สุเทพ เทือกสุบรรณเปิดคลิปปี 53 อัด นปช. ทำรุนแรง-เพื่อทักษิณ - ย้ำ กปปส. จะยึดแนวสันติ 'ปิดกรุงเทพ' 13 ม.ค. นี้พ่อค้าแม่ขายไม่ต้องตกใจ ให้เปิดร้านปกติ ผู้ชุมนุมเป็นคนมีสตางค์จะไปอุดหนุน ลั่น กปปส. ไม่ถอย-จะสู้เพื่อไม่ให้พวกยิ่งลักษณ์มีที่อยู่ที่ยืน

เมื่อคืนวันที่ 11 ม.ค. นี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน โดยสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้ที่ ถ.ราชดำเนิน ได้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เดินทางล่วงหน้ารอปฏิบัติการ "ยึดกรุงเทพฯ" ที่จะจัดในวันที่ 13 ม.ค. นี้

ขอบคุณทุกฝ่ายที่มาร่วมจัดงานวันเด็ก กปปส.

สุเทพกล่าวด้วยว่าในตอนเช้าวันเสาร์พี่น้องมวลประชาชนได้ร่วมกันจัดงานวันเด็กคงเป็นงานวันเด็กครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่จัดบนถนนราชดำเนิน มีเด็กๆ มาร่วมงานเยอะมาก มีพี่น้องมวลชนมาช่วยกันทำให้งานวันเด็กของมวลมหาประชาชนคึกคัก สนุกสนาน เด็กๆ มีความสุข ผมพลอยปลื้มใจแทนเด็กๆ ทั้งหลายด้วย ขอบคุณมวลมหาประชาชนที่มีน้ำใจต่อเด็กที่จะเป็นอนาคตของประเทศไทย โดยสุเทพขอให้ผู้ชุมนุมช่วยกันปรบมือผู้สนับสนุนให้เกิดงานวันนี้ขึ้น

นอกจากนี้สุเทพกล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เพราะมีประชุมกับ กปปส. คณะต่างๆ และคณะที่มาจากต่างจังหวัด และมีหลวงพ่อจากอุดรธานีนำเงินมามอบให้แสนกว่าบาทเพื่อสมทบครัวราชดำเนิน จนกระทั่งเวลา 13.30 น. ผมไปทานก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมูเยื้อง ร.ร.ดินสอ ตอนไปทานร้านยังไม่เปิด พอเข้าไปนั่งที่ไหนได้มีพี่น้องประชาชนหลายร้อยคนมายืนรอถ่ายรูปกับผม เฉพาะถ่ายรูปใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถ่ายไม่ถ่ายเปล่า พี่น้องประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่มอบเงินสมทบกองทุนครัวราชดำเนิน 3.3 แสนบาท เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นไปกินก๋วยเตี๋ยวแล้วได้เงินกลับบ้าน จากนั้นได้กล่าวถึงกลุ่มต่างๆ ที่นำเงินมาบริจาคให้

เล่าเรื่อง นปช. ปี 2553 ระบอบทักษิณปลุกระดมให้มีความเกลียดชัง มีวาทกรรมไพร่-อำมาตย์

จากนั้น สุเทพได้เล่าถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ต่อจากเมื่อวานนี้ที่เล่าในเหตุการณ์ในปี 2552 และวันนี้จะเล่าเหตุการณ์ปี 2553 ว่าการต่อสู้ของ นปช. สู้เพื่อทักษิณ ต่างจากการต่อสู้ของ กปปส. ที่สู้อย่างสันติ ปราศจากอาวุธ ไม่มีความรุนแรง อหิงสา โดย กปปส. สู้เช่นนี้เป็นสิ่งประเสริฐเลิศเลอแล้วขอให้ภาคภูมิใจ

โดยวันนี้สุเทพได้นำคลิปวิดีโอการชุมนุมของ นปช. ในปี 2553 มาฉาย โดยกล่าวว่า "หลังการจลาจลปี 2552 รัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่มีเขาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สามารถคลี่คลายให้สถานการณ์เข้าสู่ความสงบเรียบร้อยตั้งแต่ 14 เม.ย. 2552 สำเร็จด้วยเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหลายมาช่วยทำหน้าที่ดูแลรักษาบ้านเมือง ขอบคุณทหารเหล่านั้นที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสงบเรียบร้อย ส่งมวลชนทั้งหลายกลับบ้านโดยไม่มีใครเสียชีวิตเลย"

สุเทพกล่าวว่าหลังการชุมนุมปี 2552 ฝ่ายระบอบทักษิณไม่หยุด มีการปลุกระดมให้คนไทยเกลียดชังกัน บอกว่าประเทศไทยไม่มีความเสมอภาค ไม่มีความยุติธรรม มีชนชั้นอำมาตย์กับชนชั้นไพร่ บอกว่าคนชนชั้นอำมาตย์ข่มเหงรังแก เอารัด เอาเปรียบ ประชาชนคนชั้นไพร่ ทำให้ไพร่มีความทุกข์ไม่ได้รับความยุติธรรมทำให้มวลชนลุกขึ้นทำการโค่นล้มอำมาตย์ บอกว่าล้มได้ไพร่จะได้มีชีวิตดีขึ้น มีการปลุกระดมกันเป็นระบบมีการตั้งโรงเรียน นปช. มีหมู่บ้านแดง จะรณรงค์ให้เกิดหมู่บ้านแดงทั้งแผ่นดิน มีการชุมนุมย่อยๆ ตามจังหวัดต่างๆ ปูกระแสไว้รองรับการชุมนุมใหญ่ บอกว่ากฎหมายในประเทศไทย ศาลยุติธรรมเป็นสองมาตรฐาน ถ้าพวกทักษิณทำผิดหมด คนอื่นทำไม่ผิด เขาบอกไม่ยุติธรรม ต้องต่อสู้

"พี่น้องทั้งหลายครับ ชัดเจน เขาปฏิบัติการแบบนี้ตลอดปี 2552 ทั้งปี ไปโกหกพี่น้องชนบท ในหมู่บ้าน ตำบลที่ไม่รู้ความจริง บอกว่าเหตุการณ์ในปี 2552 ทหารฆ่าประชาชนไปหลายร้อยคน เอาศพไปซ่อน ตัดต่อเทปเสียงคุณอภิสิทธิ์ที่ออกรายการพบประชาชนทุกวันเสาร์ เอามาต่อใหม่ทีละวรรค ทีละประโยคกลายเป็นอภิสิทธิ์สั่งฆ่าประชาชน แต่โชคดีมีเจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งที่ทำงานแข็งแรงโดย พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รวบรวมภาพไปรับฟังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้วมีการรับร้องเรื่องราวร้องทุกข์ว่าถ้ามีใครไปชุมนุมแล้วไม่ได้กลับบ้านจะติดตามให้ ปรากฏว่าไม่มีคนหาย"

นปช. ชุมนุมด้วยความรุนแรง - สุเทพต้องขึ้น ฮ. หนีออกจากรัฐสภา

จึงเห็นว่าจตุพร ณัฐวุฒิโกหกประชาชน แต่มีคนจำนวนมากที่หลงเชื่อเขา แล้วรู้สึกไม่พอใจ รู้สึกเจ็บแค้น ยอมเข้าร่วมกับกลุ่ม นปช. แล้วก็เตรียมการชุมนุมใหญ่ในปี 2553 ซึ่งเป็นการชุมนุมหลังการตัดสินคดีของทักษิณ ชินวัตร มีการชุมนุมอย่างรุนแรง เช่นมีการยิงจรวดใส่วัดพระแก้ว หรือยิงปืนเอ็ม 79 ใส่กระทรวงสาธารณสุข วางระเบิดศาลากลางนนทบุรี ขว้างระเบิดกรมบังคับคดี ขว้างระเบิดใส่ราบ 11 บ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา ยิงระเบิดใส่ลานจอดรถทำเนียบรัฐบาล ฯลฯ

