นาเรนดรา โมดีผู้สมัครจากพรรคภารติยชนตะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งล่าสุดของอินเดีย และผ่านเกณฑ์เสียงข้างมากจนตั้งรัฐบาลเดี่ยวได้ ท่ามกลางความหวังว่าโมดีจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจให้อินเดีย ด้านพรรคคู่แข่งกล่าวแสดงความยินดีและอวยพรให้รัฐบาลใหม่ประสบความสำเร็จ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2557 สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า นาเรนดรา โมดีผู้สมัครจากพรรคภารติยชนตะ หรือบีเจพีได้เดินทางเข้าไปยังกรุงนิวเดลีแล้วหลังชนะการเลือกตั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งล่าสุดของอินเดีย

มีฝูงชนผู้สนับสนุนหลายพันคนให้การต้อนรับโมดีที่สนามบิน หลังจากที่เขาเดินทางจากรัฐคุชราตมาถึงสนามบินในกรุงนิวเดลีเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา อัลจาซีราระบุว่าพรรคบีเจพี เป็นพรรคแรกในรอบ 30 ปีที่ได้รับคะแนนเสียงข้างมากระดับที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเดี่ยวได้ในอินเดีย โดยก่อนหน้านี้ลักษณะของรัฐบาลอินเดียเป็นรัฐบาลผสมเสียงข้างมาก

ด้านมานโมหัน สิงห์ จากพรรคคองเกรสพ่ายแพ้อย่างย่อยยับทำให้ต้องสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามอัลจาซีราระบุว่าสิงห์เป็นผู้เริ่มต้นทำให้เศรษฐกิจของประเทศอินเดียเข้าสู่ยุคสมัยใหม่เมื่อ 23 ปีที่แล้ว แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของสิงห์ก็ดูจะแผ่วลง

แม้ว่าจะพ่ายแพ้ แต่สิงห์ก็กล่าวว่าเขาว่าเคารพการตัดสินใจของประชาชน และอวยพรให้รัฐบาลทำงานประสบความสำเร็จ เขากล่าวในพิธีอำลาตำแหน่งอีกว่าเขามั่นใจในอนาคตของอินเดีย และเชื่อว่าอินเดียจะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้เมื่อเวลามาถึง

พรรคบีเจพีชนะการเลือกตั้งโดยคว้ามาได้ 282 ที่นั่ง ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้สำหรับเสียงงข้างมากคือ 272 ที่นั่ง

เมื่อรวมกับจำนวน ส.ส.ของพรรคพันธมิตรอื่นๆ แล้วถือว่าได้รับรวมถึง 337 ที่นั่ง

อัลจาซีราวิเคราะห์ว่าเหตุที่โมดีชนะการเลือกตั้งน่าจะมาจากความต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ หลังจากเศรษฐกิจของอินเดียถดถอย การเมืองที่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต รวมถึงนโยบายถูกลอยแพ สิ่งเหล่านี้มีบทบาทในการตัดสินใจเหนือกว่าเรื่องอื้อฉาวของโมดีเอง

ในสมัยที่โมดีผู้เป็นนักชาตินิยมสนับสนุนศาสนาฮินดูดำรงตำแหน่งเป็นมุขมนตรีของรัฐคุชราตก็เกิดเหตุจลาจลต่อต้านชาวมุสลิมในปี 2545 หลังเกิดเหตุไฟไหม้รถไฟที่บรรทุกผู้จาริกแสวงบุญศาสนาฮินดูแล้วมีคนกล่าวหาว่าชาวมุสลิมเป็นผู้ก่อเหตุ แม้ว่าในตอนนั้นโมดีจะพยายามควบคุมสถานการณ์ด้วยความเข้มงวดอย่างมาก แต่ก็ยังถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถควบคุมการจลาจลได้มากพอ

อย่างไรก็ตามในการปราศรัยหลังได้รับชัยชนะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โมดีได้กล่าวแสดงความเป็นห่วงว่าแนวคิดอุดมการณ์ชาตินิยมฮินดูอาจเป็นการไล่คนกลุ่มน้อยให้ไปอยู่ชายขอบ

"ยุคสมัยของการแบ่งแยกทางการเมืองจบลงแล้ว จากนี้ไปจะถึงยุคที่การเมืองจะทำให้ประชาชนร่วมมือกันเริ่มต้นขึ้น" โมดีกล่าว

ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวแสดงความยินดีต่อชัยชนะของโมดี และบอกว่าจะให้วีซ่าเดินทางแก่เขา โดยก่อนหน้านี้โมดีถูกสหรัฐฯ ปฏิเสธวีซ่ามาตั้งแต่ปี 2548 จากกรณีเหตุจลาจลในรัฐคุชราต

อัลจาซีราระบุอีกว่าแม้โมดีต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจในอินเดีย รวมถึงมีการดึงนักลงทุนและสร้างโครงสร้างพื้นฐานในรัฐคุชราต แต่ก็ไม่ใช่งานที่ง่ายๆ ในการสร้างความพอใจแก่ชาวอินเดียหลายล้านคนได้ เนื่องจากอินเดียกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจเติบโตอย่างเชื่องช้าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงคริสตทศวรรษ 1980 รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อ พรรคของโมดียังขาดความเข้มแข็งในส่วนของสภาบนซึ่งจำเป็นต่อการผ่านร่างกฎหมายต่างๆ

เรียบเรียงจาก
Modi celebrates landslide India poll win, Aljazeera, 17-05-2014
http://www.aljazeera.com/news/asia/2014/05/modi-celebrates-landslide-india-poll-win-20145176124941214.html

Indian election: Narendra Modi in Delhi victory parade, BBC, 17-05-2014
http://www.bbc.com/news/world-asia-india-27451970

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Narendra_Modi