Skip to main content
sharethis
‘พ.อ.วินธัย’ แจงคณะกรรมการ 5 ชุดดูแลสื่อไม่ใช่เป็นการปิดกั้น ขอสมาคมนักข่าวอย่ากังวล วอนร่วมมือเลือกเสนอข่าวที่เหมาะสม ‘ประยุทธ์’ ส่ง ‘บิ๊กโด่ง’ พบผู้บริหารสื่อ เพื่อปรับความเข้าใจ
 
คสช.พบผู้บริหารสื่อพรุ่งนี้ ปรับความเข้าใจ

26 มิ.ย. 2557 breakingnews.nationtv รายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่า เรื่องข้อกังวลของของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เรียนว่าการตั้งคณะทำงานด้านสื่อหลายคณะเพื่อเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติเพื่อให้การตอบกลับข่าวสารเป็นไปอย่างทันท่วงทีเพื่อให้ข้อเท็จจริงจากภาครัฐกระจายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะถ้าเราไม่ร่วมกันบริหารจัดการให้ดีก็จะเกิดความสับสนเหมือนที่ผ่านมา ยืนยันไม่ใช่เป็นการปิดกั้นหรือกระทบการรับทราบข้อเท็จจริงของประชาชน

"นอกจากข่าวที่เป็นเรื่องของการจินตนาการ หรือสร้างกระแสข่าวลือหวังแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบจากสื่อ ถ้ามีกรณีแบบนี้อาจจะต้องขอความร่วมมือในการให้น้ำหนัก พื้นที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามอยู่ในลักษณะของการแลกเปลี่ยนรับฟังซึ่งกันและกันด้วยหลักการเหตุผลและข้อเท็จจริง โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ยืนยันไม่ใช่มาตรการบังคับเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพใดๆ อย่างแน่นอน" พ.อ.วินธัย กล่าว

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาต้องขอบคุณสื่อมวลชนโดยเฉพาะสื่อมวลชนที่มีความเข้าใจตรงกันในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคม ซึ่งถือว่าสื่อทุกสื่อมีส่วนสำคัญในการพัฒนาของประเทศให้ดีขึ้น

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปยังกองบรรณาธิการสื่อนั้นจริงหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับข้อมูล เพราะตามปกติเราจะใช้การสื่อสารแบบขอความร่วมมือไม่มีบุกไปที่กองบรรณาธิการแต่อย่างใด ซึ่งลักษณะของคนนำสารจะเป็นใครเราไม่ทราบ อาจเป็นบุคคลหรือเอกสารก็ได้ แต่วัตถุประสงค์คือการขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน

เมื่อถามว่าหากมีการนำเสนอข่าวนายจักรภพ เพ็ญแข หรือนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ สื่อมวลชนจะสามารถนำเสนอได้หรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่ดุลยพินิจของสื่อมวลชนเอง เราไม่มีมาตรการในเชิงบังคับ โดยในส่วนงานของโฆษก คสช.ไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วเพราะถือว่าข้อมูลไม่ได้ผลกระทบอะไรเนื่องจากเราให้ความสำคัญกับปัญหาภายในประเทศมากกว่า เพราะการเคลื่อนภายนอกประเทศเข้าข่ายความไม่เหมาะสมในเรื่องกฎหมายความมั่นคงหลายมาตรา ซึ่งในต่างประเทศเองคงไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำการในลักษณะดังกล่าวในประเทศตัวเอง เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่าต่างประเทศไม่สนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งเราได้ให้ข้อมูลข่าวสารกับสื่ออย่างเท่าเทียมกันไม่ใช่เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

เมื่อถามว่าเบื้องต้นจะมีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าจะควบคุมการนำเสนอข่าวของสื่อนานแค่ไหน พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เราไม่ได้ควบคุมเนื้อหาเราจะให้สื่อใช้วิจารณญาณในภาพรวมกันเอง และให้ดูความเหมาะสมรวมถึงมองในภาพกว้าง อาทิ เรื่องคดีความต่างๆ ที่มีกระบวนการที่จะเดินหน้าในขั้นแรกสื่อก็จะนำเสนอในทางที่ผิดซึ่งอาจนำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ผิดทำให้ประชาชนเข้าใจผิด แต่เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นไม่เป็นตามที่สื่อนำเสนอก็ทำให้กระบวนการดูไม่น่าเชื่อถือ

ส่วนที่วันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) จะมีการเชิญผู้บริหารสื่อเข้ารับประทานอาหารกับเลขา คสช.จะมีการชี้แจงแนวทางดังกล่าวหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า มีโอกาสชี้แจงซึ่งในเรื่องของการพบปะสื่อจะเป็นเรื่องของการชี้แจงและปรับความเข้าใจในการทำงานระหว่างกันเพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น โดยการพูดคุยจะเป็นการขอความร่วมมือให้การนำเสนอเป็นไปอย่างสร้างสรรค์หรือเป็นประโยชน์

เมื่อถามว่าการที่จะให้ผู้บังคับการตำรวจสันติบาลติดตามข้อมูลข่างสารของสื่อจะมีการทำเหมือนในอดีตหรือไม่ที่มีการเฝ้าจับตาสื่อบางบุคคล พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เท่าที่ดูตามเอกสารและการประสานงานในเบื้องต้นจะเป็นการติดตามเพื่อให้ประสิทธิภาพการตอบกลับข่าวมีความรวดเร็ว ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมองในมุมนี้มากกว่า ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นลิดรอนสิทธิเสรีภาพการทำงานของสื่อมวลชน
 
 
‘ประยุทธ์’ ส่ง ‘บิ๊กโด่ง’ พบผู้บริหารสื่อ เพื่อปรับความเข้าใจ
 
เดลินิวส์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ กรุงเทพฯ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการนัดเชิญผู้บริหารสื่อมวลชน ร่วมหารือกับ คสช.ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคสช.ได้มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทน คสช.พบกับผู้บริหารสื่อฯ เพื่อขอบคุณและทำความเข้าใจ เมื่อสื่อมวลชนให้เกียรติ ทางคสช.ก็ให้เกียรติสื่อมวลชนเช่นกัน เพราะมีความเป็นมิตรต่อกัน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามปัญหาต่าง ๆ รวมถึงจะชี้แจงการทำงานของ คสช.ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการทำงานของคสช. 1 เดือนนี้ ก็รู้สึกพอใจและจะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net