Skip to main content
sharethis
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่านางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2557 ว่า ได้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานตามโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้งรายงานตัวเลขงบประมาณ 2557 ที่ยังเหลืออยู่ 169,801 ล้านบาท แบ่งเป็นงบบุคลากร 83,687 ล้านบาท งบลงทุน 19,648 ล้านบาท และงบพัฒนา 66,464 ล้านบาท
 
นอกจากนี้ นางสุทธศรี กล่าวว่า ได้เสนอโครงการเร่งด่วนที่จำเป็นต้องเสนองบกลางเพิ่มเติมต่อ คสช.อีกหลายโครงการ อาทิ โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา หรือแทบเล็ต โครงการช่วยเหลือสถานศึกษาที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จ.เชียงราย โครงการพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการสร้างความเข้าใจ ความสามัคคี และความสมานฉันท์ของคนในชาติ เป็นต้น
 
“ในส่วนของการสร้างความสามัคคี และจิตสำนึกในการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั้น ศธ.จะประสานฝ่ายสังคมจิตวิทยา ขอเพลงปลุกใจ 10 เพลงไปมอบให้สถานศึกษาสังกัด ศธ. ทั้งรัฐและเอกชนเพื่อเปิดให้นักเรียนฟังช่วงเช้าก่อนเคารพธงชาติ และช่วงพักกลางวัน เนื่องจากเห็นว่า เนื้อหาของเพลงมีความหมายที่ดี ทำให้เกิดความฮึกเหิม รักชาติ และทำให้เกิดความรักสามัคคี” นางสุทธศรี กล่าว
 
ส่วนความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนเพื่อพิจารณาแยกวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองออกเป็นวิชาต่างหากและกำหนดชั่วโมงเรียนให้ชัดเจนนั้น
 
วันเดียวกัน นายวินัย รอดจ่าย ประธานกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะแยกวิชาประวัติศาสตร์และวิชาหน้าที่พลเมืองออกมาต่างหาก และจะต้องมีการกำหนดชั่วโมงเรียน คาบเรียนซึ่งต้องมีการจัดสรรให้เหมาะสมอีกครั้ง แต่ทั้งสองวิชานี้จะมีหน่วยกิตที่มีผลต่อการเรียนแน่นอน
 
นายวินัย กล่าวด้วยว่า แนวโน้มจะต้องมีหนังสืออ่านนอกเวลาให้เด็กได้อ่านเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะต้องไปคัดสรรหนังสือที่อ่านแล้วเกิดความภาคภูมิใจในชาติและซาบซึ้งในบรรพบุรุษ เช่น สมเด็จพระนเรศรวร สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระยาพิชัยดาบหัก ชาวบ้านบางระจัน เป็นต้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net