25 พ.ค. 2557 กลุ่มคณาจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่เอกสารข้อเสนอแนะต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แนะควรเปิดพื้นที่และช่องทางให้ประชาชนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเสนอ คสช. เร่งจัดตั้งรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือน จากนั้นรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือนต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ในการปฏิรูปและกำหนดกติกาทางการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม แล้วจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวรต่อไป โดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนี้ควรอยู่ในตำแหน่งไม่เกินสองปี
รายละเอียดข้อเสนอ มีดังนี้
ข้อเสนอแนะต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
จากกลุ่มคณาจารย์
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จากกลุ่มคณาจารย์
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่แถลงว่ามีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจำกัดความรุนแรงระหว่างกลุ่มประชาชนที่เห็นต่างนั้น อาจได้ผลเพียงเฉพาะระยะสั้น เพราะฐานความขัดแย้งในสังคมไทยยังคงดำรงอยู่ การรัฐประหารอาจยิ่งเพิ่มระดับความแตกแยกทางความคิดในสังคมมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการเผชิญหน้ารายวันระหว่างกลุ่มประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร นี่ทำให้สุ่มเสี่ยงว่าความรุนแรงจะขยายวงกว้างมากขึ้น
บทเรียนจากเหตุการณ์พฤษภาคม พ.ศ. 2535 สะท้อนว่าการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารและจำกัดเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นกลับยิ่งสร้างความสับสนและมีการเผยแพร่ข่าวลือ ทำให้สถานการณ์ลุกลามกลายเป็นความรุนแรงที่เลวร้ายลง
ดังนั้น คสช. ควรเปิดพื้นที่และช่องทางให้ประชาชนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ โดยปฏิบัติต่อประชาชน สื่อมวลชน นักเคลื่อนไหว และนักวิชาการที่มีความเห็นแตกต่างจาก คสช. เยี่ยงเพื่อนร่วมชาติ และเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายใต้หลักความยุติธรรมสากลอันพึงปฏิบัติ ทั้งนี้ คสช. ควรทำหน้าที่เป็นผู้ประสานให้คู่ขัดแย้งได้มีโอกาสพูดคุยกัน และระมัดระวังไม่ให้ คสช. กลายเป็นหนึ่งในคู่ขัดแย้งเสียเอง
และเพื่อให้วัตถุประสงค์หลักในการลดความขัดแย้งบรรลุผลอย่างแท้จริง คสช. จึงไม่ควรครองอำนาจรัฐเป็นเวลานาน เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของทุกภาคส่วนในสังคมไทยและประชาคมโลก ฉะนั้นขอเสนอให้ คสช. จัดตั้งรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าอันซับซ้อนของประเทศ โดยรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือนนี้ควรแก้เงื่อนไขที่ทำให้การเลือกตั้งถูกมองว่าเอื้อประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเด็นที่อาจดำเนินการได้ทันทีเช่น การอนุญาตให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง
จากนั้นรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือนต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ในการปฏิรูปและกำหนดกติกาทางการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม แล้วจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวรต่อไป โดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนี้ควรอยู่ในตำแหน่งไม่เกินสองปี
ด้วยความห่วงใยและความปรารถนาดี
รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์
ดร.จิรวรรณ เดชานิพนธ์
ดร.ทวิดา กมลเวชช
ดร.วสันต์ เหลืองประภัสร์
ดร.วรรณภา ติระสังขะ
ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว
ดร.จันจิรา สมบัติพูนศิริ
อ.จิตติภัทร พูนขำ
อ.สิเรมอร อัศวพรหมธาดา
ดร.จิรวรรณ เดชานิพนธ์
ดร.ทวิดา กมลเวชช
ดร.วสันต์ เหลืองประภัสร์
ดร.วรรณภา ติระสังขะ
ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว
ดร.จันจิรา สมบัติพูนศิริ
อ.จิตติภัทร พูนขำ
อ.สิเรมอร อัศวพรหมธาดา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)