Skip to main content
sharethis

7 ก.ค.2557 เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน ออกแถลงการณ์กรณี กอ.รมน. จ.บุรีรัมย์ ได้ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าดงใหญ่ ตามแนวทางคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 และคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ โดยระบุไม่เห็นด้วยกับคำสั่งไล่รื้อดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งไล่รื้อชาวบ้านโนนดินแดงออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน รวมถึงให้ปฏิบัติตามข้อเสนอของชาวบ้าน คือ หนึ่ง ยุติปฏิบัติการในการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และ สอง ถ้าหาก คสช.จริงใจในการแก้ไขปัญหา ควรตั้งคณะกรรมการในการเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน

 

แถลงการณ์
ให้ คสช. ยุติการไล่รื้อ คุกคาม ชาวบ้านโนนดินแดง

จากการที่ กอ.รมน. จ.บุรีรัมย์ ได้ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าดงใหญ่ ตามแนวทางคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 และคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 โดยชุดปฏิบัติการร่วม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ชุดมวลชนสัมพันธ์ กอ.รมน.จว.บ.ร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนดินแดง  ได้ออกปฏิบัติการเข้าพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจ และกำหนดแผนการปฏิบัติงาน ดังนี้

1. วันที่ 1–7 กรกฎาคม 2557 ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจ

2. วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 เชิญแกนนำกลุ่มผู้บุกรุกทุกกลุ่มมาชี้แจงทำความเข้าใจถึงมาตรการที่กำหนด

3. ดำเนินการคัดกรองผู้บุกรุกที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 7 กรกฎาคม 2557

4. ดำเนินการจัดสถานที่พักพิงชั่วคราวและจัดทำแผนการดูแลผู้ที่ถูกผลักดันออกจากป่าดงใหญ่ เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อพักคอยการช่วยเหลือ ให้ อำเภอโนนดินแดง เป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการและประสานงาน ทั้งนี้ โดยกำหนดให้ใช้พื้นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (สปก.) แปลงที่กรมพัฒนาที่ดินขอใช้ประโยชน์ จำนวนประมาณ 90 ไร่ ณ ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์

5. วันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ดำเนินการผลักดันผู้บุกรุกออกจากพื้นที่บุกรุกทุกกลุ่มและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งพืชผลอาสินของกลุ่มผู้บุกรุก

6. วันที่ 9 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป ดำเนินการจัดระเบียบและควบคุมพื้นที่บุกรุกเพื่อป้องกันมิให้มีการบุกรุกซ้ำ ทั้งนี้ โดยกำหนดแนวทางการปฏิบัติต่อผู้บุกรุก ดังนี้

6.1) กลุ่มที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ให้ผลักดันกลับจังหวัดที่มีภูมิลำเนาเดิม

6.2) กลุ่มที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ไม่ได้อยู่ในอำเภอโนนดินแดงให้ผลักดันกลับอำเภอที่มีภูมิลำเนาเดิม

6.3) กลุ่มที่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอโนนดินแดง ในเบื้องต้นให้กลับบ้านหรือภูมิลำเนาเดิม หากอ้างว่าเดือดร้อนไม่มีที่ไป ก็จัดเข้าที่พักพิงชั่วคราวเพื่อให้คณะกรรมการคัดกรองดำเนินการคัดกรองฯ ต่อไป

จากสถานการณ์การออกคำสั่งของ คสช. และการปฏิบัติงานตามแผนที่กล่าวมาเบื้องต้นได้ทำให้ชาวบ้านโนนดินแดงเกิดความหวาดผวาและหวาดกลัวต่อปฏิบัติการของทหารที่มีอาวุธครบมือเข้าไปในพื้นที่ทั้งการข่มขู่ การคุกคาม ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด  ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ก็พยายามเจรจามาตลอดเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรม  ซึ่งการกระทำของทหารจึงถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิชาวบ้านคนจนอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ทางเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสานมีความเห็นว่าในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังเข้าสู่การสร้างความปรองดองสมานฉันท์หรือช่วงของการสร้างความสุขของแต่ละพื้นที่ พวกเราจึงไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของ คสช. ที่จะไล่รื้อชาวบ้านคนจนออกจากพื้นที่เพราะว่าไม่เป็นกระบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กลับจะสร้างความทุกข์และความแตกแยกของชาวบ้าน จากที่กล่าวมาข้างต้นทางเครือข่ายทรัพย์ฯ จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้

1. ให้ คสช. ยกเลิกคำสั่งไล่รื้อชาวบ้านโนนดินแดงออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน เนื่องจากคำสั่งของ คสช. ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวและหวาดผวาต่อการเข้าไปในพื้นที่ของทหาร
               
2. ให้ปฏิบัติตามข้อเสนอของชาวบ้าน คือ หนึ่งให้ยุติปฏิบัติการในการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สองถ้าหาก คสช.จริงใจในการแก้ไขปัญหา ควรตั้งคณะกรรมการในการเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน

ความสุขของคนจนคือการมีพื้นที่ทำกิน
เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีสาน
7 กรกฎาคม 2557

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net