Skip to main content
sharethis
‘อารี ไกรนรา’ หัวหน้าการ์ด นปช. เข้าแจ้งความกองปราบเอาผิดผู้ที่กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ทั้งสำนักข่าวที่เผยแพร่ ยืนยันไม่รู้จักผู้ต้องหา 
 
17 ก.ค. 2557 ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (17 ก.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม นายอารีย์ ไกรนรา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนาย เดินทางมาแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วรพงษ์ ภวเวส พนักงานสอบสวน กก. 1 บก.ป. ภายหลังถูกพาดพิงและกล่าวหาว่ามีส่วนในการยิงอาวุธ เอ็ม 79 ใส่ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ราชดำริ โดยมี พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ควบคุมดูแล
 
นายอารีย์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้าตาผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ในคดีร่วมกันใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่พื้นที่ชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) หน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา มาก่อน และการที่นายชัชวาล หรือ ชัช ปราบบำรุง หนึ่งในผู้ต้องหา ได้กล่าวอ้างว่า มีคนชื่อ นายต้อม ไม่ทราบชื่อและนามสกุล เป็นลูกน้องของตน มาจ้างวานด้วยปืน 2 กระบอก ให้ก่อเหตุ ก็ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ได้ตรวจสอบไปที่ลูกน้องคนสนิททุกคนแล้ว ไม่พบว่าใครชื่อ ต้อม
 
นายอารีย์ กล่าวอีกว่า ได้ปรึกษาทีมทนายความทีมกฎหมาย นปช.แล้ว และมีมติให้แจ้งความดำเนินคดีกลับ กับคนที่กล่าวหาใส่ร้าย และสำนักข่าวที่ทำการเผยแพร่ข่าว เพราะข่าวนี้ทำให้เราเสียหาย จำเป็นต้องปกป้องสิทธิของ เราต้องขอความเป็นธรรม และเชื่อว่าตำรวจจะมีเหตุผลเพียงพอ ว่าอะไรคืออะไร ต้องว่ากันตรงไปตรงมาด้วยพยานหลักฐาน
 
 
ศาลอนุญาตฝากขังผู้ต้องหายิง M79 บิ๊กซีราชดำริ-ค้านประกัน
 
breakingnews.nationtv รายงานว่า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 วันที่ 17 ก.ค. 57 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.เดชา พรหมสุวรรณ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ลุมพินี พร้อมกำลังควบคุมตัว นายทวีชัย หรือ วี วิชาคำ อายุ 39 ปี, นายสุนทร หรือทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี, นายสมศรี หรือเยอะ มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี และนายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 - 4 คดีลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 บริเวณห้างบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อ เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสี่ยชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 - 28 ก.ค.นี้ เนื่องจากสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยาบุคคล อีกจำนวนมาก และรอผลตรวจรอยพิมพ์มือผู้ต้องหา รวมทั้งตรวจพิสูจน์ของกลางและอื่นๆ โดยพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์มีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปข่มขู่พยาน
 
ขณะที่คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.57 ผู้ต้องหากับพวกที่ยังหลบหนี มีและใช้เครื่องยิงลูกระเบิดที่พลเรือนไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ ซึ่งผู้ต้องหายิงลูกระเบิดวิถีโค้งประทับไหล่ชนิดเอ็ม 79 ขนาด 40 มม. จากรถกระบะขณะอยู่บนสะพานลอยข้ามแยกประตูน้ำ เข้าใส่พื้นที่การชุมนุม กปปส. ทำให้ น.ส.ฐิติพรรณ สุวรรณมณี อายุ 59 ปี , ด.ญ. พัชรากร ยศอุบล อายุ6 ปี และ ด.ช. กรวิชช์ ยศอุบล อายุ 4 ปีถึงแก่ความตาย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 21 คน รวมทั้งมีทรัพย์สินอื่นได้รับความเสียหาย
 
ต่อมาวันที่ 15 ก.ค.57 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมจับกุมผู้ต้องหาไว้พร้อมแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นฯ , มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน และฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดออกนอกเคหะสถาน ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 พร้อมยึดรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีทอง หมายเลขทะเบียน ศธ 8739 กรุงเทพ ,รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีดำ หมายเลขทะเบียน ศย 8904 กรุงเทพ , รถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒษ 4664 กรุงเทพ ,เครื่องยิงลูกระเบิดประทับไหล่วิถีโค้ง แบบ เอ็ม 79 รหัสตัวปืน 105294 จำนวน 1 กระบอก , ลูกเอ็ม 79ชนิด 40 มม. 25 นัด , อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก , ลูกกระสุนขนาด 5.56 มม. จำนวน 70 นัด , อาวุธปืนยาวไรเฟิล 1 กระบอก , ลูกระเบิดชนิดขว้างสังหาร วี 40 ทำในจีน จำนวน 5 ลูก , ชนิดน้อยหน่า เอ็มเค 2 จำนวน 2 ลูก , ชนิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก
 
โดยศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด มาศาลเพื่อฝากขัง มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช พร้อมอาวุธครบมือ มาดูแลความปลอดภัยด้วย
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net