ปฏิกิริยาต่อแถลงการณ์ “ข้อเสนอแนะต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกลุ่มคณาจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

ข้าพเจ้าได้อ่านแถลงการณ์ที่อวดอ้างตัวเองเป็น “ข้อเสนอแนะ” ของคณาจารย์ชั้นสูงแห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันประกอบด้วยอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายท่าน ทั้งด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สันติวิธี สตรีศึกษา และคงมีด้านอื่น ๆ อีกด้วย ขออภัยที่รายชื่ออาจารย์บางท่านนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จักและไม่ทราบว่ามีผลงานด้านไหน

เมื่ออ่านจบแล้ว ความรู้สึกที่บังเกิดขึ้นสองประการแรกก็คือ มันต้องใช้ความกล้าหาญและความไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างมากที่จะลงชื่อในแถลงการณ์แบบนี้  หากเป็นข้าพเจ้า ถ้ามิใช่ถูกข่มขู่อย่างร้ายแรงหรือเอาเงินมากองให้สักหลายล้าน ข้าพเจ้าคงไม่กล้าลงชื่อเป็นแน่  ความรู้สึกประการที่สองคือ หากคณาจารย์เหล่านี้ถือช่อดอกไม้ไปมอบให้ท่านประยุทธ์เป็นพร็อพประกอบแถลงการณ์ ก็คงทำให้องค์ประกอบของ “ข้อเสนอแนะ” สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

คณาจารย์เหล่านี้นับว่าอาจหาญยิ่งนักที่กล้าอ้างว่าแถลงการณ์เป็น “ข้อเสนอแนะ” ต่อรัฐทหารที่กำลังปฏิบัติการปิดปากประชาชน ปราบปรามกวาดล้างความคิดเห็นที่แตกต่าง จนแม้แต่จะหายใจยังแทบจะต้องขออนุญาตอยู่ในขณะนี้  การที่เราจะมี “ข้อเสนอแนะ” ต่อผู้ใดนั้น มันจะเกิดขึ้นได้อย่างมีความหมายก็ต่อเมื่อมีบรรยากาศของการรับฟังกัน ปราศจากการใช้ความรุนแรงต่อกัน และมีความเสมอภาคกันในระดับหนึ่ง  ท่ามกลางบรรยากาศของการปิดสื่อ ปิดช่องทางการสื่อสารและข้อมูลข่าวสาร ควบคุมความคิดเห็นที่เป็นอยู่ คณาจารย์กลุ่มนี้ยังเชื่อว่า คสช. จะรับฟังข้อเสนอแนะใด ๆ นับว่าท่านมองโลกในแง่ดีอย่างยิ่ง  นี่คงเป็นคุณสมบัติที่ทำให้พวกท่านสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบายใจในระบอบการปกครองทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย นับว่าพวกท่านเป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมของการมีชีวิตอย่างปกติสุขตามที่ คสช. แนะนำ นี่คงเป็นคุณสมบัติที่ข้าพเจ้าและประชาชนจำนวนมากคงต้องหัดเรียนรู้เพื่อมีชีวิตปกติสุขในประเทศนี้

การที่เหล่าคณาจารย์แสดงความกรุณาต่อ คสช. โดยให้คำแนะนำอันมีประโยชน์ว่า คสช. "ควรทำหน้าที่เป็นผู้ประสานให้คู่ขัดแย้งได้มีโอกาสพูดคุยกัน” นั่นเท่ากับให้การยอมรับโดยดุษณีต่อความชอบธรรมของกองทัพในการทำรัฐประหารเพื่อ “ยุติความขัดแย้ง” นั่นหมายความว่า อาจารย์คณะรัฐศาสตร์กลุ่มนี้เห็นว่า การรัฐประหารและการแทรกแซงของกองทัพเป็นส่วนหนึ่งของ “กระบวนการประชาธิปไตยแบบไทย ๆ” และดูท่าพวกท่านจะเห็นว่า นี่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพด้วย  ข้าพเจ้าหวังว่าต่อไปในอนาคต พวกท่านคงเขียนตำราอธิบายทฤษฎีใหม่นี้ให้ละเอียด เพื่อเป็นวิทยาทานแก่วงการวิชาการไทยและต่างประเทศในภายภาคหน้า

ข้อเสนอต่อมาที่แนะนำให้ “คสช. จัดตั้งรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือนซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าอันซับซ้อนของประเทศ โดยรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือนนี้ควรแก้เงื่อนไขที่ทำให้การเลือกตั้งถูกมองว่าเอื้อประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” และ “จากนั้นรัฐบาลรักษาการที่มาจากพลเรือนต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ในการปฏิรูปและกำหนดกติกาทางการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม” เป็นชุดข้อเสนอแนะที่น่าแปลกใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าคณาจารย์ชั้นสูงถึง 9 ท่าน กลับมองไม่เห็นความขัดแย้งกันเองง่าย ๆ ในชุดข้อเสนอนี้  กล่าวคือ ท่านพูดถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่กลับไม่เสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขเงื่อนไขของการเลือกตั้ง  โดยคิดเอาเองแบบง่าย ๆ ว่า จะสามารถจัดหารัฐบาลรักษาการจากพลเรือนที่มีความเชี่ยวชาญลอยลงมาจากฟากฟ้า ที่สามารถดลบันดาลกติกาการเลือกตั้งที่เป็นธรรมขึ้นมาได้ พวกท่านคงคิดแล้วกระมังว่า ภายใต้ปากกระบอกปืนของรัฐทหาร ไม่ว่าจะตั้งใครมาเป็นรัฐบาลพลเรือนผู้เชี่ยวชาญ และไม่ว่าจะกำหนดเงื่อนไขการเลือกตั้งมาอย่างไร ประชาชนก็ต้องจำใจยอมรับทั้งสิ้น ต่อให้มีความเห็นแตกต่างก็พูดออกมาไม่ได้  ภาวะจำยอมเช่นนี้กระมัง คือภาวะแห่ง “ระบอบการปกครองที่ดี” ที่พวกท่านกำลังแสวงหาและเสนอแนะอยู่

ข้อเสนอข้างต้นนี้สะท้อนถึงแนวคิดเบื้องหลังสองประการคือ ประการแรก เงื่อนไขการเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่ดีพอ เพราะมันเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประการที่สอง ประชาชนนั้นโง่เง่าเต่าตุ่นจนต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญมากำหนดเงื่อนไขการเลือกตั้งให้ดีพร้อมเหมาะสมเสียก่อน การเลือกตั้งจึงจะเริ่มต้นขึ้นได้  แนวคิดเบื้องหลังนี้ชี้ให้เห็นการขาดความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์การเมืองระยะใกล้ที่เพิ่งผ่านพ้นมา  ไม่ทราบว่าพวกท่านทั้งเก้าไปอยู่ที่ไหนทำอะไร พวกท่านไม่ทราบจริง ๆ หรือว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ถูกฉีกทิ้งอย่างไร รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ถูกเขียนขึ้นมาอย่างไรและถูกฉีกทิ้งอย่างไร พวกท่านไม่ทราบเลยหรือว่า การเลือกตั้งในประเทศไทยที่ผ่านมาในระยะใกล้นี้ ล้วนแล้วแต่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากลมาตลอด เพียงแต่ผลการเลือกตั้งไม่เป็นที่ถูกใจชนชั้นนำและเสียงส่วนน้อยในประเทศนี้เท่านั้นเอง  และท่านไม่ทราบจริง ๆ หรือว่า ปัญหาที่เป็นหัวใจของความขัดแย้งของการเมืองไทยไม่ได้อยู่ที่กระบวนการเลือกตั้ง แต่อยู่ที่การพยายามลดอำนาจประชาชนและเพิ่มอำนาจชนชั้นนำต่างหาก  ต่อให้เอาผู้เชี่ยวชาญสุดวิเศษที่ไหนมาวางเงื่อนไขการเลือกตั้งให้สมบูรณ์แบบ ถ้าผลการเลือกตั้งยังไม่เป็นที่ถูกใจชนชั้นนำและเสียงส่วนน้อยในประเทศนี้ ความขัดแย้งก็จะยังดำเนินต่อไป  ความสงบราบคาบอาจเกิดขึ้นได้ หากให้ไดโนเสาร์สมองจิ้งหรีดสักคณะหนึ่งมาออกแบบการเลือกตั้งที่ประกันว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นที่พอใจของชนชั้นนำและเสียงส่วนน้อยดังกล่าว แล้วเอาปืนจ่อหัวประชาชนให้กล้ำกลืนดำเนินชีวิตต่อไปอย่างปกติสุขเหมือนพวกท่าน  เมื่อนั้น พวกท่านคงชื่นชม คสช. ว่าได้ทำหน้าที่ประสานคลี่คลายความขัดแย้งจนลุล่วง

เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่แถลงการณ์ฉบับนี้ไม่กล่าวถึงประชาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน ที่ถูกทหารคุกคามและควบคุมตัวไว้เลย  ในภาวะที่สื่อถูกปิดกั้นเช่นนี้ ข้าพเจ้าคาดว่า ท่านคณาจารย์คงไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเลยกระมัง เปิดโทรทัศน์ก็เจอแต่ตราห้าห่วงกับเพลงปลุกใจ แม้ตอนนี้มีการนำเสนอข่าวสารภายใต้การควบคุมของ คสช. บ้างแล้ว แต่พวกท่านคณาจารย์คงดูแต่ละครหรือภาพยนตร์อยู่กระมัง เลยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในประเทศของตัวเอง  ข้าพเจ้ามิบังอาจให้คำแนะนำ แค่อยากบอกว่า คสช. ไม่ได้ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต

สุดท้ายนี้ ในภาวะที่ประชาชนกำลังทนทุกข์ภายใต้ปากกระบอกปืนของรัฐทหาร ข้าพเจ้าจะขอบคุณและซาบซึ้งอย่างยิ่ง หากคณาจารย์ทั้งเก้าท่านจะไม่ออกแถลงการณ์ที่ซ้ำเติมความทุกข์ทางใจให้ประชาชนมากไปกว่าเดิมอีก  ขอเพียงท่านอยู่เฉย ๆ ก็นับเป็นปฏิบัติการเชิงสันติวิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกท่านจะสามารถปฏิบัติได้

 

ด้วยความไม่นับถือ

ภัควดี ไม่มีนามสกุล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท