ICJ ลงพื้นที่แก่งกระจาน ตามรอย ‘บิลลี่’ หายตัว

จนท.โครงการนิติศาสตร์สากล –มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ลงพื้นที่ตามรอย “บิลลี่” หวังใช้เป็นอุทาหรณ์ของนักเคลื่อนไหวทั่วโลก ชี้กระบวนการสืบคดีกรณีนักสิทธิมนุษยชนไม่โปร่งใส ด้านตำรวจ-ทหาร-อาสาสมัครฯ จัดขบวนเดินเท้าติดตาม
 
ภาพจาก: transbordernews.in.th
 
23 เม.ย. 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาประมาณ 13.00 น. โครงการนิติศาสตร์สากล (ภูภาคเอเชีย –แปซิฟิก) หรือ ไอซีเจ (International Commission of Jurists :ICJ ) พร้อมมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ลงพื้นที่แก่งกระจานติดตามสถานการณ์การหายตัวไปของบิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ เพื่อติดตามข้อมูลและสืบคดีของบิลลี่ในฐานะนักสิทธิมนุษยชนที่เผชิญกับความไม่มั่นคงทางชีวิต โดยได้สัมภาษณ์ลับนางพิณนภา พฤษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ และลงพื้นที่ในสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลแม่เพรียง รวมทั้งศึกษาหลักฐานที่ด่านตรวจแม่มะเร็ว ของอุทยานแห่งชาติฯ แก่งกระจาน
 
นายซาแมน ซาริฟี่ (Saman Zarifi) ผู้อำนวยการโครงการไอซีเจ (เอเชีย –แปซิฟิก)  กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ครั้งนี้เพราะการหายตัวไปของบิลลี่นั้นมีข่าวสารเผยแพร่ไปทั่วโลก และหากพิจารณาจากข้อมูลของเขาพบว่า ในระดับภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก บิลลี่และทนายสมชายเป็นบุคคลที่มีข้อมูลการหายตัวไปเหมือนกันประเด็นหนึ่งคือ ครั้งสุดท้ายที่มีคนพบเห็นเขาทั้งสองนั้นต่างก็อยู่กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่บิลลี่มีข้อมูลน่าสนใจตรงที่เขาเป็นนักต่อสู้เงียบๆ และเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนของชาติพันธุ์ในกรณีความขัดแย้งกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นประเด็นที่น่าติดตามและประเทศไทยเองควรบันทึกไว้ในสังคมด้วยว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติเมื่อนักสิทธิมนุษยชน 2 คนถูกเจ้าหน้าควบคุมตัวแล้วหายไปในเวลาต่อมา
 
“ในการลงพื้นที่ครั้งนี้นอกจากรวบรวมหลักฐานเพื่อเผยแพร่ข้อมูลสู่คณะกรรมการนิติศาสตร์สากลแล้ว บันทึกข้อความทุกอย่างที่พบ ผมหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อการสืบสวนด้วย อย่างน้อยหากนานาชาติพบเห็นความผิดปกติก็จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาระบบความปลอดภัยของนักเคลื่อนไหวรายอื่น โดยหวังว่าในอนาคตหากมีโอกาสลงพื้นที่บางกลอยอีกครั้ง จะติดตามสถานการณ์อื่นๆ เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของสากลไม่ใช่แค่ในประเทศ” นายซาแมนกล่าว
 
ด้านนางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่น่าห่วงสำหรับประเทศไทยคือข้อมูลการสืบสวนสอบสวนไม่โปร่งใสพอ กรณีบิลลี่และนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ไม่ว่าจะหายตัวไปหรือเสียชีวิต สังเกตว่าคดีความมักหายไปอย่างรวดเร็ว จุดจบคือไม่สามารถหาหลักฐานอะไรได้มากมายพอจะมัดตัวคนทำผิดได้ การเดินหน้าสู้เพื่อสิทธิของตนเอง ของหมู่บ้านไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พอดำเนินการมาสักพักแล้วการคุ้มครองคนเหล่านี้กลับไม่มี
 
“หากเคลื่อนไหวแล้วสำเร็จจะเป็นผลดีต่อสังคมเสมอ แต่กรณีเคลื่อนไหวแล้วมาเจอทางตัน ถูกคุกคามในช่วงรอยต่อของการต่อสู้กับความขัดแย้ง ส่งผลให้ไม่มีความความปลอดภัยในชีวิต ที่ซ้ำร้ายเมื่อเกิดขึ้นแล้วกระบวนการยุติธรรมทำอะไรไม่ได้ คือจุดอ่อนของสังคมไทย ซึ่งส่วนนี้ควรจะเปิดโอกาสให้ทางนานาชาติรับรู้ และข้อเสนอของมูลนิธิ คือ สังคมไทยควรจะมีระบบการสืบสวนและสอบสวนคดีความเหล่านี้ที่เข้มแข็งมีอิสระจริงๆ” นางพรเพ็ญ กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการติดตามข้อมูลจากด่านตรวจแม่มะเร็ว เจ้าหน้าไอซีเจ พบความผิดปกติในสมุดบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกในด่านตรวจ คือ ไม่มีการบันทึกข้อมูลทะเบียนรถใดๆ ที่ตรงกับทะเบียนรถของบิลลี่ คือ ขงพ.888 เพชรบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ด่านตรวจระบุว่า อาจเป็นเพราะรถชาวบ้านที่คุ้นเคย เจ้าหน้าที่ซึ่งทำเวรประจำวันในวันที่บิลลี่เข้ามาจึงไม่ได้เขียนลงรายละเอียดไว้
 
ด้าน เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้มีการรวมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน  (ตชด.) อาสาสมัครหมู่บ้าน (อส.) และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อออกเดินทาง ตามหาบิลลี่ และติดตามหลักฐานตามร่องรอยต่างๆ ได้แก่ เส้นทางสามยอดถึงแยกพุไทร  แยกพุไทรไปแม่มะเร็ว แยกพุไทรไปไร่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แยกพุไทรไปทีทำการอุทยาน และด่านแม่มะเร็วไปอุทยานฯ โดยมีการกระจายกำลังจากเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ เพื่อติดตามหาตัวบิลลี่ด้วยการเดินเท้าตามเส้นทางต่างๆ ระยะทางจุดละประมาณ 7 กิโลเมตร ถึง 20 กิโลเมตร
 
ที่มา: transbordernews.in.th
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท