ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก ‘เจ๋ง ดอกจิก’ 2 ปี ไม่รอลงอาญา

ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดี ม.112 'เจ๋ง ดอกจิก' ปราศรัยเวที นปช. ปี 53 ศาลระบุระหว่างที่จำเลยปราศรัยได้ใช้มือจับที่ปากพร้อมพูดหลายครั้งว่า "พูดไม่ได้" เป็นการบ่งบอกว่ายังมีผู้ที่สูงกว่า พล.อ.เปรม และผู้นั้นต้องมีสถานะที่สูงยิ่ง ไม่อย่างนั้นจำเลยก็ต้องพูดชื่อออกมาแล้ว จึงพิพากษายืนจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา

ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก (ที่มา: แฟ้มภาพ/ข่าวสด)

1 พ.ค. 2557 - วันนี้ (1 พ.ค.) เวลาประมาณ 9.30 น. ห้อง 911 ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2740/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายยศวริศ  ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการขึ้นเวทีปราศรัยบนเวที นปช. เชิงสะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 29 มี.ค.53 ต่อหน้าประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก

ยศวริศถูกกล่าวหาว่า กล่าวปราศรัยทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสื่อมเสียพระเกียรติ เมื่อกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนั้น และพูดถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และใช้มือปิดปาก พร้อมทั้งพูดหลายครั้งว่า “พูดไม่ได้”

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์กล่าวว่า แม้ว่าคำพูดของจำเลยนั้นไม่เฉพาะเจาะจง แต่ระหว่างที่จำเลยพูดนั้นได้ใช้มือจับที่ปาก  เป็นการบ่งบอกว่า ยังมีผู้ที่สูงกว่าพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และผู้นั้นต้องมีสถานะที่สูงยิ่ง ไม่งั้นจำเลยก็ต้องพูดชื่อออกมาแล้ว เพราะแม้แต่ พลเอกเปรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดจน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ก็ยังถูกจำเลยปราศรัยโจมตีอย่างรุนแรง หาได้มีความเกรงกลัวอย่างใดไม่

นอกจากนั้น ตำแหน่งประธานองคมนตรีของพลเอกเปรมนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่มีพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง พลเอกเปรมไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติหรือตุลาการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นมีอำนาจเหนือพลเอกเปรม การพูดดังกล่าวจึงเป็นการใส่ความพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง

ส่วนที่จำเลยให้การว่า ตนเองมีความจงรักภักดี เคยร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และตนเองยังเป็นกรรมการอยู่ในมูลนิธิ 5 ธันวา และทำงานการกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติของพระเจ้าอยู่หัวมาอย่างยาวนาน ศาลอุทธรณ์กล่าวว่า หากจะพิจารณาว่า จำเลยมีความจงรักภักดีหรือไม่เพียงใด จะมองแค่กิจกรรมที่จำเลยทำในอดีตอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องพิจารณาควบคู่กับ พฤติกรรมที่จำเลยแสดงออกในปัจจุบัน ถ้าจำเลยมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงๆ แล้ว จำเลยก็ไม่ควรกล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำดังกล่าว

ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ให้ลงโทษสถานเบานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสมควรลงโทษเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง  

ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา โดยจำเลยยื่นประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 500,000 บาท โดยอยู่ระหว่างรอศาลฎีกาพิจารณาปล่อยชั่วคราวระหว่างเพื่อสู้คดี

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 56 ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 'เจ๋ง ดอกจิก' 3 ปี แต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลให้ประกันด้วยเงิน 5 แสนบาท

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท