ความขัดแย้งเรื่องการจัดการรัฐวิสาหกิจไม่ได้เป็นเรื่องของความคิดความเชื่อทางวิชาการเรื่องการจัดการทรัพยากรของประเทศเท่านั้น หากแต่มักมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ เพราะหากว่าเป็นเรื่องของความคิดความเชื่อทางวิชาการ การจับเข่าคุยกันก็น่าจะแก้ปัญหาได้ หากเปิดใจรับฟังความเห็นที่แตกต่าง อย่างกรณีล่าสุด การยุบหรือไม่ยุบกองทุนน้ำมัน ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ทรัพย์สิน หนี้สิน ผลกำไรขาดทุนของรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง ส่งผลต่อฐานะทางการคลังของประเทศและระบบเศรษฐกิจ การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และลดการรั่วไหลย่อมส่งผลบวกต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน (โปรดดูตารางประกอบ)
รัฐวิสาหกิจกลุ่มไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non- SFls) 46 แห่ง 8 สาขา
งบดุล (ลบ.) |
2554 |
2555 |
2556* |
ณ ธันวาคม2556 |
เงินสด |
408,126 |
345,545 |
413,501 |
411,831 |
สินทรัพย์ |
4,055,242 |
4,513,608 |
4,781,950 |
4,792,409 |
หนี้สิน |
2,300,958 |
2,642,434 |
2,787,551 |
2,812,143 |
ทุน |
1,754,284 |
1,871,174 |
1,994,399 |
1,980,267 |
งบกำไรขาดทุน (ลบ.) |
2554 |
2555 |
2556 |
ต.ค.-ธ.ค. 2556** |
รายได้รวม |
3,820,239 |
4,414,513 |
4,625,022 |
48,220 |
รายได้รวม |
3,988,963 |
4,597,326 |
4,807,129 |
53,302 |
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน |
3,619,560 |
4,084,748 |
4,376,227 |
35,651 |
ค่าใช้จ่ายรวม |
3,682,698 |
4,228,839 |
4,481,896 |
39,331 |
กำไรจากการดำเนินงาน |
306,228 |
368,486 |
325,233 |
13,970 |
ดอกเบี้ยจ่าย |
47,716 |
50,755 |
47,871 |
2,889 |
ภาษีเงินได้ |
58,246 |
61,454 |
55,260 |
1,039 |
EBITDA |
424,278 |
438,731 |
448,073 |
15,903 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ |
177,838 |
235,046 |
222,101 |
12,053 |
แหล่งที่มา: สคร กระทรวงการคลัง
ความล้มเหลวของระบบทุนนิยมในสหรัฐอเมริกาก็ดี ในยูโรโซนก็ดี หรือแม้นกระทั่งภาวะเงินฝืดยาวนานของญี่ปุ่น ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของระบบและกลไกตลาด ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ ค.ศ. 1980 เป็นต้นมา แนวคิดแบบเคนเสี่ยนเริ่มเสื่อมความนิยมลง ความนิยมในกลไกตลาดกลับคืนหมด มองไปที่ใด ล้วนสนับสนุนการแปรรูปและลดบทบาทภาครัฐ
กลไกตลาดและระบบตลาดนั้นทำงานเหมือนกลไกในระบบธรรมชาติ เปรียบเหมือน “มือที่มองไม่เห็น” หรือ “Invisible Hand” ในการจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ระบบเศรษฐกิจที่มีการวางแผนจากส่วนกลางโดยรัฐแบบสังคมนิยมจึงไม่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศ และได้หันมาใช้ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดมากขึ้น แนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบตลาดนี้ไม่สนับสนุนให้รัฐเข้ามาแทรกแซงหรือจัดการกับกลไกตลาด ต้องปล่อยให้กลไกเป็นไปตามธรรมชาติ เช่น การควบคุมราคาสินค้า อาจนำมาสู่การขาดแคลนสินค้าได้ การกำหนดเพดานค่าแรงขั้นต่ำ อาจนำมาสู่ปัญหาการว่างงานได้ เป็นต้น กลไกตลาดมีส่วนอย่างสำคัญทางด้านทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ส่วนด้านความเป็นธรรมและความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ กลไกตลาดไม่สามารถเข้าไปจัดการได้มากนัก รัฐจึงต้องมีบทบาทในการเข้าไปจัดการในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ กลไกตลาดจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ มีการไหลเวียนข้อมูลข่าวสารอย่างสมบูรณ์ ในโลกแห่งความจริง โครงสร้างตลาดในระบบเศรษฐกิจ หรือในธุรกิจอุตสาหกรรม หรือในสินค้าบริการต่าง ๆ ไม่ได้มีสภาพโครงสร้างตลาดแบบแข่งขันอย่างสมบูรณ์ ในหลายกรณีโครงสร้างเป็นแบบผูกขาดหรือแบบกึ่งผูกขาด ทำให้การจัดสรรทรัพยากรไม่มีประสิทธิภาพ เกิดต้นทุนต่อสังคม และผลกระทบภายนอกทางลบ (Negative Externalities) ต่อระบบเศรษฐกิจ
กลไกตลาดที่ทำงานอย่างสมบูรณ์ตามอุดมคติของระบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม ย่อมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพาเรโต้ การเปลี่ยนแปลงแบบพาเรโต้ (Pareto Improvement) เป็นการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ในลักษณะที่การเปลี่ยนแปลงจะทำให้คนอย่างน้อยหนึ่งคนดีขึ้น ในขณะที่คนอื่น ๆ จะดีขึ้นด้วยก็ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดก็เหมือนเดิม ไม่แย่ลง สภาพดังกล่าวเป็น win win situation การเปลี่ยนแปลงแบบพาเรโต้ นำมาสู่ดุลยภาพแบบพาเรโต้ คือ สภาวะที่การจัดสรรทรัพยากรได้ประสิทธิภาพสูงสุด เป็นสภาวะที่หากมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว จะไม่ทำให้มีคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความพอใจลดลงอย่างแน่นอน
กลไกตลาดที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพาเรโต้ อันนำมาสู่ดุลยภาพแบบพาเรโต้นั่นเอง
ความล้มเหลวของระบบตลาด (Market Failure) คือ การที่ระบบตลาดแข่งขันสมบูรณ์ไม่มีประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรให้เกิดสวัสดิการสังคมสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อกลไกการจัดสรรทรัพยากรของตลาดแข่งขันสมบูรณ์ไม่สามารถนำไปสู่เงื่อนไขตามหลักพาเรโต้ได้นั่นเอง ความล้มเหลวของระบบตลาดและผลกระทบเป็นสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจและศึกษา รวมทั้ง บทบาทของรัฐในการเข้าแทรกแซงและจัดการปัญหาความล้มเหลวของระบบตลาด
สภาพโครงสร้างตลาดที่มีการแข่งขันไม่สมบูรณ์มี 3 ลักษณะด้วยกัน คือ 1) ตลาดผู้ขายน้อยราย 2) ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด 3) ตลาดผูกขาด
ในระบบเศรษฐกิจหรือโครงสร้างตลาดที่มีอำนาจผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด ความสามารถในการกำหนดราคาสูงกว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสของสินค้าและบริการที่ผลิตได้ในโครงสร้างตลาดผูกขาดและกึ่งผูกขาด ทำให้การจัดสรรทรัพยากรไม่มีประสิทธิภาพ และส่งผลให้สังคมไม่ได้รับสวัสดิการสูงสุด หรือสูญเสียผลประโยชน์บางส่วนไปให้กับกลุ่มที่มีอำนาจผูกขาด
ระบบตลาดอาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการกระจายรายได้และปัญหาความยากจน หรือบางครั้งอาจทำให้ปัญหาหนักขึ้นก็ได้ รวมทั้ง กลไกตลาดอาจไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับมลพิษในภาคการผลิตอุตสาหกรรม จึงต้องอาศัยกลไกรัฐเข้าไปช่วยดูแล หรือกลไกราคาไม่สามารถแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจได้ดีนัก จึงต้องอาศัยบทบาทของรัฐทางเศรษฐกิจ เช่น การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ การรับจำนำสินค้าเกษตร หรือการประกันราคาสินค้าเกษตร เป็นต้น
การให้บริการทางด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ หรือการสร้างโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า การสร้างโครงข่ายท่อน้ำประปา การสร้างโครงข่ายโทรคมนาคม การสร้างโครงข่ายระบบขนส่งระบบราง เป็นต้น เป็นการดำเนินการที่ใช้งบประมาณลงทุนสูง ใช้เทคโนโลยีสูง และต้องมีการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) การให้บริการและผลิตสินค้าดังกล่าวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคม มีสภาวะที่เรียกได้ว่า เป็นกิจการที่มีลักษณะผูกขาดโดยธรรมชาติ (Natural Monopoly) ในกรณีดังกล่าว รัฐหรือรัฐบาลจำเป็นต้องเข้าไปมีบทบาทในควบคุมหรือแทรกแซง การแทรกแซงโดยรัฐบาลในกรณีการผูกขาดโดยธรรมชาติ อาจทำได้ด้วยการควบคุมอัตราผลตอบแทน (Rate of Return Regulation) จากการลงทุนไม่ให้เกินอัตราที่กำหนด
ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่อาจทำให้กลไกตลาดมีประสิทธิภาพหรือล้มเหลวก็ได้ ความไม่สมมาตรและความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล ทำให้กลไกตลาดล้มเหลวได้ แต่รัฐก็ไม่จำเป็นต้องแทรกแซงทุกกรณี เพราะอาจทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าเดิมก็ได้ ในหลายครั้ง รัฐไม่ได้มีข้อมูลมากกว่าตลาด
จะปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ หรือจัดการทรัพย์สินของประเทศ ก็ต้องคิดให้รอบคอบและตัดสินใจกำหนดนโยบายบนทางสองแพร่งระหว่างกลไกตลาด กับบทบาทของรัฐทางเศรษฐกิจ หรือส่วนผสมทางนโยบายแบบไหนจึงจะดีที่สุดต่อประเทศและประชาชน
เกี่ยวกับผู้เขียน: ปัจจุบัน ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ เป็น รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต