หนุน 2 เอา 2 ไม่เอา พร้อมยก 4 นิ้ว ดันกฎหมายกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม

ชาวชุมชนบ่อแก้ว จ.ชัยภูมิ ร่วมชู เอาเลือกตั้ง-การปฏิรูป ไม่เอารัฐประหาร-ความรุนแรง พร้อมชูนิ้ว 4 รณรงค์กฎหมายที่ดิน 4 ฉบับ นำไปสู่การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมในสังคม
 
 
17 ม.ค.2557 ชาวชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มีมติชุมชนร่วมชู 2 เอา 2 ไม่เอา คือ เอาเลือกตั้งและการปฏิรูป ไม่เอารัฐประหารและความรุนแรง พร้อมชู 4 นิ้วรณรงค์กฎหมายที่ดิน 4 ฉบับ เพื่อนำไปสู่การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมในสังคม
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวชุมชนบ่อแก้วต่างแสดงเหตุผลไปในทิศทางเดียวกันว่า แม้พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้าน แต่ก็เป็นประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ไม่อยากเห็นการนองเลือด ไม่ต้องการให้เกิดการมีรัฐประหาร และพร้อมที่จะสนับสนุนการเลือกตั้ง ร่วมกันปกป้องประชาธิปไตย เพราะจากปัญหาของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณจะก่อให้เกิดความแตกแยกและเกิดความรุนแรงไปทั่วทุกจุดในประเทศ เหมือนเมื่อปี 2553 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการปราบปรามประชาชน ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตไปกว่าร้อยศพ บาดเจ็บอีกนับพัน
 
ชาวชุมชนบ่อแก้วไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่การนองเลือดมากกว่านี้ เพราะอาจเป็นเหตุให้ทหารเดินแถวเข้ามาทำการรัฐประหาร ซึ่งจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยที่มีมานานกว่า 80 ปี ต้องมีอันเป็นไป ถอยหลังเข้าคลองเหมือนอย่างทีเคยเป็นอีก
 
“อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมกันหันมาสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ตามวิถีระบอบประชาธิปไตยต่อไป จึงได้ร่วมกันยกกำปั้นชู 2 นิ้วขึ้นทั้งสองข้าง เพื่อสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ตามแนวทางประชาธิปไตย และคัดค้านความรุนแรง ที่อาจเกิดให้มีรัฐประหารเกิดขึ้น” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว
 
ส่วนการชู 4 นิ้วนั้น เป็นสัญลักษณ์ของการที่จะร่วมกันรณรงค์กฎหมายที่ดิน 4 ฉบับ เพื่อนำไปสู่การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมในสังคม ได้แก่ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินก้าวหน้า พ.ร.บ.กองทุนธนาคารที่ดิน พ.ร.บ.รับรองสิทธิที่ดินชุมชน และ พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม
 
ชาวชุมชนบ่อแก้ว ระบุว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังไม่มีภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า ฉะนั้นผู้ที่ถือครองที่ดินจำนวนมากเท่าใด ต้องจ่ายภาษีในอัตราเดียวกัน ด้วยวิธีการดังกล่าวจะทำให้คนรวยที่ถือครองที่ดินมากแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว นอกจากต้องจ่ายภาษีในอัตราที่สูงมาก จะทำให้คนรวยหรือนายทุนนั้นๆจำหน่ายที่ดินออกไปสู่การปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้มีการกระจายการถือครองประโยชน์ในที่ดินเพื่อการผลิตสู่คนจนที่ไม่มีที่ดินทำกินได้ ส่วนกองทุนธนาคารที่ดิน คือกลไกทางการเงินเพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า เงินที่ได้จากการจัดเก็บจะนำมาช่วยส่งเสริมการกระจายที่ดินไปยังคนจน เป็นต้น
 
ชาวชุมชนบ่อแก้ว ให้เหตุผลกันต่อไปว่า การชุมนุมของกลุ่ม กปสส.ที่ผ่านมา จะทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาฯ ด้วยความเสียสละ ยอมถอย เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย คืนอำนาจให้กับประชาชนเลือกตั้งใหม่ แต่พวกเขามองต่อว่าการสานต่อนโยบายในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การต่อสู้ที่มีมาอย่างต่อเนื่องในระดับนโยบายนั้น ภายหลังจากที่การเลือกตั้งผ่านไปในวันที่ 2 ก.พ.57 นั้น พรรคการเมืองใดก็ตามที่ได้มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว จะต้องมีการดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ตามมติ ครม.ที่ได้มีผลบังคับใช้มาแล้ว เพื่อให้ผืนดินทำกินได้รับการแก้ไข ที่ถูกต้อง เป็นธรรม
 
ทั้งนี้ ชุมชนบ่อแก้วเป็นกลุ่มชาวบ้านกว่า 277 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อนประสบปัญหาการสูญเสียที่ดินทำกิน ภาย หลังจากที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ยึดที่ดินทำกินของพวกเขาไปปลูกป่ายูคาลิปตัส เมื่อปี 2521 ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตการเกษตรของพวกเขามากว่า 40 ปี หลายครอบครัวถูกอพยพออกจากพื้นที่ บางรายอาศัยอยู่กับญาติ บางครอบครัวสูญสลาย บ้างไปเป็นแรงงานรับจ้าง เพราะไม่มีที่ดินทำกิน จนกระทั่งวันที่ 17 ก.ค.2552 รวมใจกันกลับเข้ามายึดพื้นดินทำกินคืนได้สำเร็จ และพวกเขาคือคนอีกกลุ่มหนึ่งในหลายหมื่นครอบครัวทั่วประเทศ ที่ประสบความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท