24 เม.ย.2557 เวลาประมาณ 12.00 น. ที่ รพ.ตำรวจ ประชาชนจำนวนหนึ่งและกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล นำโดย สุดา รังกุพันธุ์ เดินทางมารับศพนายกมล ดวงผาสุข หรือไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีเสื้อแดงที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) และร่วมตั้งขบวนนำศพไปจัดกิจกรรมรำลึกบริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ในเวลาประมาณ 12.40 น. จนกระทั่งเคลื่อนถึงวัดเสมียนนารีเพื่อบำเพ็ญกุศลในเวลาประมาณ 13.20 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ขบวนเคลื่อนผ่านแยกสุทธิสาร ถนนรัชดาฯ เกิดเหตุที่ทำให้ขบวนหยุดชะงัก เมื่อสอบถามจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศในตึกเมืองไทยภัทรซึ่งตั้งอยู่บริเวณดังกล่าวได้ความว่า ขณะที่ขบวนติดไฟแดงบริเวณแยกสุทธิสารนั้น มีคนใช้โทรโข่งบนรถเครื่องขยายเสียงตะโกนบอกให้คนที่อยู่บริเวณตลาดเมืองไทยภัทรหลบออกจากบริเวณดังกล่าว ทำให้คนตื่นตระหนก หลังจากนั้นการ์ดในชุดสีดำ 2 คนก็วิ่งกรูเข้ามาพร้อมกับบอกให้คนที่อยู่บริเวณตลาดหมอบลงแล้วเดินไล่ตามหาอะไรบางอย่าง โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที ซึ่งเข้าใจว่ามาตามหาคนที่ป่วนขบวนแห่แต่ไม่พบ จากนั้นการ์ดทั้ง 2 คนจึงขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ออกไป อย่างไรก็ตาม ในระหว่างเกิดเหตุนั้นไม่ได้ยินเสียงปืนดัง แต่เมื่อสอบถามมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่อยู่บริเวณนั้นยืนยันว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก่อนที่การ์ดจากขบวนเสื้อแดงจะเข้ามาตามหาตัวผู้ก่อเหตุ
เคลื่อนจาก นิติเวช รพ.ตำรวจ ภาพโดย Prainn Rakthai
กิจกรรมหน้าศาลอาญารัชดา ภาพโดย Prainn Rakthai
ภาพพิธีรดน้ำศพที่ศาลา 1 วัดเสมียนนารี ภาพโดย Prainn Rakthai
ในช่วงเย็น มีประชาชนเดินทางมาร่วมรดน้ำศพนายไม้หนึ่งฯ เป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ส่วนช่วงค่ำเป็นงานสวดอภิธรรมศพ ประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาร่วมงานจำนวนหลายร้อยคนจนแน่นศาลาใหญ่ รวมถึงแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เช่น นายจตุพร พรหมพันธ์, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย, นพ.เหวง โตจิราการ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นต้น ภายหลังเสร็จสิ้นการสวดอภิธรรม ประชาชนต่างพากันไปเคารพศพ ถ่ายรูป และร่วมแสดงความเสียใจกับภรรยาและบุตรชายของไม้หนึ่งฯ อายุ 11 ปีและ 9 ปี รวมทั้ง พ่อแม่และน้องชายของไม้หนึ่งฯ ที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสงคราม ก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ
ทั้งนี้ จะมีการสวดอภิธรรมศพตั้งแต่วันที่ 24-27 เม.ย.เวลา 19.00 น. และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 28 เม.ย.เวลา 13.00 น.
มารดา อายุ 68 ปี เดินทางมาจากสมุทรสงคราม
ผู้ร่วมขับเคลื่อนกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ฯลฯ
ตำรวจยังไม่ตัดทิ้ง 3 ปมก่อเหตุ ชี้คนร้ายติดตาม-วางแผนดี
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการสืบสวนเปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีนี้กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เน้นการสืบสวนจากที่เกิดเหตุเป็นหลัก เพื่อรวบรวมและคัดกรองหลักฐานต่างๆ ให้ถูกต้องชัดเจนที่สุด ส่วนพยานบุคคลหลายปากยังให้การไม่ตรงกัน
ส่วนประเด็นการสังหารนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกบุคคลใกล้ชิด ทั้งครอบครัว เพื่อน และบุคคลที่รู้จักกับผู้ตายมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาแนวโน้มข้อมูลในการสังหารครั้งนี้
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจากพยานในที่เกิดเหตุทั้งคน ในร้านอาหาร เด็กรับรถ คาดว่า 2-3 วันนี้จะมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ส่วนมีคนเห็นหน้าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุหรือไม่ จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายได้ทำการปิดบังใบหน้าไว้ ซึ่งจะต้องทำการประสานขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุที่คนร้าย ได้ผ่านไปมา และไม่ได้ปกปิดใบหน้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เพราะต้องมีคนชี้เป้า คนส่งสัญญาณ และคนขับรถพาคนร้ายหลบหนี
ทั้งนี้ ทางตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งประเด็นการเมือง ความขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องของชู้สาว ส่วนทะเบียนรถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุนั้น พยานในที่เกิดเหตุไม่สามารถจำทะเบียนรถได้ แต่จำลักษณะรถที่ใช้ทั้งสีและรุ่นของรถที่ใช้ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสอบสวนระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง
พ.ต.อ.น้ำเพ็ชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมและเพื่อนผู้ตายไปแล้วกว่า 9 ปาก มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฝ่ายสอบสวนยังต้องทำงานตามฝ่ายสืบสวน เนื่องจากฝ่ายสืบสวนจะมีข้อมูลละเอียดมากกว่า รวมทั้งไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุดหลายตัว ขณะเดียวกันก็จะเรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหลายปาก แต่ละคนมีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูล โดยมีพยานหลายคนเห็นเหตุการณ์ชัดเจน แต่เพื่อความปลอดภัยพยานเหล่านี้ไม่ประสงค์ที่จะแสดงตัวจึงประสานให้ฝ่ายสืบ สวนตามประกบ เชื่อว่าหากสอบปากคำครบน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูป คดีรวมทั้งตำหนิรูปพรรณสันฐานของคนร้ายเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามของฝ่ายสืบ สวนมากขึ้น
พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก สว.สส.สน.โชคชัย กล่าวว่าขณะนี้กำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดและจะนำกล้องวงจรปิดที่ได้จำนวนหลายจุดมาดูให้ ละเอียดเพื่อวิเคราะห์และหาเบาะแสรวมทั้งเส้นทางหลบหนีตำหนิยานพาหนะที่ใช้ ก่อเหตุ ตอนนี้ยังได้กล้องไม่ครบและยังดูไม่หมด อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวด้านการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้ตามดูพฤติกรรมของผู้ตายจนแน่ชัดว่าจะเดินทางไปไหนทำอะไร และมีการวางแผนมาอย่างดี แต่ตัดสินใจลงมือสังหารอย่างอุกอาจในช่วงกลางวันแสกๆ และมีผู้คนเห็นเยอะ อาจเป็นเพราะสบโอกาสพอดี โดยปกติแล้วผู้ตายมักมากินข้าวที่ร้านครกไม้ไทยลาวเหมือนเป็นลูกค้าขาประจำ แต่ละสัปดาห์จะเข้ามากินอาหารที่ร้านแห่งนี้อย่างน้อย 2-3 ครั้ง และในวันเกิดเหตุผู้ตายได้นัดเพื่อนมาเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการเปิดสถานีวิทยุ ที่ผู้ตายเตรียมจะเปิดสถานีวิทยุเกี่ยวกับเสื้อแดงในพื้นที่กรุงเทพฯ เร็วๆ นี้ จึงนัดแนะมาพูดคุย เตรียมเอกสารมาเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการเปิดคลื่นวิทยุที่ร้านดังกล่าว ก่อนจะถูกมือปืนมาดักยิงระหว่างจะเดินทางออกจากร้านอาหารที่บริเวณลานจอดรถ
เพื่อไทยเสียใจ ห่วงสถานการณ์ทวีความรุนแรง
ด้านความเคลื่อนไหวในภาคการเมือง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และพี่น้องประชาชนคนรักประชาธิปไตยที่ได้ต่อสู้ร่วมกับไม้หนึ่ง ก.กุนทีมาโดยตลอด ส่วนสาเหตุจะมาจากเรื่องใดก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ เท่าที่ได้รู้จักผู้เสียชีวิตไม่เคยขัดแย้งกับใคร นิ่ง สุขุม ตามลักษณะกวี อย่างไรก็ตาม จากรอยกระสุนที่ยิงเข้าเป้าเป็นกลุ่ม เป็นลักษณะมืออาชีพและฝึกการใช้อาวุธมาเป็นอย่างดี ดังนั้นความน่ากลัว คือไม้หนึ่งเป็นแกนนำเสื้อแดงคนแรกที่ถูกยิงตายกลางเมืองหลวงของประเทศในขณะที่มี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ซึ่งหากมาจากประเด็นการเมืองก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่อันตราย เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวการตั้งทีมไล่ล่า ตั้งค่าหัวแกนนำเสื้อแดงตั้งแต่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ถูกยิง จนมาถึงไม้หนึ่ง ทั้งที่ความรุนแรงไม่ควรเกิดขึ้นกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือเกิดขึ้นกับคนที่แสดงจุดยืนทางการเมืองในสิ่งที่แตกต่าง
“เวลานี้คนเสื้อแดงตั้งข้อสงสัยในท่าทีขององค์กรเก็บขยะแผ่นดินว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะเป็นการจัดตั้งกองกำลังทหารเก่าในวันเดียวกับไม้หนึ่งถูกยิง สิ่งที่น่าห่วง คือสถานการณ์หลังจากนี้จะรุนแรงมากขึ้น อนาคตจะอยู่กันอย่างไร กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ไม่ทราบฝ่ายจริงๆ ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน ประเทศไทยอยู่ยากขึ้นทุกวัน ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกันคลี่คลายสถานการณ์ เร่งถอนฟืนออกจากกองไฟ อย่าให้เหมือนเหตุการณ์ก่อน 6 ตุลา 19 ที่เอานักศึกษามายิงจนต้องหนีเข้าป่า เรื่องนี้ต้องเฝ้าระวังถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้” นายอนุสรณ์ กล่าว
ปชป.เสียใจ จี้ ตร.สางคดี
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครหรือกลุ่ม ฝ่ายใดที่เห็นต่างทางการเมือง เราไม่ต้องการให้หยิบยกประเด็นเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างสร้างความแตกแยก ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ควรทำหน้าที่ของตัวเองโดยนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ อย่าให้ประเทศต้องตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
เรียบเรียงบางส่วนจาก เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์, เว็บไซต์ข่าวสด, เว็บไซต์ASTV-ผู้จัดการ, เว็ฐไซต์มติชน