Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 



Guardians of the galaxy เป็นเรื่องราวของกลุ่มบุคคลชั้นล่าง/ผู้แพ้ของสังคม-โจร นักเกรียน สาวสังหารและเพี้ยนจอมพลัง-ทั้งที่เป็นมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งบังเอิญเข้าไปพัวพันกับแผนการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตบนดวงดาวดวงหนึ่งของวายร้ายมากอำนาจนามโรแนน พวกเขาจึงต้องหาวิธีอยู่รอดพร้อม ๆ กับการมุ่งสู่เป้าหมายภายนอกซึ่งนำมาซึ่งการเติบโตด้านในของแต่ละคน

พวกเขากลายเป็นเป้าทำลายของเหล่าร้ายเพราะครอบครอง “ศิลาอนันตภาพ” ที่มีพลังไร้ขอบเขตสามารถให้ทั้งพลังกำเนิดสร้างสรรค์และพลังทำลายล้างระดับสร้างผืนพิภพหรือลบดวงดาวออกจากแผนที่จักรวาล การได้ครอบครองศิลาดังกล่าวโดยไม่รู้ถึงพลังอันแท้จริงประกอบกับสถานะบุคคลชั้นสองของพวกเขาผลักดันให้แต่ละบุคคลมุ่งนำสิ่งของที่มีพลังสูงเกินกว่าจะไปรับใช้ประโยชน์ส่วนตนของคนใดคนหนึ่งไปแปรเป็นทรัพย์สินใช้สอยโดยไม่ตระหนักว่าหากปล่อยพลังดังกล่าวตกไปอยู่ในกำมือของบุคคลเพียงคนเดียวพลังนั้นจะมีอันตรายใหญ่หลวงต่อส่วนรวม

ระบบการเขียนบทและการสร้างภาพยนตร์ของสตูดิโอมาร์เวลล์ที่มีลูกล่อลูกชนนำแอคชั่นดราม่าและอารมณ์ขันมาผสมด้วยสูตรต่าง ๆ กันสร้างความสนุกสนามตามมาตรฐาน นักแสดงและผู้ให้เสียงตัวละครทำงานของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม มีการกระจายบทบาทของตัวละครต่าง ๆ ทั่วถึง บทได้เปิดช่องให้ตัวละครแต่ละตัวได้แสดงเอกลักษณ์ของตนเองทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันเอาใจช่วย ส่วนที่หนังทำได้ดีมากคือการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาใช้และให้ความสำคัญ (ใครจะไปจินตนาการว่าการแด๊นซ์จะกู้โลกได้จริง ๆ) แม้แต่ตัวละครรองที่ปรากฏบนจอน้อยก็ไม่ได้ปรากฏอย่างไร้ความหมาย ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าโจรผู้ชุบเลี้ยงพระเอก (ท่าทีโหดแต่แอบอ่อนโยนกับพระเอก) หรือตัวประกอบอย่างสาวใช้ของ the collector ที่ปรากฏเพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้คนดูเห็นใจกับโชคชะตาของเธอได้ หนังเรื่องใดทำให้ผู้ชมใส่ใจทุกข์สุขของตัวละครได้ก็นับว่าปฏิบัติภารกิจลุล่วงไปเกินครึ่ง

ตัวละครเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์น่าชมมากกว่าหนังที่ปล่อยให้พระเอกมีบทบาทเด่นเพียงคนเดียว ภาพยนตร์ที่ให้ตัวเอกเพียงคนเดียวแบกหนังไว้ทั้งเรื่องต้องได้นักแสดงฝีมือถึงจริง ๆ มิเช่นนั้นแล้วมักจะพาหนังเข้ารกเข้าพงมากกว่าสร้างความบันเทิง

จุดที่แตกต่างจากหนังแนวฮีโร่เรื่องอื่น ๆ ของมาร์เวลล์มากที่สุดก็ในเรื่องของความเป็นบุคคลธรรมดาและความเป็นมวยรอง (อย่างมาก) ของฝ่ายตัวเอก

โลกในภาพยนตร์เรื่องนี้มิได้อยู่รอดด้วยเทพหน้าหล่ออย่างธอร์หรือหนุ่มใหญ่รวยทรัพย์อย่างไออ้อนแมนแต่ปลอดภัยได้ด้วยฝีมือพลเมืองชั้นสองของดวงดาวนั้นเอง

ตัวละครเอกทั้ง 5 ตัว แม้จะต่างเผ่าพันธุ์ ต่างเป้าหมาย แต่ล้วนมีจุดร่วมเป็นตัวละครที่มีบาดแผลสถานะของชีวิตกำลังอยู่ ณ จุดตกอับแพ้พ่าย ความน่าสนใจอยู่ที่ตัวละครแต่ละตัวมีทั้งด้านดีงามและด้านชั่วร้ายเห็นแก่ตัวปะปนและมีการใช้และปะทะระหว่างด้านมืดกับด้านสว่างของตัวเองทั้งในภารกิจเพื่อตัวเองและภารกิจเพื่อส่วนรวม และกระบวนการของการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นที่มีทั้งตีกันบ้างดีกันบ้างนี้เองได้ช่วยทำให้ตัวละครแต่ละตัวได้บรรลุเป้าหมายภายในซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จของเป้าหมายภายนอกด้วย

สถานการณ์ของตัวละครเอกทั้ง 5 ตัวไม่ว่าจะเป็นระดับฝีมือ กองกำลังหรือทุนรอนล้วนแล้วแต่เสียเปรียบฝ่ายหัวหน้าโจรอย่างไม่มีทางเทียบได้ (สตาร์ลอร์ดมือเปล่าต้องสู้กับโรแนนที่ครองศิลาอนันตภาพ) ความสนุกของหนังจึงมากขึ้นเพราะต้องลุ้นและคิดว่าพระเอกของเราจะเอาอะไรมาสู้เจ้าวายร้ายนี้ได้และคงจะไม่เป็นการสปอยล์หนังถ้าจะบอกว่าสุดท้ายแล้วพระเอกก็เป็นฝ่ายชนะอยู่ดี (จากหน้าหนังคงไม่มีใครไม่รู้ใช่ไหมว่าพระเอกจะชนะ?)

และวิธีที่พระเอกสามารถชนะจอมวายร้ายได้ก็ไม่ใช่อะไรซับซ้อนนอกจากการเลือกที่จะยืนอยู่ข้างผู้ที่เสียเปรียบด้วยกัน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net