พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ระบุ "กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ" จะปักหลักผ่านฟ้าลีลาศต่อไป-ตรึงพื้นที่ด้านตะวันตกของ กทม. ขณะที่สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เชื่อไม่มีเลือกตั้งแน่นอน เมื่อตั้งรัฐบาลประชาชนแล้วจะอายัดทรัพย์บุคคล 200 รายชื่อในเครือข่ายระบอบทักษิณ และจะเรียกมาชี้แจงที่มาทรัพย์สิน

พล.อ.ปรีชาระบุ 13 ม.ค. คปท. จะปักหลักที่สะพานผ่านฟ้า เพื่อยึดด้านตะวันตก กทม.

ที่มาของภาพ: FMTV

13 ม.ค. 2557 - สถานีโทรทัศน์ FMTV เผยแพร่คลิปการปราศรัยของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์นั้น เมื่อคืนวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังการเคารพธงชาติของผู้ชุมนุม ได้มีการประกาศภารกิจของ กปท. ในการชุมนุมร่วมกับ กปปส. วันที่ 13 ม.ค. โดย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ คณะเสนาธิการร่วม กปท. ได้ปราศรัยว่า "วาระสุดท้ายของแก๊งค์ทรราชย์ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ จะมาถึงในไม่ช้านี้แล้ว ผมเชื่อว่ามวลมหาประชาชนที่จะมากันในวันนี้ วันพรุ่งนี้ และวันที่ 13 ตามนัดหมายของลุงสุเทพนั้น จะไม่ต่ำกว่า 3 เท่าจากครั้งที่แล้ว"

"เพราะคนในชาติทนความเหลวแหลก ความชั่วช้า เลวทราม ของแก๊งค์ทรราชย์ที่เปิดเผยออกมาโดยลำดับ แล้วก็ดิ้นรนหนีความชั่วของตัวเอง และในที่สุดก็หนีไม่พ้นกรรมของมันเอง ภารกิจของกองทัพประชาชนและกองทัพธรรมที่เราจะทำงานร่วมกันเสมอเป็นหนึ่งเดียว ที่จะหนุนช่วยกำนันสุเทพให้เอาชนะกบฎทรราชย์ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณให้สิ้นซากในวันที่ 13 ม.ค. นั้น เราจะชุมนุมกันอย่างแข็งแกร่ง ตามสภาพกำลังของเรา คือบริเวณแยก จปร. ห้าแยกผ่านฟ้า และแยกวิสุทธิ์กษัติรย์ ถ้าเราทำเช่นนั้นได้ เราจะสามารถปิดฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ไว้ได้อย่างแน่นหนา"

"ในขณะเดียวกัน เราจะมีศักยภาพที่จะไปเชิญชวน กดดันพี่น้องข้าราชการกระทรวงต่างๆ ให้หยุดการปฏิบัติงานมาอยู่กับเราให้เร็วที่สุด"

สมเกียรติระบุจะแบ่งกำลังไปยึดศูนย์ราชการ จะไม่หวังพึ่งกองทัพ และเชื่อว่าจะไม่มีเลือกตั้งแน่นอน

ที่มาของภาพ: FMTV

หลังจากนั้น สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ได้ปราศรัยว่า มีข้อคิด 2 เรื่อง หนึ่ง เชื่อว่างานนี้ต้องมีผู้ชุมนุมมาสามเท่าของครั้งที่แล้ว เพราะว่าไม่เคยปรากฏมาก่อนในภาคอีสานที่ครั้งที่แล้วมาสามร้อยคน คราวนี้มาเกือบหมื่นคนใน 1 จังหวัด ส่วนพี่น้องภาคใต้ไม่ต้องพูดเพราะคำนวณกับวิทยา แก้วภราดัยว่ามา 1 ล้านคน โดยเชื่อว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมสิบล้านคน ทั้งนี้สมเกียรติระบุว่า ในการเคลื่อนไหวมาอย่างยาวนานในชีวิตนั้น ไม่เคยพบว่าคนตื่นตัวเท่าครั้งนี้ และการต่อสู้ก็ได้รับการสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามการนัดหมายของผู้ชุมนุมมีอุปสรรคมากมาย เช่น รถไฟไม่ออก รถไฟหยุด "ไม่รู้สาเหตุอะไร เขาหยุด แล้วเราไปต่อว่าเขา เขาก็มา แล้วรถยนต์ก็หาเหมามาไม่ได้ พี่น้องต้องมาตั้งแต่ 10 - 11 -12 ใช่ไหมครับ ผมได้รับโทรศัพท์จากกระบี่ จะมาห้าหมื่นคน จังหวัดนครศรีธรรมราชเจ็ดหมื่นคน แล้วผมได้รับจังหวัดหนึ่งชัยนาท ผมไม่เคยจัดเวทีพันธมิตรเลย เขาก็มาหลายพันคน"

สมเกียรติระบุว่าในวันที่ 13 ม.ค. นั้น เขาได้รับมอบหมายจากสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ให้รับผิดชอบไปยึดศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยเขาเชิญชวนผู้ชุมนุมว่า "ถ้าท่านใดต้องการไปร่วมงานกับผมขอเชิญ" ทั้งนี้จะมีการตั้งเวที 2 ช่วงบน ถ.แจ้งวัฒนะ เวทีแรกคือ ปิดด้านติดกับ ถ.วิภาวดีรังสิต และอีกเวทีจะตั้งหน้ากรมดีเอสไอ แกนนำคือหลวงปู่พุทธะอิสระ โดยสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีจะถ่ายทอดสดที่เวทีด้านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนเวทีด้าน ถ.วิภาวดีรังสิต จะถ่ายทอดสดทางช่อง 13 สยามไทย

สมเกียรติระบุด้วยว่า การชุมนุมของ กปท. จะไม่รบกวนศาล และ บก.กองทัพไทย แต่ได้ข่าวว่าทั้งสองหน่วยงานก็จะหยุดราชการ เขาออกตัวด้วยว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมาพูดบ่อย เพราะเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เก่งหลายคนแล้ว และช่วงนี้เขาก็ไม่สบายด้วย ตอนท้ายเขากล่าวว่า "อยากบอกท่านว่าการรบครั้งนี้ การยุทธหัตถีครั้งนี้ ในความคิดเห็นของผมเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าเรามาสิบกว่าล้านคน คนอื่นมองไม่เห็นเราจะให้ใครมอง เราต้องมองตัวเอง เราจะหวังคนอื่นล่ะ องค์กรอื่น กองทัพสีเขียว เราก็ไม่หวังพึ่ง ตำรวจจำนวนหนึ่งเป็นศัตรูเรา และมิตรเรา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เขาพร้อมทำงานรัฐบาลใดๆ ก็ได้ เพราะเขาเชื่อว่าแก๊งค์ทรราชย์ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ไปไม่ได้แล้ว ส่วนไอ้แจ๊ดผมได้ยินว่าไปยื่นใบลาออกแล้ว แต่มีคนสั่งยับยั้งตัวเองไม่ให้ออก แล้วท่านจะหนีไปไหน"

"ผมเชื่อว่าการเลือกตั้งไม่เกิดแน่นอนแล้ว ส่วนแก๊งค์อันธพาล แก๊งค์ทรราชมีไม่ต่ำกว่า 200 คนที่จะหนี แล้วสุเทพจะอายัดทรัพย์ทั้งหมด แล้วให้มาพิสูจน์ทราบว่าได้เงินมาอย่างไร คนส่วนใหญ่ก็จะบอกไม่ได้ ดังนั้นในวันนี้พี่น้องทำใจให้สบาย ไม่ต้องเครียด ผมประจำที่แจ้งวัฒนะ ผมมีความหวังว่าในปีใหม่ วันใหม่ เราจะได้ประเทศไทยที่สมบูรณ์พร้อมปฏิรูปการเมืองไทยก่อนการเลือกตั้ง"