Skip to main content
sharethis

กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ยื่นหนังสือรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ชะลอตั้งตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียโครงการเหมืองแร่โปแตช หวั่นเหตุขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่

20 พ.ค.2557 วานนี้ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีกว่า 200 คน เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ของบริษัทเอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) เพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการชุดดังกล่าว ชะลอการดำเนินการในขั้นตอนการคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียในเขตคำขอประทานบัตร

ทั้งนี้ เนื่องจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการประชุมเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียฯ เพื่อมาทำหน้าที่คัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียในเขตคำขอประทานบัตรหมู่บ้านละ 2 คน และดำเนินการตามกระบวนการตั้งกองทุนสนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในการทำเหมืองแร่ใต้ดิน ตามมาตรา 88/10 ในพ.ร.บ.แร่ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 หลังจากรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ตามขั้นตอนการขออนุญาตประทานบัตรทำเหมืองแร่ใต้ดิน

นางมณี บุญรอด กรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า ตนเป็นกรรมการร่วมระหว่าง กพร. กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ โดยมีอธิบดี กพร. คนปัจจุบันเป็นประธาน ซึ่งยังดำเนินการศึกษาตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านไม่แล้วเสร็จ และยังไม่มีข้อสรุป หากกรรมการชุดใหม่ที่มีรองผู้ว่าฯ เป็นประธานจะเดินหน้าผลักดันให้มีการคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียในแต่ละหมู่บ้าน จะนำพาปัญหาความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นตามมาอีกอย่างแน่นอน นางมณีกล่าวว่าอยากให้รองผู้ว่าฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการได้พิจารณาชะลอการคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียออกไป จนกว่าคณะกรรมการชุดก่อนจะดำเนินการและมีข้อยุติ

ด้านนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามขั้นตอนในคำสั่งแต่งตั้งจาก กพร. ตนได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการให้เป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งมีหน้าแจ้งให้แต่ละหมู่บ้านไปคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียมาหมู่บ้านละ 2 คน กับผู้ใหญ่บ้านที่เป็นโดยตำแหน่งอีก 1 รวมเป็น 3 คน และผู้แทนจากอบต.ในพื้นที่ แห่งละ 2 คน รวมแล้วจะมีตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียประมาณ 70-80 คน เพื่อมาทำหน้าที่เฝ้าระวัง เฝ้าดูว่าบริษัทฯ ทำอะไร จะมีผลกระทบจริงหรือไม่ โดยการว่าจ้างนักวิจัยมาดูมาตรวจสอบซึ่งสามารถกำกับดูแลได้

นายณรงค์ กล่าวว่า ก่อนจะมีการสรรหาตัวแทนผู้มีส่วนได้เสีย คณะกรรมการฯ จะต้องลงพื้นที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจทุกหมู่บ้านเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง แต่เมื่อมีการคัดค้านมาก็ต้องชะลอออกไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ

นายณรงค์กล่าวต่อว่า ในส่วนของคณะกรรมการทั้งสองชุดที่ยังเป็นปัญหากันอยู่ ทางจังหวัดจะทำหนังสือสอบถามไปยัง กพร.ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร นอกจากนี้ก็จะทำหนังสือไปขอรายงานผลกระทบสิง่แวดล้อมฉบับสมบูรณ์จากสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมด้วย

หลังจากการหารือเสร็จสิ้นลง ทั้งสองฝ่ายทำบันทึกร่วมกันว่าจะชะลอการดำเนินการคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียจนกว่าจะดำเนินการปรึกษาหารือระหว่างคณะกรรมการตามคำสั่ง กพร. ที่ 77/2555 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2555 ให้ได้ข้อยุติ

ในวันเดียวกันนี้กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้รับหนังสือจาก กพร.เพื่อชี้แจงการคัดค้านคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการประชุมปรึกษาเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ความตอนหนึ่งระบุว่า กพร.ไม่มีนโยบายจะผลักดันโครงการนี้หากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายไปในทางที่ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างเข้มข้นโดยแกนนำชาวบ้านผลัดกันชี้แจงให้เหตุผลกับรองผู้ว่าฯ ถึงปัญหาการดำเนินโครงการที่ขาดการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการ จนทำให้เกิดปัญหาความแตกแยกรุนแรง และการประชาคมหมู่บ้านและการให้ความเห็นของ อบต.ที่ลักลั่น ผิดระเบียบ ฯลฯ นอกจากนี้กลุ่มชาวบ้านยังอธิบายว่าได้มีการคัดค้านตามขั้นตอนในกฎหมายแร่ จนได้มีคำสั่งของกพร. ก่อนหน้านี้ เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่าง กพร.กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวกำลังดำเนินการศึกษาและติดตามในประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ยังไม่ได้ข้อยุติ

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net