Skip to main content
sharethis

สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ ร่วมแถลงการณ์ขอให้อุทธรณ์คำตัดสินของศาลอาญาในกรณีคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย

16 เม.ย.2557 สำนักสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ที่โรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ท อ.เมือง จ.ปัตตานี นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ พร้อมด้วยประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและผู้แทน ร่วมอ่านแถลงการณ์กรณีศาลอาญาพิพากษายกฟ้องพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กับพวก กรณีคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

สมาพันธ์พันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ มีมติเป็นเอกฉันท์ขอให้มีการอุทธรณ์ผลการตัดสินของศาลอาญาในคดีดังกล่าว เนื่องจากประเด็นเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับหลักการของศาสนาอิสลาม สมาพันธ์ฯจึงได้มีการประชุมหารือร่วมกันที่โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท ปัตตานี และมีมติเอกฉันท์ ดังต่อไปนี้

ข้อที่ 1 สมาพันธ์ฯมีความกังวลและเป็นห่วงต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรศาสนา องค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อันจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมสำคัญทางศาสนา ภาครัฐ สังคม ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประชาคมโลกมุสลิมและอาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

ข้อที่ 2 ข้อเสนอแนะ สมาพันธ์ฯ มีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้

2.1 ให้นำผลพิจารณาคดีทั้งหมดที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมกระบวนการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม

2.2 องค์กรสูงสุดของศาสนาอิสลามพร้อมและเต็มใจให้คำแนะนำตลอดจนข้อเสนอแนะต่อองค์ผู้พิจารณาคดี

2.3 เรียกร้ององค์กรศาสนาอิสลามทั้งในและต่างประเทศร่วมขอดุอาต่ออัลลอฮ (ซบ.) เพื่อให้บังเกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย

โดยหลักการแห่งอิสลาม การดำเนินการใดๆ ก็ตามที่ขาดซึ่ง “ความยุติธรรม” กิจการนั้นๆจะนำไปสู่ “ความวิบัติ” ทั้งส่วนตัวและสังคมโดยรวม

ทั้งนี้ทางสมาพันธ์ฯจะนำแถลงการณ์ดังกล่าวส่งต่อให้ สถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยสำนักจุฬาราชมนตรีสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทุกหวัด และสถานการศึกษาทุกแห่ง

ส่วนที่มาของแถลงการณ์ในครั้งเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่าน ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยศาลพิเคราะห์แล้วพบว่าหลักฐานอ่อน พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก ไม่น่าเชื่อถือ จึงพิพากษายกฟ้อง ในคดีหมายเลขดำที่ อ.199/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ1  และนางวักดะห์ ซาเล็ม ฮาเหม็ด อัลรูไวลี่  มารดาของนายโมฮัมหมัด  อัลรูไวลี่  ผู้ตาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจและพวก

เป็นการฟ้องในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา จากกรณีร่วมกันอุ้มฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย

สำหรับคดีดังกล่าวมีการสืบสวนมานานกว่า 24 ปี และถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และซาอุดีอาระเบีย โดยนายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจมีศักดิ์เป็นพระญาติของกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย มาเปิดบริษัททำธุรกิจจัดส่งแรงงานภายในประเทศไทยไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลาง แต่หลังเกิดคดีฆาตกรรมนักการทูตซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2533 นายอัลรูไวลี ก็หายตัวไป และจากการสืบสวนขณะนั้นพบว่า พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม พร้อมพวก ได้นำตัวนายอัลรูไวลีไปสอบเค้นข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนักการทูตซาอุฯหรือไม่ จนกระทั่งนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลีหายตัวไป

กระทั่งปี 2552 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ โดยนำแหวนทองที่หัวแหวนมีรูปพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นแหวนประจำตระกูลของนายอัลรูไวลี ที่ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก หนึ่งในทีม พล.ต.ท.สมคิด เก็บไว้ มามอบให้พนักงานสอบสวน และยื่นฟ้องคดีต่อศาลก่อนที่คดีจะหมดอายุความเพียง 1 เดือนและศาลพิพากษายกฟ้องในวันที่ 31 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา

ดังนั้นในส่วนของ สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย นายกริยา กิจจารักษ์ ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและผู้แทนของจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานีจึงได้ร่วมกันออกแถลงการณ์กรณีศาลอาญาพิพากษายกฟ้องพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอมกับพวก กรณีคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ดังกล่าว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net