Skip to main content
sharethis

28 ส.ค.2557 เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายศิริพัฒน์ บุญมี ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากนายดิเรกฤทธิ์ให้ฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญาต่อ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศราฯ และนายเสนาะ สุขเจริญ บรรณาธิการสำนักข่าวอิศราฯ ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวเกี่ยวกับผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายดิเรกฤทธิ์ถูกกล่าวหาว่าทำบันทึกส่วนตัวไปยังรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจรายหนึ่ง ปรากฏว่า จำเลยยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม นายดิเรกฤทธิ์จึงได้มอบหมายให้ตนยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง และขอคุ้มครองชั่วคราวมิให้จำเลยกระทำความผิดซ้ำในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จในส่วนของผลสอบสวนเกี่ยวกับนายดิเรกฤทธิ์อีก

"หลังจากที่ยื่นฟ้องอาญาไป จำเลยยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม โดยมีการออกรายการวิทยุต่างๆ และเผยแพร่ซ้ำข้อมูลเดิมที่เป็นเท็จผ่านเว็บไซต์อิศราฯ จึงได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อจำเลยทั้งสามเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท และขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวมิให้จำเลยกระทำความผิดซ้ำที่สร้างความเสียหายต่อนายดิเรกฤทธิ์อีก" นายศิริพัฒน์ ระบุ

สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่เอกสารบันทึกข้อความไม่เป็นทางการ ที่ปรากฏชื่อเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ส่งถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ขณะนั้น เพื่อขอให้สนับสนุน รอง ผกก.ป. สน.หัวหมาก ท่านหนึ่ง ขึ้นไปเป็นผู้กำกับการ (ผกก.) โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพื่อนสนิทกับหลายชายของนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด และได้ช่วยดูแลการปฏิบัติภารกิจของประธานศาลปกครองสูงสุดในหลายโอกาส จนทำให้ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปี 2556 กระทั่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ผลสอบสรุปว่า การกระทำของนายดิเรกฤทธิ์เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามจริยธรรมข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง โดยมีมูลอันควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และการกระทำดังกล่าวยังไม่อาจรับฟังได้ว่า ได้รับมอบหมายหรือรู้เห็นเป็นใจจากนายหัสวุฒิ ประธานศาลปกครองสูงสุด

โดยนายวิชัย ชื่นชมพูนุท รองประธานศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทน นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด พิจารณาผลการสอบสวนดังกล่าวแล้ว เห็นพ้องว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง จึงเห็นควรลงโทษให้ภาคทัณฑ์ แต่เนื่องจากนายดิเรกฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ถูกพักงาน นานแล้วเป็นเวลา 2 เดือน และไม่ปรากฏความเสียหายในรูปธรรมที่สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงให้งดโทษภาคทัณฑ์ แต่ยังให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์โดยให้นายดิเรกฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง พึงระมัดระวังในการรักษาชื่อเสียงภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของสำนักงานศาลปกครอง และศาลปกครอง รวมทั้งรักษาชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน ไม่ให้เสื่อมเสียง ตลอดจนไม่อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง หรือผู้อื่น โดยให้ปฏิบัติอยู่ในกรอบของจริยธรรม ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และวินัยที่กำหนดอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ

ต่อมา วันที่ 25 ส.ค. สื่อต่างๆ รายงานว่า นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง มอบหมายให้นาย ศิริพัฒน์ บุญมี ทนายความ ฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญาต่อ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักข่าวอิศรา, นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศราฯ และนายเสนาะ สุขเจริญ บรรณาธิการสำนักข่าวอิศราฯ ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 57 ในหัวข้อ "ตุลาการ" โวย สนง.ศาลปกครอง แถลงบิดเบือนผลสอบ จม.น้อยฝาก ตร. และข่าวที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ

สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นระบุด้วยว่า นายศิริพัฒน์ อ้างว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา ระบุข้อความอันเป็นเท็จและขัดกับข้อเท็จจริงในหลายจุด อาทิ ในช่วงโปรยหัวข่าวที่ระบุว่า นายดิเรกฤทธิ์ อาจถึงขั้นทำผิดวินัยร้ายแรง ทั้งที่ความเป็นจริง ผลสอบระบุว่า เป็นการกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง และให้ลงโทษเพียงการภาคทัณฑ์เท่านั้น รวมถึง เนื้อหาที่อ้างอิงถึง นายวิชัย ชื่นชมพูนุท รองประธานศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานศาลปกครองสูงสุด ก็มีข้อความอันเป็นเท็จ และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหลายจุดด้วยกัน โดยศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีดำที่ 2725/2557


ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และเว็บไซต์ข่าวอิศรา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net