Skip to main content
sharethis

ความเห็นประชาพิจารณ์คูปองเวทีสุดท้าย ชี้มูลค่าคูปองต้องสนับสนุนทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริง พร้อมคำนึงถึงการใช้งบฯที่เหมาะสม

10 ก.ค.2557 บรรยากาศการรับฟังความคิดเห็นเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นในการดำเนินโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เวทีสุดท้าย ณ โรงแรมสวิส โฮเทล เลอคองคอร์ด กรุงเทพฯ ในวันสุดท้าย ภาคกลาง มีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เคเบิล ดาวเทียม ผู้ผลิตกล่องต่างๆ นักวิชาการ ผู้บริโภค และสื่อมวลชนให้ความสนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นราคามูลค่าคูปอง ที่บางคนมีความเห็นให้คงราคาไว้ที่ 1,000 บาท เพราะเชื่อว่าประชาชนจะออกเงินส่วนต่างไม่มาก พร้อมทั้งได้กล่องที่มีคุณภาพตามที่ กสทช.กำหนด

ในขณะที่ความเห็นของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เสนอว่าปีแรกควรแจกคูปองราคา 690 บาท เพราะการกำหนดราคาคูปองที่สูงจะส่งผลให้ราคากล่องสูงขึ้นตาม เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคที่ไม่ได้รับคูปอง หรือซื้อกล่องที่ 2 ต่อไป พร้อมทั้งทบทวนราคาและวิธีการแจกในปีถัดไปเพราะในตลาดหากสินค้าหรือกล่องมีมากขึ้น – ราคาจะถูกลง และเพื่อรักษาผลประโยชน์เงินสาธารณะ สารี อ๋องสมหวัง กล่าวว่า “เงินไม่มีที่ไหนฟรี มีต้นทุนจากทุกส่วน”

ส่วนประเด็นเงื่อนไขการใช้คูปองจะสามารถแลกกล่องดาวเทียม หรือเคเบิลได้หรือไม่นั้น ผู้ประกอบกิจการดิจิตอลทีวี  GMM และผู้ประกอบการเคเบิล และดาวเทียม เห็นด้วยกับการใช้คูปองแลกกล่องดาวเทียมเคเบิลเพื่อที่รับชมดิจิตอลทีวีในระบบ HD คุณภาพคมชัดสูงได้และมีช่องทีวีอื่นเพิ่ม

ในขณะที่ผู้ประกอบการดิจิตอลทีวีรายอื่น อาทิ PPTV Nation TV อสมท.  และผู้ผลิตกล่องดิจิตอลภาคพื้นดิน DVB T2 มีความเห็นว่า ไม่สมควรให้แลกกล่องดาวเทียมและเคเบิลได้ เพราะจะสร้างความเสียหายทางแผนธุรกิจที่ได้วางไว้มาก่อน พร้อมทั้งเกิดความเสียเปรียบทางธุรกิจทั้งแพลตฟอร์มและช่อง จึงอยากให้ กสทช.กลับมาทบทวนเงื่อนไขเดิมที่ได้บอกไว้ก่อนการประมูลว่า รายได้จะนำไปสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการรับชมทีวีดิจิตอลทั้ง 48 ช่อง ให้เร็วที่สุด น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดและตรงตามกฎหมาย

สุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพ อสมท. แสดงความคิดเห็นว่า การรับฟังความเห็นครั้งนี้ไม่ควรตั้งคำถามว่า การให้คูปองแลกกล่องดาวเทียมและเคเบิลจะตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งเป็นคนละตรรกะ กับการนำเงินประมูลคลื่นความถี่มาสนับสนุนกิจการไม่ใช้คลื่นทั้งเคเบิลและทีวีดาวเทียม จึงขอถามว่า ความเป็นธรรมอยู่ตรงไหน

สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยหลัง ว่า  ส่วนตัวมีความเห็นสอดคล้องกับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 12 ช่อง และองค์กรเพื่อผู้บริโภค รวมทั้งนักวิชาการ เพราะว่าในเวลานี้ ถ้าทุกฝ่ายอยากจะให้เกิดการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีระบบดิจิตอลโดยเร็ว หนทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ ยึดตามมติเดิมของ กสทช. ที่กำหนดมูลค่าคูปอง 690 บาท พร้อมทั้งเงื่อนไขสามารถแลกทีวีดิจิตอลในตัวและกล่องทีวีดิจิตอลเท่านั้น ถ้าเปลี่ยนไปจากนี้ อาจมีเหตุในเกิดการฟ้องร้องและทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปได้ เพราะฉะนั้นส่วนตัวคิดว่าในเฟสแรก หรือปีแรกนี้ น่าจะยืนตามหลักการนี้ก่อน หลังจากมีการรับชมได้เกิน 50 % ของครัวเรือนแล้วจึงค่อยมาดูกันว่าจะขยับคูปองให้ลดลงก่อนถึงจะมาเพิ่มเงื่อนไขรับชมผ่านกล่องทีวีดาวเทียมและเคเบิล

สุภิญญา กล่าวว่า เท่าที่ติดตามการรับฟังประชาพิจารณ์ การแสดงความเห็นส่วนมากจะอยู่ที่การรับชมที่มีความสะดวก แต่ต้องไม่ลืมจุดยืน กสทช.ที่ต้องสามารถทำให้รับชมได้ครบ 48 ช่อง เป็นจุดสำคัญถ้าหากมีปัญหาอาจมีการฟ้องร้องต่อศาลได้ ประกอบกับคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับ 80 เมื่อคืนนี้ (9ก.ค.57) แสดงให้เห็นว่าสังคมจับตาการใช้งบประมาณ กสทช. รวมทั้ง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ก็ตั้งคำถามถึงการคิดราคาต้นทุนที่แท้จริง ถ้าเรายังไม่สามารถคิดราคาต้นทุนที่ชัดได้ เราจะกลับไปยืนที่ 690 ก็ยังมีฐานกฎหมายอิง

ทั้งนี้ กสทช.ยังเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการนี้จนถึง วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม  2557 เวลา 16.30 น. ทาง อีเมล hearing.dtv@nbtc.go.th  ทางโทรสาร: หมายเลข 0 2278 5493  หรือส่งด้วยตนเองที่สำนักงาน กสทช. สำนักกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล  อาคารมนริริน ชั้น 5 โซน C ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 (ในเวลาทำการ 8.30 – 16.30 น.) และส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (โดยจะถือเอาวันที่ไปรษณีย์ลงทะเบียนได้ประทับตรารับจดหมาย) เรียน ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่อยู่  “สำนักงาน กสทช. เลขที่ 87 ถนนพหลโยธิน ซอย 8 (สายลม) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400” วงเล็บมุมซองว่า "แสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net