24 ก.พ. 2557  ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 45 ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อผู้ชุมนุมและผู้บริสุทธิ์ ทั้งในความรุนแรงทั้งรูปแบบของ hate speech และการใช้อาวุธสงคราม รวมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเปิดการเจรจาเพื่อออกจากความขัดแย้ง โดยรายละเอียดของแถลงการณ์มีดังนี้

 

 

เรื่อง : ขอประณามความรุนแรง และให้รัฐบาล และ กปปส. เปิดการเจรจา

 

ตามที่ได้มีการชุมนุมของมวลมหาประชาชน ในนามของ กปปส. ที่ได้ทำการชุมนุมมากว่า ๓ เดือน โดยมีการชุมนุมกระจายอยู่ในหลายที่ ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด นั้น 

 

การชุมนุมดังกล่าวมีทั้งผู้เห็นด้วย และผู้ไม่เห็นด้วย ที่ได้มีการแสดงจุดยืน ความเห็นของแต่ละฝ่ายตามความคิด ความเชื่อของตนเอง ซึ่งสามารถกระทำได้ อันเป็นสภาพปกติในสังคมของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เพียงแต่ในขณะนี้ได้บุคคลที่ไม่เปิดเผยตัวตน ได้ใช้อาวุธสงครามสร้างความรุนแรง ทั้งที่กระทำต่อผู้ชุมนุม และสถานที่สำคัญ หลายแห่ง

 

ต่อสถานการณ์ความรุนแรง ดังกล่าว ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) มีความเห็นดังนี้

 

๑. ความรุนแรงที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยการเริ่มจากการใช่ถ้อยคำเหยียดคน ( hate speech ) ซึ่งทั้งสองฝ่าย (รัฐบาลและกปปส.) ต่างใช้วิธีการนี้ด้วยกัน

๒. ความรุนแรงที่เกิดจากการใช้อาวุธสงคราม ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจายไปหลายแห่งทั่วประเทศ จนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและเสียชีวิตหลายคน ที่สำคัญในจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีเด็กรวมอยู่ด้วย อันเป็นการกระทำที่โหดร้าย ป่าเถื่อน ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการกระทำเพื่อสร้างเงื่อนไข 

 

ดังนั้น ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ ยังคงมีสัญญาณว่าจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลในฐานะผู้กุมอำนาจรัฐก็ตกอยู่ในสภาพของคู่ขัดแย้งและเหตุการณ์หลายครั้งรัฐบาลก็ไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะคลี่คลายเหตุการณ์ จึง ทำให้ความหวังในการไว้วางใจต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลลดหายไป

 

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอแสดงจุดยืน ต่อสถานการณ์ความรุนแรง ดังนี้

 

๑. เราขอประณามผู้กระทำความรุนแรงทุกรูปแบบ (hate speech และการใช้อาวุธ) 

๒. เราขอเรียกร้องให้กลไกรัฐ ทำหน้าที่ป้องกันเหตุความรุนแรงจากทุกฝ่าย รวมทั้งคู่ขัดแย้งต้องป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงจากฝ่ายตน

๓. เราขอให้มีการเปิดการเจรจาขึ้นโดยเร็ว เพื่อหาข้อยุติ และร่วมกันเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน

 

สุดท้ายนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักว่า สภาพของความขัดแย้งนี้ มิอาจกีดกั้น เบียดขับฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หรือกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ในหลุดพ้นออกจากสังคมเดียวกันได้ ทุกฝ่าย ทุกกลุ่มล้วนมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ในสังคมเดียวกัน การดำเนินการใด ที่จะเป็นไปเพื่อกำจัด กวาดล้างย่อมมิได้นำมาซึ่งสังคมที่พึงปรารถนา พวกเราขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในการดำเนินการหาทางออกอย่างสันติ ด้วยการเร่งเปิดการเจรจาแก้ไขปัญหา หาทางออกร่วมกัน เพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ต่อไป 

 

ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