Skip to main content
sharethis

24 ม.ค. 2557 - เนชั่นทันข่าวรายงานว่าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ปส.) ถ.วิภาวดี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงว่า ตั้งแต่บัดนี้ศรส.จะใช้บก.ปส. ถ.วิภาวดี เป็นที่ตั้งศรส. โดยตนได้ประสานงานกับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. เรียบร้อยแล้ว ภายใต้การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีข้อกำหนดเบื้องต้นในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการด้วยวาจาเพื่อให้ตนรับผิดชอบศรส.ซึ่งตนได้ย้ำกับนายกฯว่า หากมอบหมายตนยินดีและยืนยันว่า ยึดหลักแนวคิด 5 ประการ ในการปฏิบัติหน้าที่คือ 1.ใช้กฎหมายเป็นหลักในการแก้ปัญหา 2.ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุข 3.ให้สิทธิผู้ชุมนุมตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญคือ ชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ 4.ดูแลผู้ชุมนุมโดยใช้หลักสากล กระทำการด้วยความละมุนละม่อม เน้นเจรจามากกว่าใช้กำลัง และ 5.ผู้ชุมนุมและผู้เกี่ยวข้องต้องเคารพสิทธิของบุคคลอื่น

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในฐานะผอ.ศรส. ตนทำงานเป็นทีม จะไม่ใช้อำนาจด้วยตนเอง ใช้กฎหมายเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา ดังนั้น การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.วิจารณ์นายกฯว่า ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาเพื่อทำร้ายผู้ชุมนุมนั้น ตนขอย้ำว่า ศรส.จะไม่เข้าสลายการชุมนุม ไม่มีอาวุธเอ็ม 16 เอช เค และอาก้า ไปฆ่าผู้ชุมนุมเหมือนสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ รับผิดชอบศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จึงอย่าคิดว่า ตนจะทำเหมือนที่คนพวกนี้เคยทำ โดยศรส.เป็นองค์กรที่มีกฎหมายรองรับ ไม่ใช่องค์กรเถื่อนเหมือนกปปส. และศรส.ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างสันติสุข สันติภาพ และความสงบให้คืนสู่กทม.และประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ขอเตือนผู้ชุมนุมว่า เมื่อมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว หากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นต้องถูกจับกุมดำเนินคดี ขอย้ำว่า การทำงานของศรส.จะบูรณาการงานทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน เน้นใช้ข้าราชการตำรวจ จะรบกวนทหารเมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลที่ใช้ตำรวจในการแก้ไขปัญหาการชุมนุม ขณะที่การกำหนดตัวบุคลากร ผู้ปฏิบัติตามโครงสร้างศรส. รวมถึงการออกข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง และการกำหนดแนวปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะกำหนดในที่ประชุมช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (24 ม.ค.)

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ศรส.จะมีการประชุมทุกวัน โดยมีทุกภาคส่วนเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง และแถลงข่าวต่อสื่อมวชนเป็นระยะ เพื่อแจ้งสถานการณ์แนวโน้มในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ให้ทราบถึงสถานการณ์ โดยล่าสุดมีการรายงานถึงความไม่พอใจของพี่น้องชาวมุสลิมต่อการกระทำของกปปส.ที่จ.ตรัง พร้อมกับมีรายงานว่ามีการระดมคนจากจ.สุราษฎร์ธานีอีกครั้งเพื่อเดินทางเข้ากทม. ตนขอย้ำว่า ที่ผ่านมาเดินทางมาได้เพราะตอนนั้นยังไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่วันนี้กฎหมายกำหนดเป็นความผิดว่า การชุมนุมทางการเมืองนับตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปมีโทษจำคุก 2 ปี ดังนั้น ขอวิงวอนว่า อย่าเดินทางมา แล้วถึงเวลาให้ไปเลือกตั้งว่ารักใครชอบใคร

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การปฏิบัติการลับที่ปกปิด เช่น การจับกุม การปิดสถานี การสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร จะเป็นการประชุมวงเล็ก โดยตนเป็นผู้สั่งการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ศรส.จะมีการตั้งทีมโฆษกขึ้นมา โดยให้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบในการเลือกสรรบุคลากรมาทำหน้าที่ โดยจะให้มีการแถลงข่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกัน ในวันเดียวกันนี้ตนจะให้ผู้บังคับการตำรวจจราจรไปประสานกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดการจราจรบนสะพานพระราม 8 เพื่อให้เปิดเส้นทางเป็นจุดแรกแล้วค่อย ๆ ขยายไปยังจุดอื่น ๆ ต่อไป เพราะถือว่า เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนในการเดินทาง

"ผมขอเตือนคุณสุเทพ และคุณสาทิตย์ว่า เดือดร้อนเฉพาะตัวเองเถอะ อย่าไปปลุกประชาชนให้มาเดือดร้อนด้วย และฝากไปถึงคุณพุทธิพงษ์ และคุณสกลธี ซึ่งส่วนตัวทั้งสองครอบครัวรู้จักรักชอบกับผม ขอบอกว่า หลานอย่าได้ทำอย่างนี้ มันไม่สำเร็จหรอก เพราะเป็นการทำผิดกฎหมาย อย่าไปลอกเลียนแบบพฤติกรรมนักการเมืองที่ไม่เคารพกติกาที่พูดว่า ระบอบทักษิณ แล้วระบอบทักษิณคืออะไร ทั้งที่เรื่องกรือเซะ ตากใบที่เอามาด่ากัน ศาลได้สั่งให้เรื่องนี้จบไปแล้ว อย่าเอามาพูดปลุกระดม"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net