กรณีอดีต ส.ส.สงขลาร้องศาล รธน. ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะและยุบพรรคเพื่อไทย ศาลไม่รับคำร้องเพราะไม่มีมูลว่าจะทำให้อำนาจการปกครองประเทศโดยมิชอบ นอกจากนี้ศาล รธน. ไม่รับคำร้องกรณีพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์และบุคคลต่างๆ ฟ้องแกนนำ กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้ง โดยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทางคดีอาญา

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญ

12 ก.พ. 2557 - ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1 ขอให้ศาลสั่งให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ ยุบพรรคเพื่อไทย และเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยทั้งหมด 5 ปี

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องไม่มีมูลที่จะเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิธีทางบัญญัติในรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1

ทั้งนี้ในคำร้องของนายวิรัตน์ ได้ร้องต่อศาลว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี "ประสงค์จะใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการฟอกตัว ฟอกความผิด ฟอกการทุจริต เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง แม้จะทราบดีตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ แต่ยังคงดึงดันให้มีการเลือกตั้ง เพื่อหวังกลับเข้าสู่อำนาจในการปกครองประเทศโดยเร็วที่สุด และเป็นการเลือกตั้งที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของการปกครองระบอบประชาธิปไตย กล่าวคือ วันเลือกตั้งทั่วไปไม่ได้เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 เป็นการเลือกตั้งที่ขัดต่อหลักความเสมอภาคตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ซึ่งต้องเป็นการเลือกตั้งที่เป็นไปโดยตรง ลับ และเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร จึงไม่สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนได้ และมีข้อเท็จจริงปรากฏว่าในหลายหน่วยเลือกตั้งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากจึงไม่สามารถใช้สิทธิได้เพราะสถานการณ์การเมือง มีการกระทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม"

ในคำร้องยังระบุด้วยว่าการที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน กทม. และบางอำเภอของบางจังหวัด เพื่อหวังใช้อำนาจในการยับยั้ง สกัดกั้นการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนจำนวนมากที่ออกมาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ในการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าว

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายทนายเสือธนพล สุขปาน รวมถึงคำร้องของสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อสังคม ที่ร้องขอให้ศาลวินิจฉัย ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และพวก กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ กรณีขัดขวางไม่ให้ประชาชนไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 26 ม.ค. 2557 และการลงคะแนนเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า การชุมนุมของประชาชนตามคำร้องทั้งหมด เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ โดยมีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการต่อต้านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ส่วนกรณีการกระทำของผู้ถูกร้องจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ผู้ร้บผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะดำเนินการต่อไป