Skip to main content
sharethis

คลิกดูภาพขนาดใหญ่

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 ส.ค. โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ระหว่างวันที่ 17-18 ส.ค. จำนวน 1 คน

ทั้งนี้การแพร่ระบาดของโรคขณะนี้มี 4 ประเทศ คือ กินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย

แพทย์อาสาติดเชื้ออีโบลา ฟื้นตัวออกจากโรงพยาบาลแล้ว ประสิทธิภาพของเซรุ่ม ZMapp ยังไม่ได้รับการยืนยัน

สำหรับสถานการณ์เกี่ยวกับโรคอีโบลา เมื่อวานนี้ (21 ส.ค. )น.พ. เคนท์ แบรนท์เลย์ อาสาสมัครแพทย์ชาวอเมริกันที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลาจากไลบีเรีย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยก่อนหน้านี้ แนนซี ไรท์โบล ซึ่งเป็นอาสาสมัครด้านการแพทย์อีกคนที่ติดเชื้ออีโบลาได้ผ่านการตรวจเลือด พร้อมเดินทางออกจากโรงพยาบาลไปก่อนแล้วตั้งแต่วันองคารที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เคนท์ วัย 33 ปี เป็นมนุษย์คนแรกที่รับการฉีดเซรุ่ม ZMapp ซึ่งเป็นเซรุ่มสำหรับสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสอีโบลาก่อนที่จะถูกนำตัวไปรักษาต่อที่สหรัฐอเมริกา โดยเอบีซีระบุว่าเขาอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้รับการฉีดเซรุ่มดังกล่าว ขณะที่แนนซี ก็ได้รับการฉีดเซรุ่มดังกล่าวและอาการดีขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม น.พ.บรูซ ริบเนอร์ ผู้อำนวยการแผนกผู้ป่วยติดเชื้อ ของโรงพยาบาลอีมอรี ให้สัมภาษณ์ถึงประสิทธิภาพของ ZMapp ว่า เขายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าในทางทฤษฎีแล้วเซรุ่มดังกล่าวทำงานอย่างไร และมันให้ผลในทางส่งเสริมการรักษา หรือไม่มีผลอะไร หรืออาจจะส่งผลให้คนไข้ฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็นก็ได้

อาสาสมัครสาธารณสุขทั้งสองราย ติดเชื้ออีโบลาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่พวกเขาทำงานอาสาดูแลผู้ติดเชื้ออีโบลาในเมืองมอนโรเวีย ประเทศไลบีเรีย พวกเขาถูกนำตัวไปรักษาต่อที่สหรัฐอเมริกาในวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยที่จะนำตัวอาสาสมัครทางการแพทย์ทั้งสองคนเข้าประเทศ เนื่องจากกังวลเรื่องการระบาดของเชื้ออีโบลา

สาธารณสุขไทยแถลง จับตาดูอาการหญิงเดินทางกลับจากเคนยา พร้อมผู้ใกล้ชิด 13 ราย

สำหรับสถานการณ์ในไทย วานนี้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวกรณีมาตรการเฝ้าระวังโรคอีโบลา ว่า ขณะนี้มีหญิง อายุ 48 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่ประเทศไลบีเลีย ​ได้เดินทางมาจากประเทศไลบีเรีย ​วันที่ 18 ส.ค. เปลี่ยนเครื่องที่ประเทศเคนยา และ​มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 19 ส.ค.​ ในระหว่างการเดินทางมีอาการปวดหัว และมีผื่นขึ้น แต่ไม่มีไข้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชน โดยแพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่า เป็นลมพิษ จากนั้นได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ก็ยังมีความกังวล จึงได้โทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เจ้าหน้าที่จึงได้ไปรับตัวมายังสถาบันบำราศนราดูร เพื่อเฝ้าระวัง โดยแพทย์ได้ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบไข้  ซึ่งเป็นอาการบ่งชี้ของโรคอีโบลา แต่ตามมาตรฐานการเฝ้าระวัง​ จึงได้จัดให้เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างสอบสวนโรค ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยว่าป่วย

ซึ่งนอกจากติดตามอาการของหญิงรายดังกล่าว กรมควบคุมโรค ยังได้ติดตามผู้ใกล้ชิดอีก 13 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน ญาติผู้ใกล้ชิด และพนักงานในโรงแรมที่หญิงรายดังกล่าวเข้าพัก

สาธารณสุขเมียนมาร์แถลงผลเลือดชายต้องสงสัยติดเชื้อ พบเป็นมาลาเรีย ไม่ใช่อีโบลา

สำหรับผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้ออีโบลาชาวเมียนมาร์วัย วันนี้ (22 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของสหภาพเมียนมาร์แถลง ผลการตรวจเลือดของชายชาวเมียนมาร์วัย 22 ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังเชื้ออีโบลา เนื่องจากมีอาการไข้ และเดินทางกลับจากประเทศกีนี ทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นพื้นที่ระบาด โดยแวะต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พบว่าไม่มีเชื้ออีโบลา แต่เป็นไข้มาลาเรีย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net