Skip to main content
sharethis

เพื่อน ‘สมยศ พฤกษาเกษมสุข’ นักโทษคดี ม.112 จัดกิจกรรมเยี่ยมในวาระครบรอบ 3 ปี แห่งการจองจำ พร้อมจุดเทียนดำ-พับนกแดงหน้าคุก ปลุกความยุติธรรม สมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากลเรียกร้องให้ปล่อยตัว-ปฏิรูป ม.112

30 เม.ย.2557 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณหน้าเรืองจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยและเพื่อนนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประมาณ 30 คน ร่วมจัดกิจกรรม “เพื่อนเยี่ยมเพื่อน เยี่ยมสมยศ เยี่ยมนักโทษการเมือง” เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีที่นายสมยศ ซึ่งถูกคุมขังไว้มาตั้งแต่ วันที่ 30 เม.ย. 54 เป็นต้นมา ด้วยคดีความผิดตาม กม.อาญาฯ มาตรา 112  และต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี เมื่อผนวกกับคดีจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อยู่ในระหว่างรอลงอาญาทำให้สมยศต้องโทษจำคุก 11 ปี ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์

โดยบรรยากาศการจัดกิจกรรมมีการผูกนกกระดาษสีแดงบริเวณประตูทางเข้าเรือนจำ พร้อมทั้งมีการจุดเทียนดำเพื่อแสดงออกถึงกระบวนการยุติธรรมที่เลือกข้าง หลังจากนั้นเวลา 11.00 น. ผู้ร่วมกิจกรรมเดินทางเข้าไปเยียมนายสมยศและผู้ต้องขังในคดีเดียวกันต่อด้านในเรือนจำ

ภาพการจุดเทียนดำและแขวนนกกระดาษสีแดง เพื่อเรียกร้องเสรีภาพและไว้อาลัยต่อกระบวนการยุติธรรม

นายสมยศ กล่าวด้วยว่า เมื่อสังคมไม่มีความยุติธรรม ประชาชนก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้มีความยุติธรรม เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับคนรุ่นต่อๆไป โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การแสดงออกและการมีส่วนร่วม ที่ตนเองยังสู้คดีอยู่ในคุกนี้ก็เพื่อยืนยันสิทธิตรงนี้

สำหรับมาตรา 112 นั้น นายสมยศ มองว่าต้องยกเลิก และสภาพที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ก็ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หากเราต้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พลเมืองก็ต้องมีสิทธิในเสรีภาพการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ และการวิพากษ์วิจารย์ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติอีกด้วย

ต่อองค์กรเก็บขยะแผ่นดินที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับคนที่กลุ่มดังกล่าวมองว่าหมิ่นกษัตริย์และเป็นกระแสในขณะนี้นั้น นายสมยศ มองว่า เป็นการสะท้อนถึงความเปราะบางของสังคม เพราะหากสังคมเข้มแข็งมั่นคงจริงก็จะไม่ต้องหวาดผวาคนที่เห็นต่างจนต้องออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ ยิ่งสะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ องค์กรที่เกิดขึ้นเหล่านี้จึงถือเป็นองค์กรไดโนเสาร์ จูราสสิค ปาร์ค ที่จะเห็นแต่ในภาพยนตร์ ไม่ควรมีในยุคสมัยใหม่ที่เป็นสังคมประชาธิปไตย ต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพกันไม่ใช่ไล่จับไล่ประจานกำจัดคนที่เห็นต่าง

“ที่อยู่ในนี้(เรือนจำ) ไม่ได้เป็นการต่อสู้กับอะไร แต่เป็นการยืนยันว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน เป็นหน้าที่พลเมืองที่ต้องปกป้อง”

“อยากนั้นก็อยากออก(จากเรือนจำ)แน่นอน แต่ต้องออกด้วยความยุติธรรมหรือความบริสุทธิ์ ไม่ใช่ออกด้วยความเมตตาสงสาร แม้ไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ขอรับโทษจริง” นายสมยศ กล่าว

 

สมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากลเรียกร้องปล่อยสมยศ-ปฏิรูป ม.112

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา สมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล หรือ FIDH ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการณ์เนื่องวาระครบรอบ 3 ปีการคุมขังสมยศ พฤกษาเกษมสุข เรียกร้องให้ทางการไทยปล่อยตัวสมยศทันที และชี้ว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพขัดกับอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

“การจำกัดความที่กว้างเกินของกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการจำกัดเสรีภาพการแสดงออกอย่างยอมรับไม่ได้ รวมถึงกำหนดบทลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วนต่อผู้กระทำผิด” คาริม ลาฮิดจิ ประธานองค์กร FIDH กล่าว

ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ทางคณะทำงานด้านการคุมขังโดยพลการแห่งสหประชาชาติ มองว่าการคุมขังสมยศ เป็นไปอย่างไม่ชอบธรรม เนื่องจากการถูกปฏิเสธการประกันตัว 15 ครั้ง ซึ่งทางคณะทำงานดังกล่าวได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวสมยศ รวมถึงให้เขาได้รับสิทธิในการได้รับค่าชดเชยที่เหมาะสม

จาตุรนต์ บุญรัตนสุนทร ประธานสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน หนึ่งในสมาชิกของสมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยให้ผู้มีอำนาจฟ้องร้องจำกัดอยู่ที่สำนักพระราชวังเท่านั้น และให้ลดบทลงโทษลงจากเดิม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net