ศาลปกครองมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีคืนตำแหน่งเลขา สมช.ให้ 'ถวิล เปลี่ยนสี'

ศาลปกครองสั่งคืนตำแหน่ง ถวิล เปลี่ยนศรี กลับไปเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติภายใน 45 วัน ระบุคำสั่งโอนย้ายไม่มีความชัดเจนในเหตุผลว่านายถวิลไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่สนองนโยบาย จึงไม่มีเหตุสมควรย้ายตำแหน่ง ขณะที่ต้นปีที่ผ่านมาเจ้าตัวเพิ่งปราศรัยเวที กปปส. จะล้มระบอบทักษิณให้ได้

7 มี.ค. 2557 - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.15 น. ที่ ห้องพิจารณาคดี 8 ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 3 คน ออกนั่งบัลลังก์เริ่มอ่านคำพิพากษาและวินิจฉัยคดีหมายเลขดำ กรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เนื่องจากถูกโยกย้ายตำแหน่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยถูกย้ายตำแหน่งจากเลขาธิการ สมช. มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 2554

 

ระบุคำสั่งย้ายไม่มีเหตุสมควร จึงให้คืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ภายใน 45 วัน

โดยศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำตัดสินให้เพิกถอนเฉพาะประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ 30 ก.ย. 2554 ให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งมีผลย้อนหลังถึงวันที่ประกาศดังกล่าวและมีผลบังคับเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2554 ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 เพื่อคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี ภายในระยะเวลา 45 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากเห็นว่าการออกคำสั่งโอนย้ายดังกล่าวไม่มีความชัดเจนในเหตุผลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเหมาะสมและได้ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพมีข้อบกพร่องหรือไม่สนองนโยบายรัฐบาลตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จึงไม่มีเหตุสมควรถูกโอนย้ายตำแหน่ง ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย

สำหรับคดีนี้นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. กรณีที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 7 กันยายน 2554 ให้ นายถวิล ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 เนื่องจากเห็นว่า กระบวนการโอนย้ายไม่เป็นไปตามขั้นตอนหรือวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการโอนข้าราชการ และเป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่สมเหตุสมผล ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังมีคำพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กระทั่งศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ และคำพิพากษาดังกล่าวข้างต้น

 

เพิ่งขึ้นเวที กปปส. ปราศรัยที่แยกอโศกมนตรี ขอล้มระบอบทักษิณ

เว็บไซต์ข่าวสด รายงานด้วยว่าทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายถวิลขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุม กปปส. แยกอโศกมนตรี ประกาศตัวร่วมสู้ล้มระบอบทักษิณ โดยระบุว่า จะยืนหยัดต่อสู้ร่วมจนกว่าจะได้รับชัยชนะ   ารต่อสู้ในวันนี้ข้าราชการไม่สามารถทำตัวเป็นกลางทางการเมืองได้อีก ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนที่ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการที่ประชาชนรวมตัวกันออกมาต่อต้านเท่ากับรัฐบาลชุดนี้

นายถวิล ยังปราศรัยกล่าวโจมตีรัฐบาลว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรงกลาโหม  ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรักษาการ นั้นเป็นเพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ไม่ใช่อยู่เพื่อรักษาประชาธิปไตย ตามที่เคยกล่าวอ้าง ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอดทนต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะได้รับชัยชนะ พร้อมยืนยันว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับประชาชนที่ทรยศประชาชน

 

พล.ท.ภราดร ระบุจะทำงานจนกว่าจะมีคำสั่งย้าย และจะไปทำหน้าที่อื่นก็ได้เพราะเกษียณปี 58

ข่าวสดรายงาน คำให้สัมภาษณ์ของ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ระบุว่า ส่วนตัวน้อมรับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งหลังจากนี้อยู่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่การที่ตนจะพ้นจากตำแหน่งได้ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการลงมาก่อน เพราะเป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ โดยไม่ทราบว่านายกฯ จะพิจารณาอย่างไร เบื้องต้นหลังจากมีคำพากษาจากศาลปกครองสูงสุดแล้ว นายกรัฐมนตรีจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจะหาทางออกอย่างไร จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปเรื่องตำแหน่งแล้วจะต้องส่งเรื่องไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย เพราะปัจจุบันอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ฉะนั้น ตรงนี้ยังมีเวลา ตราบใดที่ยังไม่มีพระบรมราชโองการลงมา ตนก็ยังทำหน้าที่เลขาธิการ สมช.ต่อไปอย่างไม่มีปัญหา

“ไม่ท้อ เพราะเราเป็นข้าราชการก็ต้องทำงาน ผมจบโรงเรียนนายร้อยมาก็เลือกได้แค่ครั้งเดียว หลังจากนี้ผู้บังคับบัญชาจะให้ไปอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ทุกแห่ง” พล.ท.ภราดร กล่าว

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในส่วนของการทำงานที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ตนยังทำงานได้ตามปกติจนกว่าจะมีคำสั่งจากนายกฯให้เปลี่ยนแปลงไปอยู่ในตำแหน่งอื่น และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯลงมา ตรงนั้นถึงจะถือว่าตนพ้นจากการทำงานในหน้าที่ ส่วนจะไปอยู่ตรงไหนก็สามารถทำหน้าที่ได้ เพราะตนเกษียณอายุราชการในปี 58

พล.ท.ภราดร กล่าวด้วยว่า ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับนายถวิล เพราะผู้ถูกฟ้องคือ นายกฯ และในช่วงที่ตนมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ก็มาดำรงตำแหน่งต่อจาก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ไม่ได้มาแย่งตำแหน่งนายถวิลเลย ดังนั้น ตนไมได้มีปัญหากับนายถวิล ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อการทำหน้าที่เลขานุการ ศรส. แต่ก็ไม่หนักใจเพราะพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง อย่างไรก็ตาม ฝากถึงนายถวิล หากจะเข้ามาทำหน้าที่เลขา สมช.แทน ขอให้ยึดมั่นในความเป็นข้าราชการ ยึดหลักวินัย และยอมรับในผู้บังคับบัญชา

 

ถวิล เปลี่ยนศรี เชื่อจะเป็นบรรทัดฐานให้ข้าราชการ หากถูกนักการเมืองโยกย้าย

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ที่กล่าวภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ภายในระยะเวลา 45 วัน ว่า รู้สึกพอใจคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากได้ใช้เวลาต่อสู้ด้วยระบบยุติธรรมมากว่า 2 ปี 6 เดือน ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เป็นบรรทัดฐานให้กับข้าราชการประจำและนักการเมืองในอนาคตได้ในกรณีถูกโยกย้ายโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่เพื่อเป็นการกลับคืนตำแหน่งแต่สร้างความยุติธรรมมากกว่าศักดิ์ศรีของข้าราชการ โดยเฉพาะนักการเมืองควรเคารพฝ่ายประจำและยืนอยู่บนพื้นฐานศักดิ์และศรีที่เท่าเทียมกัน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกัน สำหรับคำสั่งโยกย้ายที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องการเมือง อยากฝากถึงฝ่ายการเมืองว่าการกระทำดังกล่าวสามารถทำได้ แต่ควรคำนึงถึงระบบคุณธรรมมากกว่านี้ เนื่องจากข้าราชการประจำได้รับความเจ็บปวดมามากแล้ว รวมทั้งฝากถึงข้าราชการประจำมักใช้การเติบโตของตำแหน่งราชการด้วยเส้นทางลัด จึงมีส่วนสำคัญทำลายข้าราชการประจำด้วย ทั้งนี้ หากข้าราชการที่ดียังถูกกลั่นแกล้ง ขอให้หันมาใช้กระบวนการยุติธรรมเรียกร้องความถูกต้อง

นายถวิล เปลี่ยนศรี กล่าวถึงการคืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ในครั้งนี้ ว่า เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการแต่สามารถทำได้เพราะเป็นการทำเรื่องดีๆ ซึ่งตนเองมีอายุราชการถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยมีความพร้อมเข้ามาทำหน้าที่และทำงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ระหว่างนี้จะหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าจะยื่นร้องเรียน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ ขอใช้เวลาพิจารณาตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดภายใน 45 วัน ก่อนว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศคืนตำแหน่งให้หรือไม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท