสีเขียวอ่อน ขอความร่วมมืออำนวยความสะดวกให้นักข่าวออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วยความปลอดภัย
 
3.ขอความร่วมมือ ศอ.รส. ระมัดระวังในการให้ข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่ายโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกและเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในหมู่ประชาชน จนอาจสร้างความเกลียดชังและเกิดความขัดแย้งขยายรุนแรงยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน โทรทัศน์ในเครือข่ายรวมการเฉพาะกิจ ไม่จำเป็นถ่ายทอดสดแถลงการณ์ของรัฐบาล หรือ ศอ.รส.ในทันที แต่ควรพิจารณาว่าเนื้อหาของแถลงการณ์มีความสำคัญต่อสถานการณ์มากน้อยเพียงใด ทางสถานีโทรทัศน์แต่ละสถานี สามารถใช้ดุลพินิจนำไปเสนอเป็นข่าวทั่วไปเช่นเดียวกับข่าวอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน
 
4.ควรมีระบบการประสานงานที่ชัดเจนด้วยกำหนดตัวบุคคลในการทำหน้าที่ประสานงานของทุกฝ่าย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถประสานเพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
 
ด้วยความเคารพ
 
นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย                                                             

 

จดหมายร่วม 2 สมาคมสื่อถึง กปปส. :

8 มกราคม 2557
 
เรียน เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
 
เนื่องจากคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัติรย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกาศเคลื่อนมวลชนออกมาปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 มกราคม 2557นั้น เพื่อความปลอดภัยและไม่ถูกขัดขวางในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกแขนงและเพื่อการรักษาไว้ซึ่งสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน องค์กรวิชาชีพสื่อ ซึ่งประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอความร่วมมือจากคณะกรรมการ กปปส. ดังต่อไปนี้
 
1.ขอให้จัดพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) ให้กับสื่อมวลชนในแต่ละเวทีปราศรัย ซึ่งจะเป็นที่รวมสื่อมวลชนในทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ทั้งนี้หากเป็นไปได้ควรจัดพื้นที่สำหรับจุดถ่ายทอดรายงานสดของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ด้วย
 
2. สืบเนื่องจากกรณี กปปส.ประกาศเคลื่อนมวลชนออกมาปิดกรุงเทพฯ นั้น ซึ่งโดยข้อเท็จจริงในหลายพื้นที่มีสำนักงานของสื่อมวลชนตั้งอยู่ด้วย โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ต้องมีการขนส่งหนังสือพิมพ์กระจายไปยังผู้อ่านตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่ง กปปส. ควรให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกให้กับรถขนส่งหนังสือพิมพ์หากมีความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องผ่านพื้นที่การชุมนุมในบางจุด รวมทั้งไม่ขัดขวางรถขนส่งหนังสือพิมพ์และรถถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ในทุกกรณี
 
3.ขอความร่วมมือคณะกรรมการ กปปส. ได้ทำความเข้าใจกับผู้ปราศรัยบนเวที ควรหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำหรือการใส่ร้ายป้ายสีสื่อมวลชน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดของผู้ชุมนุมจนนำไปสู่การกระทบกระทั่งหรือปิดล้อมนักข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชุมนุมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้นักข่าวรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย แม้ว่าแกนนำ กปปส.ได้ร่วมเข้ามาแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ในแต่ละเหตุการณ์ แต่องค์กรวิชาชีพสื่อไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผู้ชุมนุมกับนักข่าวในพื้นที่การชุมนุมเกิดขึ้นอีก
 
4.ในกรณีที่มีการปิดล้อมสถานที่ราชการบางแห่ง เมื่อมีการแสดงตัวว่าเป็นสื่อมวลชน ด้วยสัญลักษณ์ต่างๆเช่น บัตรประจำตัวนักข่าวจากต้นสังกัด หรือแสดงปลอกแขนสื่อสีเขียวอ่อน ควรปล่อยตัวนักข่าวให้ออกจากพื้นที่ปิดล้อมในทันที
 
5.จัดให้มีการประสานงานที่ชัดเจน โดยการกำหนดตัวบุคคลในการทำหน้าที่ประสานงานของแต่ละฝ่าย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถประสานเพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันที
 
ด้วยความเคารพ
 
ด้วยความเคารพ
 
นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  

ทั้งนี้ไทยรัฐออนไลน์ รายงานด้วยว่า ทั้ง 2 สมาคมฯ ได้เข้าหารือร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เพื่อกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัย ของ
สื่อมวลชนในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ในการเคลื่อนไหวมวลชนปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ โดยขอให้จัดพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับสื่อมวลชนในทุกเวที

รวมถึงจัดพื้นที่ถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ พร้อมทั้งต้องอำนวยความสะดวกให้กับสื่อมวลชนทุกแขนง ไม่ขัดขวางรถขนส่งหนังสือพิมพ์ รถถ่ายทอดสดในทุกกรณี และขอความร่วมมือ กปปส. ทำความเข้าใจกับผู้ปราศรัยบนเวที ให้หลีกเลี่ยงถ้อยคำใส่ร้ายป้ายสี สื่อมวลชน จนนำไปสู่การกระทบกระทั่งเหมือนที่ผ่านมา หากมีการปิดสถานที่ราชการ แต่มีการแสดงตัวว่า เป็นสื่อมวลชน ด้วยบัตรต้นสังกัด และปลอกแขนสื่อมวลชน ควรปล่อยตัวผู้สื่อข่าวออกจากพื้นที่ทันที ตลอดจนหากมีเหตุฉุกเฉิน ให้แต่ละฝ่ายสามารถประสานงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันที

ขณะที่ นายสุเทพ ยืนยันเคารพสิทธิ เสรีภาพของสื่อมวลชนมาโดยตลอด แต่ยอมรับมีสื่อมวลชนบางประเภท บางสื่อเท่านั้น ที่มุ่งเป้าโจมตี กปปส. จนทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมอารมณ์ของผู้ชุมนุม พร้อมทั้งรับปากว่า จะช่วยดูแลให้สื่อมวลชน สามารถนำเสนอข่าวได้อย่างเสรีภาพ โดยมีจุดประสานงานกลาง อยู่ที่เวทีปทุมวัน และตั้งผู้ประสานงานทั้งสองฝ่ายในทุกเวทีเพื่อทำงานร่วมกัน

ทั้งนี้ ยอมรับว่า หนักใจใน 2 เวที ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อเเหลม คือ เวที 5 แยกลาดพร้าว และที่ศูนย์ราชการเเจ้งวัฒนะ เพราะเป็นพื้นที่ใกล้กับการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ใด ขอให้สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และควรหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net