ผู้บริหารฮิวแมนไรท์วอช 2 คน เดินทางไปที่อียิปต์เพื่อทำรายงานเหตุปราบผู้ชุมนุมปี 56 ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ถูกกักตัวที่สนามบินกรุงไคโรก่อนส่งตัวกลับประเทศด้วยเหตุผลเรื่อง "ความมั่นคง" ในช่วงเปลี่ยนผ่านของอียิปต์

11 ส.ค. 2557 ผู้บริหารระดับสูง 2 คนของขององค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ที่มีสำนักงานในสหรัฐอเมริกา ติดอยู่ที่สนามบินนานาชาติกรุงไคโรเป็นเวลา 12 ชั่วโมง เนื่องจากถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศอียิปต์

เคนเนธ รอธ ผู้อำนวยการบริหารของฮิวแมนไรท์วอทช์ และซาราห์ เลียห์ วิตสัน ผู้อำนวยการฝ่ายตะวันออกลางถูกกักตัวอยู่ที่สนามบินเป็นเวลา 1 คืนก่อนจะถูกส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งวิตสันระบุว่าพวกเขาถูกส่งตัวกลับด้วยข้ออ้างเรื่องความมั่นคงในช่วงเปลี่ยนผ่านของอียิปต์

อัลจาซีร่ารายงานว่ามีนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนหลายคนเดินทางไปเยือนกรุงไคโรเพื่อเผยแพร่รายงานครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์สังหารหมู่ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและอาจจะถึงหลักพัน

รอธระบุในแถลงการณ์ว่า "พวกเรามาที่อียิปต์เพื่อเผยแพร่รายงานที่สำคัญซึ่งควรได้รับความสนใจจากรัฐบาลอียิปต์ แทนที่จะปฏิเสธไม่ให้เข้าอียิปต์ ทางการอียิปต์ควรพิจารณาการรายงานผลและข้อเสนอแนะของพวกเราอย่างจริงจัง รวมถึงมีการปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์"

ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้เก็บข้อมูลรายงานเกี่ยวกับการสังหารหมู่ผู้ประท้วงที่ราบิยาในประเทศอียิปต์ โดยรอธกล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มีมากในระดับเดียวกับเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมินและเหตุการณ์สังหารหมู่ที่แอนดิจันประเทศอุซเบกิซสถาน

รายงานของฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารของอียิปต์ได้เปิดฉากยิงผู้ชุมนุมด้วยกระสุนจริงเมื่อในการชุมนุม 6 ครั้งช่วงเดือน ก.ค. ถึงเดือน ส.ค. 2556 โดยผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารที่ก่อรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,150 คน แต่ไม่มีใครถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์นี้เลยในอีก 1 ปีถัดมา

ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าพวกเขาสืบสวนเหตุสังหารหมู่ดังกล่าวเป็นเวลา 1 ปี โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์มากกว่า 200 คน ไปเยือนจุดเกิดเหตุ รวมถึงพิจารณาจากวีดิโอ จากหลักฐานทางวัตถุ และจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ทางการอียิปต์

รอธกล่าวว่าการไปเยือนอียิปต์ในครั้งนี้ของเขามีการแจ้งอย่างเป็นทางการ โดยมีการส่งจดหมายไปเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาว่าทางองค์กรจะไปเยือนเพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ทางการอียิปต์ในช่วงเดือน ส.ค. แต่ก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ

"พวกเราได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการสังหารหมู่อย่างผิดกฎหมายในกรุงไคโรให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียิปต์ไปแล้วและหวังว่าจะได้เข้าพบเพื่อหารือถึงผลการค้นหาและเสนอแนะแนวทาง แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลอียิปต์ไม่อยากเผชิญความจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ รวมถึงไม่ได้นำผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์มาดำเนินคดี" รอธกล่าว

ฮานี อับเดลลาตีฟ โฆษกกระทรวงกิจการภายในของอียิปต์กล่าวว่าเขาไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ ต่อเรื่องการกักตัวผู้บริการฮิวแมนไรท์วอทช์หรือเรื่องรายงาน แต่ก็อ้างว่าอียิปต์มีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของตัวเองในการสืบสวนเรื่องเหตุการณ์สลายการชุมนุม

กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มเตือนว่าหลังการรัฐประหารในปี 2556 อียิปต์ก็มีความถดถอยด้านสิทธิมนุษยชน ทางฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่ามีทางการได้เพิ่มการจำกัดเสรีภาพของกลุ่มประชาสังคมหลายกลุ่มในช่วงปีที่ผ่านมา โดยร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับองค์กรเอกชนจะเอื้อประโยชน์ให้รัฐและหน่วยงานความมั่นคงมีอำนาจขัดขวางกิจกรรมการรวมกลุ่มในอียิปต์ ซึ่งกลุ่มต่างๆ ในประเทศอียิปต์บอกว่ามาตรการนี้ถือเป็น "การประกาศสงครามต่อเสรีภาพในการชุมนุม"

เรียบเรียงจาก

HRW chief denied entry to Egypt, Aljazeera, 11-08-2014 http://www.aljazeera.com/news/middleeast/2014/08/hrw-chief-denied-entry-egypt-201481164157675857.html

Egypt: Human Rights Watch Delegation Refused Entry, HRW, 11-08-2014

http://www.aljazeera.com/news/middleeast/2014/08/hrw-chief-denied-entry-egypt-201481164157675857.html

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก