Skip to main content
sharethis

ศอ.รส. อัดแกนนำ กปปส. กระทำผิดต่อเนื่องจนอัยการฟ้องไปแล้ว 51 ราย ขณะที่สุเทพยังก่อคดีอุกฉกรรจ์ "ข้อหาร่วมกันฆ่า" เมื่อปี 53 แต่ใช้มวลชนเป็นเกราะกำบังไม่ยอมให้ถูกดำเนินคดี พร้อมเตือนประชาชนใช้วิจารณญาณในการร่วมชุมนุม กปปส.-นปช. หากกระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีไม่มีการละเว้น

10 พ.ค. 2557 - ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 "ห้ามการช่วยเหลือแก่แกนนำ กปปส. ที่กระทำผิด" มีรายละเอียดดังนี้

000

แถลงการณ์ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ฉบับที่ 6 เรื่อง ห้ามการช่วยเหลือแก่แกนนำ กปปส. ที่กระทำผิด 

"ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เป็นหน่วยงานพิเศษที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดย ศอ.รส. มีภารกิจสำคัญ ในการสนธิกำลัง ทั้งข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่างๆ เพื่ออำนวยการและปฏิบัติการให้เกิดความเรียบร้อยในทุกๆ มิติ ทั้งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และสังคมในภาพรวม"

"บัดนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำ กปปส. ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่างๆ นานาอย่างต่อเนื่อง และสร้างความเสียหายกับประเทศชาติบ้านเมืองตลอดมา จนในที่สุดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องแกนนำถึง 51 คน ในข้อหาอุกฉกรรจ์ที่สำคัญ ได้แก่ ร่วมกันเป็นกบฎ ร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง ร่วมกันเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร และข้อหาอื่นๆ รวมทั้งหมด 10 ข้อหา นอกจากนี้ ตามที่พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณกับพวก ในข้อหาก่อการร้ายเพิ่มเติม อันเป็นความผิดมูลฐานของความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ศอ.รส. จึงได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ง. เข้าดำเนินการเพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน อันจะนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก เพิ่มเติมอีกด้วย"

"นอกจากนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังถูกดำเนินคดีสำคัญอีกหลายคดี และล้วนเป็นคดีอุกฉกรรจ์มาก เช่น คดีร่วมกันฆ่าประชาชนในการชุมนุมปี 2553 หรือที่เรียกว่าคดี “98 ศพ” คดีทุจริตก่อสร้างโรงพักของข้าราชการตำรวจ คดีทุจริตก่อสร้างแฟลตของข้าราชการตำรวจ คดีกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี คดีบุกรุกที่ดินเขาแพง และคดีอื่นๆ ดังนั้น การกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ยังไม่ยอมเลิกการชุมนุม และชักนำมวลชนต่างๆ อยู่ในขณะนี้จึงเป็นการใช้มวลชนเป็นเกราะกำบัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกดำเนินคดี และไม่ถูกจับกุมตามหมายจับของศาล ซึ่งเป็นการบิดเบือนและหาประโยชน์จากมวลชน และสร้างความเดือดร้อนแก่ชาติบ้านเมืองเพื่อตนเองและพวกพ้องโดยแท้"

"ศอ.รส. ขอประนามการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำ กปปส. ตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่ได้นำมวลชนบุกไปยังสถานที่ต่างๆ ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ และทำเนียบรัฐบาล และได้กระทำการเจรจาและขู่บังคับผู้บริหาร หรือผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 และช่อง NBT ไม่ให้ถ่ายทอดสัญญาณที่เกี่ยวกับแถลงการณ์หรือเสนอข่าวอย่างหนึ่งอย่างใดของรัฐบาลและ ศอ.รส. แต่ให้ถ่ายทอดสัญญาณการแถลงการณ์หรือเสนอข่าวการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งถือเป็นการคุมคามสื่อมวลชน และสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการบุกรุกเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาลนั้น ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมตระหนักว่า สถานที่ราชการดังกล่าวมีความสำคัญที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการบริหารราชการของประเทศชาติ เป็นสมบัติโดยส่วนรวมของทุกคน การบุกรุกเข้าไปทำความเสียหายใดๆ นอกจากเป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังเป็นความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองด้วย"

"นอกจากนี้ ตามที่ในวันนี้จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ศอ.รส. จึงขอเรียกร้องพี่น้องประชาชนให้ใช้วิจารณญาณหลีกเลี่ยงการร่วมชุมนุม ไม่ว่ากับกลุ่ม นปช. หรือกลุ่ม กปปส. เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และขอเรียกร้องให้ประชาชนงดเว้นการเข้าร่วมกระทำความผิดกับ กปปส. เพราะหากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น ผู้ที่ร่วมกระทำการจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคนไปโดยไม่มีการละเว้น โดยเฉพาะแกนนำของผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่ม ศอ.รส. จึงเห็นสมควรแถลงการณ์มาเพื่อพี่น้องประชาชนได้รับทราบ"

"อนึ่ง แถลงการณ์ฉบับนี้ เป็นความเห็นของฝ่ายบริหาร ศอ.รส. โดยมิได้ขอให้ฝ่ายทหารร่วมแถลง หรือแสดงความเห็นด้วย"

"จึงแถลงการณ์มาเพื่อทราบทั่วกัน ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย 10 พฤษภาคม 2557"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net