สุเทพเล่าด้วยว่าที่รัฐสภา นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ได้ไปปิดล้อมด้วยอาวุธ ตัวเขานั้นติดในสภาแต่ออกไปได้เพราะทหารเอาเฮลิคอปเตอร์มารับ คนเหล่านั้นไม่ได้ต่อสู้ทางการเมืองโดยสุจริตใจ โดยเคารพกฎหมาย้บ้านเมือง ไม่ได้สู้ตามสิทธิพลเมือง แต่ก่อการร้ายบีบให้รัฐบาลยอมจำนน เพื่อยึดอำนาจรัฐ และเขาทำอย่างเปิดเผย นอกจากนี้สุเทพได้เปิดคลิปปราศรัยและกล่าวว่า อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ปราศรัยรุนแรงไม่เหมือนอัญชะลี ไพรีรักษ์ที่ชวนพี่น้องไปบ้านยิ่งลักษณ์เอาดอกไม้ไปให้ ไม่ได้คิดเอาเลือดหัวชั่วๆ ของยิ่งลักษณ์มาล้างเท้าเหมือนที่อริสมันต์ประกาศ

สุเทพปราศรัยว่า ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็ปราศรัยในสภาปั่นป่วน ก่อกวนให้สภาล่ม มวลชนก็ชุมนุมอยู่ที่นี่ และก่อการร้ายคู่ขนานกันไป เตรียมกองกำลังติดอาวุธเตรียมการมาเพื่อทำสงครามเจ้าหน้าที่รัฐให้กลายเป็นสงครามกลางเมือง สอดประสานกันทั้งสามส่วน เขาเรียกกันเองว่า "เขามีแก้วสามประการ" โดยเปิดคลิปการปราศรัยของอริสมันต์ว่ามีแก้วสามประการที่ว่า "มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เขาพร้อมสนับสนุนปกป้องคนเสื้อแดง" โดยสุเทพปราศรัยว่าฝ่ายมึงนั่นแหละ และกล่าวว่าเวลา นปช. เคลื่อนไปที่ไหน ก็ไปทำร้ายคนกรุงเทพฯ ทำให้คนกรุงเทพฯ อกสั่นขวัญแขวน วันที่ 9 เม.ย. ก็ไปบุกสถานีดาวเทียมไทยคม ไปทำร้ายทหาร ไม่น่าเชื่อว่าเขาทำร้ายทหารขนาดนี้

10 เม.ย. มีกองกำลังชายชุดดำ รัฐบาลจึงต้องยึดพื้นที่คืน

สุเทพปราศรัยต่อไปว่า พอวันที่ 10 เม.ย. ร้ายกว่านั้นตรงนี้ครบ สี่แยกคอกวัว ตรงสตรีวิทย์ เขาเอากองกำลังชุดดำติดอาวุธคลุมหัวเป็นไอ้โม่งมาเข่นฆ่าทหาร เจ้าหน้าที่ และผู้ชุมนุมเพื่อสร้างสถานการณ์ และมีการฉายคลิปเหตุการณ์สี่แยกคอกวัว เฉพาะช่วงที่ทหารถูกโจมตี นอกจากนี้มีการฉายภาพการอพยพของ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และต้องย้ายพระสังฆราชองค์ก่อนไป รพ.ศิริราช ทั้งที่จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นเด็กวัดบวรนิเวศขอให้ดูมันทดแทนคุณข้าวก้นบาตรพระสังฆราช

มีการก่อเหตุร้ายไม่เว้นแต่ละวัน ยิงปืน M-79 ใส่รถไฟฟ้าบีทีเอสสีลม ทำให้แม่ค้าข้าวแกงเสียชีวิตคาที่ และวันที่ 19 พ.ค. ตอนที่เข้าไปยึดคืนพื้นที่ ทำให้มีทหารชีวิต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศเสียชีวิต และฉายคลิปณัฐวุฒิ ใสยเกื้อที่ประกาศยุติการชุมนุม และสุเทพปราศรัยต่อว่าที่มีการเผานั้น เนื่องจากแกนนำสั่งไว้ก่อนแล้ว โดยมีการฉายคลิปปราศรัยของอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ และทักษิณ ชินวัตร

"พี่น้องเห็นไหมครับ มันสัตว์ครอกเดียวกันจริงๆ ทั้งตัวนาย ตัวขี้ข้า สั่งเผาบ้านเผาเมือง มันถึงเกิดเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เผาศาลากลาง เพราะสั่งการอย่างนี้ ผมจึงเตือนสติพี่น้อง เราไม่ทำแบบนั้น เราเป็นคนดี เราเป็นพลเมืองดี เราไม่ใช่สัตว์ร้าย"

ย้ำปิดกรุงเทพ 13 ม.ค. ไม่ต้องตกใจ เป้าหมายคือหยุดข้าราชการ ระบบขนส่งเปิดปกติ

สุเทพกล่าวต่อว่า "วันพรุ่งนี้จะมีมวลมหาประชาชนจากทุกจังหวัดเดินทางมาสมทบกับพี่น้องกรุงเทพฯเพื่อปฏิบัติการยึดเมืองหลวง ปิดกรุงเทพฯในวันมะรืนนี้ 13 มกราคม แต่พี่น้องชาวกรุงเทพไม่ต้องตกใจครับ เราไม่ขวดแก้วคนละขวด น้ำมันคนละลิตร เรามือเปล่า เราไม่มีอาวุธครับ เราจะไม่ทำอันตรายพี่น้องชาวกรุงเทพฯ แม้แต่คนเดียว เพราะเป็นพี่น้องประชาชนเหมือนกัน เราตั้งใจอย่างเดียวคือให้รัฐบาลนี้เป็นอัมพาตสั่งงานไม่ได้ ไม่มีคนทำงานให้รัฐบาลต่อไป นั่นคือวัตถุประสงค์ของการปิดกรุงเทพฯ"

"ปิดกรุงเทพเพื่อให้ข้าราชการไม่ต้องไปทำงาน ทุกกระทรวง ทบวง กรมต้องหยุดทำงาน ไม่เป็นเครื่องมือให้ระบอบทักษิณอีกต่อไป ส่วนพี่้น้องประชาชนคนไทยอื่นเชิญใช้ชีวิตตามปกติ อึดอัดขัดข้องบ้างคือไปไหนมาไหนไม่สะดวก รถเมล์ รถ บขส. รถไฟวิ่งเหมือนเดิม เครื่องบินบินเหมือนเดิม รถไฟฟ้าใต้ดิน บีทีเอสวิ่งเหมือนเดิม ไม่มีใครจะต้องเดือดร้อนจนถึงขั้นแสนสาหัส"

ขอให้ค้าขายตามปกติ เพราะผู้ชุมนุมมีสตางค์ ไม่ใช่โจรห้าร้อย

"และแม้ถนนที่เราปิดที่เราประกาศแล้วว่าปิดแจ้งวัฒนะ ห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สี่แยกปทุมวัน ลุมพินี ราชประสงค์ และอโศก แม้ที่ๆ เราประกาศปิดเหล่านี้ เรายังมีเลนพิเศษให้รถเมล์ รถทัวร์วิ่งได้ ให้รถของโรงแรมวิ่งได้ ให้แท็กซี่ติดธงชาติ วิ่งได้ และให้รถขนอาหารวิ่งได้ เชิญค้าขายปกติ เพราะเราตั้งใจไปอุดหนุน เพราะเราเป็นผู้ชุมนุมที่มีสตางค์ พี่น้องย่านธุรกิจไม่ต้องตกใจ ทำมาหากินค้าขายปกติ เพราะที่มาปิดคราวนี้เป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น ไม่ใช่โจรห้าร้อยแบบจตุพร ณัฐวุฒิ วีระ แบบขี้ข้าทักษิณ"

"เราได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยกับพ่อค้า แม่ขาย ราชประสงค์ วันนี้คุณพุฒิพงศ์ ปุณณกันต์ ไปทำความเข้าใจ ว่าให้ฟังพวกเรา เรามาดี ไม่ใช่คนร้าย ไม่ใช่โจร ไม่ปล้นแบรนด์เนม ไม่ปล้นร้านเพชร เปิดร้านเราจะไปอุดหนุน ร้านอาหารจะไปจ่ายตังต์ด้วยไม่ไปกินฟรี กินฟรีมากินที่ครัวของเรา"

ถ้ามีการปราบปราม "อ.เสรี" จะด่าถึงโคตร และผู้ชมุนุมจะนั่งสวดมนต์

"แม้ว่าฝ่ายตำรวจ ฝ่ายรัฐบาลจะวางแผนใช้อำนาจ ใช้กำลัง ที่จะเข้ามาปราบปรามกับเรา นี่ได้ยินแล้วว่า 13 ม.ค. จะเข้ามาเวทีราชประสงค์ มาเถอะมาเจอ เสรี วงศ์มณฑา ด่าถึงโคตรพ่อโคตรแม่แล้วกัน ไม่มีอาวุธ มีแต่มือเปล่า มีปาก และเตรียมบทสวดมนต์แจกใส่กระเป๋าทุกคน ถ้ามันมารุนแรง เรานั่งลงสวดมนต์ สวดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ บทชัยสิทธิคาถา อุทิศส่วนกุศลให้โคตรพ่อโคตรแม่มันด้วย ไม่มีความรุนแรง เพราะเราเป็นคน ไม่ใช่สัตว์ เราเป็นพลเมืองดี ไม่ใช่โจรห้าร้อย เราสู้เพื่อแผ่นดินไทย เพื่อประเทศไทย ปฏิรูปประเทศนี้ ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อพ่อมันที่อยู่ดูไบได้กลับประเทศอย่างเท่ๆ แบบที่พ่อมันทำ"

กปปส. จะไม่ถอย จะสู้จนชนะ ไม่ให้พวกยิ่งลักษณ์มีที่อยู่ที่ยืน

"แต่บอกได้อย่างเดียว ยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่นี้ต่อไปมวลมหาประชาชนออกมาแล้ว ไม่ถอยแล้วต้องสู้จนชนะ และพวกคุณจะไม่มีที่อยู่อีกแล้วต่อไปนี้ ทรัพย์สมบัติที่โกงชาติบ้านเมืองไป ไม่ว่าจะโกงด้วยจำนำข้าว  โครงการแก้ปัญหาน้ำ โครงการอื่นๆ สารพัด เที่ยวนี้เราจะยึดคืนให้หมด เพราะเป็นของประชาชนคนไทย แล้วไม่ต้องกลัว ว่าเราจะทำเหมือนที่อริสมันต์ประกาศว่าจะไปเอาเลือดหัวชั่วๆ มาล้างเท้า เพราะเลือดของคุณมันชั่วเกินกว่าที่จะมาเปื้อนเท้าของมวลมหาประชาชน"

"เราไม่ต้องการเลือดของคุณ เราไม่ต้องการหัวของคุณ เก็บทั้งเลือดทั้งหัวเอาไว้ แล้วดูความวิบัติเสียหายที่จะเกิดกับคุณ เราจะดำเนินการกับพวกคุณตามกระบวนการยุติธรรม ตามกฎหมายทุกอย่าง มีฤทธิ์มีแรงเชิญ ทำอะไรก็ทำ แต่เราไม่กลัวพวกคุณอีกต่อไปแล้ว แต่เรากลัวประเทศจะวิบัติเสียหาย เพราะฉะนั้นต้องจัดการให้พวกคุณพ้นไปจากอำนาจในประเทศไทย"

"ไม่ว่าจะใช้สุรพงศ์ หรือเฉลิม อดุลย์ วรพงศ์ คำรณวิทย์ เราไม่กลัวทั้งนั้น ไม่มีการประนีประนอม ไม่เจรจากันอีกแล้ว เราจะสู้จนกว่าจะมีชัยชนะของมวลมหาประชาชน เอาอำนาจอธิปไตยที่คุณใช้อย่างทรยศประชาชน คืนกลับมาเป็นของประชาชน แล้วเราจะเอาอำนาจนั้นมาปฏิรูปประเทศไทยเพื่อลูกหลานเรา นี่คือสิ่งที่เราจะทำ"

จะทุบหม้อข้าวยุบเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปปักหลัก 7 เวที

สุเทพกล่าวว่า "พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด ถ้าพรุ่งนี้มาถึงที่นี่ตอนกลางวัน รีบมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เวทีของอนุสาวรีย์ประชาธิไตย คืนพรุ่งนี้ ปิดเวที รื้อเวที ทุบหม้อข้าวสู้กับทรราชย์ แต่ถ้าท่านมาแล้วถูกขัดขวางทำให้การเดินทางไม่สะดวก มาไม่ทัน ไม่เป็นไร ชอบใจตรงไหน ไปตรงนั้น 1. ที่แจ้งวัฒนะ มี กปปส. ภาคกลาง 7 จังหวัด หลวงปู่พุทธอิสระเป็นที่ปรึกษา อีกด้านหนึ่ง ปิดด้านที่ติดกับ ถ.วิภาวดี พี่น้องสนใจไปชุมนุมแจ้งวัฒนะตรงไปได้เลย"

"2. ถ้าพี่น้องไม่สะดวกไปตรงนั้นจะไปเวทีลาดพร้าว อิสระ สมชัย และพี่น้องภาคตะวันออกเฉียงเหนือรับผิดชอบ 3.เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถาวร เสนเนียม จะรับผิดชอบ 4. เวทีแยกปทุมวัน คุณสาธิตย์ วงศ์หนองเตย ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรอต้อนรับมวลมหาประชาชนด้วยความยินดี 5. ที่เวทีลุมพินี คณะกรรมการนักธุรกิจประชาธิปไตย กลุ่มชมรมชาวสีลม มีวิทยา แก้วภารดัย ชินวรณ์ บุณยเกียรติ จะจัดเวทีต้อนรับพี่น้องต่างจังหวัด ข้ามสะพานมาลงตรงนั้น 6.เวทีราชประสงค์ คึกคักที่สุด เสรี วงศ์มณฑา แล้วก็ชุมพล จุลใส พุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ ร่วมกับดารา ศิลปิน นักร้อง นักแสดง คับคั่งตลอดรายการ 7.เวทีไกลสุดด้านตะวันออก คือแยกอโศก จะมีณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, ทยา ทีปสุวรรณ และสกลธี ภัททิยกุลรออยู่ พร้อมทีมพี่น้องชาวสุขุมวิท หมอ พยาบาลเพรียบพร้อม มีรายการบนเวที ออกปฏิบัติการยึดเมืองร่วมกับเวทีอื่นๆ จะเป็นการปฏิบัติการทางการเมืองเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินที่พี่น้องจะได้จำจารึกไว้"

"และให้พี่น้องสบายใจ ไม่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย จะมีหมอและพยาบาลมาหมดประเทศ อยู่กระจายทุกเวที ที่อโศก ลาดพร้าว ไกลจากโรงพยาบาลอื่นๆ เราจะตั้งโรงพยาบาลสนาม พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย วันพรุ่งนี้ 12 ม.ค. พวกผมก็จะมาพูดมาคุยกับพี่น้องทั้งหลาย ถึงรายละเอียด ขั้นตอนในการปฏิบัติตามแผนยึดกรุงเทพฯ ปิดกรุงเทพฯ พี่น้องจะได้รับแจ้งเป็นระยะ เรากระทำเปิดเผย ไม่มีแผนลับ ไม่มีเรื่องลับๆ ทั้งสิ้น เราทำชัดเจน ไม่กลัวยิ่งลักษณ์และบริวาร เพราะใจเราใหญ่เหนือความกลัวแล้ว"

จากนั้นสุเทพได้เชิญ กปปส. ภาค 7 หรือภาคกลาง ที่รับผิดชอบเวทีหลักศูนย์ราชการ นำโดย ราเชน ตระกูลเวียง และณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม มาแนะนำกับผู้ชุมนุมด้วย