แรงงานเผยไม่ได้รับการคุ้มครองตาม ก.ม.อีกเพียบ จี้รัฐบาลลงนาม ILO 87, 98

วันงานที่มีคุณค่าปีนี้ แรงงานเรียกร้องรัฐบาลตู่ให้สัตยาบันอนุสัญญา ILO 87, 98 เพิ่มสิทธิเจรจาต่อรองนายจ้าง แรงงานเผยไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอีกเพียบ แรงงานเพศที่สามยังถูกเลือกปฏิบัติ

7 ต.ค.2557 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ร่วมกันจัดกิจกรรม ‘งานที่มีคุณค่า วาระประเทศไทย’ (Decent Work: Thailand Agenda) เนื่องในวันงานที่มีคุณค่าสากล (decent work day) ซึ่งตรงกับวันที่ 7 ตุลาคมของทุกปี

นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า ปีนี้ครบหนึ่งทศวรรษวันงานที่มีคุณค่าสากล และประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 45 ประเทศสมาชิกที่ร่วมก่อตั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO ) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2462 แต่แทบจะไม่มีพัฒนาการเรื่องสิทธิของคนงานในการรวมตัวเจรจาต่อรองกับนายจ้าง และยังไม่มีความก้าวหน้าในการให้สัตยาบันในอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98 ที่ว่าด้วยสิทธิการรวมตัวเจรจาต่อรองร่วม ซึ่งถือเป็นอนุสัญญาหลักในการคุ้มครองคนงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นายชาลีกล่าวว่า การไม่ลงสัตยาบันในอนุสัญญาทั้งสองฉบับ ทำให้คนงานต้องเผชิญกับการถูกเอาเปรียบ และถูกขูดรีดจนแทบไม่มีหลักประกันใดๆ

นายชาลีกล่าวว่า การไม่ได้รับความคุ้มครองที่ดีในการเจรจาต่อรอง ทำให้การเจรจาข้อเรียกร้องกับนายจ้างต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปี และเมื่อตกลงกันได้แล้ว ยังถูกนายจ้างยังละเมิดต่อข้อตกลง ที่รุนแรงคือการที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินการใดๆ ในกรณีที่นายจ้างละเมิดกฎหมาย แต่กลับปล่อยให้เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างคนงานกับนายจ้าง นอกจากนี้ยังมีแรงงานอื่นๆ เช่น แรงงานนอกระบบ คนทำงานอิสระ และแรงงานข้ามชาติที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครอง และไม่สามารถเข้าถึงสิทธิต่างๆ

ประธาน คสรท.กล่าวว่า ทุกวันนี้สถานการณ์การแก้ปัญหากลับไปที่จุดเริ่มต้นเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งกระบวนการนายหน้า การหาประโยชน์จากแรงงานข้ามชาติ และการค้ามนุษย์ จนนานาชาติส่งสัญญาณที่ไม่ดีต่อสถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานของไทย

ประธาน คสรท.กล่าวด้วยว่า รัฐบาลควรเร่งทบทวนมาตรการต่างๆ เพื่อให้คนงานเข้าถึงหลักการ ‘งานที่มีคุณค่า’ และต้องมีหลักประกันให้คนงานสามารถเข้าถึงหลักการงานที่มีคุณค่าได้จริง โดยเฉพาะการเสริมสร้างอำนาจการต่อรองให้กับคนงาน การมีสิทธิในการรวมตัวจัดตั้งองค์กร ซึ่งน่าจะเป็นหนทางเดียวที่ทำให้สถานการณ์ละเมิดสิทธิแรงงานของไทยดีขึ้น และได้รับการยอมรับในเวทีโลก สำหรับข้อเสนอในวันครบรอบหนึ่งทศวรรษงานที่มีคุณค่าสากลในปีนี้ เสนอให้รัฐบาลเร่งรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98

น.ส.ธนพร วิจันทร์ ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี กล่าวว่า การจัดงานวันนี้อาจต้องเรียกร้องให้ผู้ใช้แรงงานหาวิธีผลักดันให้รัฐบาลชุดนี้ให้สัตยาบันในอนุสัญญา ILO ทั้งสองฉบับ แม้รัฐบาลจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ขบวนการแรงงานก็ควรต้องขับเคลื่อนเพื่อทวงถาม

ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี กล่าวว่า หรือว่าขบวนการแรงงานจะเป็นเด็กดีภายใต้รัฐบาลชุดนี้ และจะหวังกับรัฐบาลชุดนี้อย่างไรในขณะที่เครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มอื่นๆ ต่างออกมาขับเคลื่อนเพราะไม่ไว้ใจว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาได้ด้วยการปฏิรูป ซึ่งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สวัสดิการและสิทธิต่างๆ ของแรงงานล้วนได้มาจากการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น

น.ส.ดาวเรือง ชานก กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ กล่าวว่าการจ้างงานในระบบอุตสาหกรรมสิ่งทอตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นกลุ่มแรงงานที่มีค่าจ้างต่ำ สวัสดิการน้อย เนื่องจากถูกมองว่าเป็นแรงงานไร้ฝีมือ ไม่ว่าจะทำงานกี่ปีก็ยังได้เพียงค่าจ้างขั้นต่ำ หากต้องการปรับขึ้นค่าจ้างต้องรวมตัวกันเรียกร้อง และจากการรับเรื่องราวร้องทุกที่ผ่านมา มีแรงงานส่วนหนึ่งได้ค่าจ้างต่ำกว่ากฎหมายกำหนด แต่ไม่กล้าเรียกร้อง เพราะกลัวตกงาน จึงยอมให้นายจ้างละเมิดสิทธิและเอาเปรียบ  ในกรณีถูกเลิกจ้าง นายจ้างจะต่อรองเพื่อจ่ายค่าชดเชยต่ำกว่ากฎหมาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะแรงงานไร้อำนาจในการต่อรอง และองค์กรของรัฐก็มักไกล่เกลี่ยให้คนงานรับค่าชดเชยที่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด

นายไพฑูรย์ บางหลง ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก กล่าวว่าการละเมิดสิทธิแรงงานนั้นเกิดขึ้นเพราะกฎหมายแรงงานอ่อนแอ ขาดการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง สถานการณ์การต่อสู้เรียกร้องของแรงงานในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่สามารถจบลงได้บนโต๊ะเจรจา แต่มักเกิดการพิพาทแรงงาน คนงานถูกปิดงาน และถูกเลิกจ้าง การชุมนุมของแรงงานก็มักถูกคุกคาม และถูกเจ้าหน้าที่รัฐส่วนกลางและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกดดัน การที่กฎหมายแรงงานให้สิทธิการยื่นข้อเรียกร้องทั้ง 2 ฝ่าย คือ สหภาพแรงงานยื่นต่อนายจ้าง และนายจ้างยื่นต่อสหภาพแรงงาน ก็อยู่ภายใต้อำนาจต่อรองที่ไม่เท่าเทียมกัน และเมื่อเกิดข้อพิพาท การไกล่เกลี่ยโดยรัฐมักจบลงด้วยการที่ลูกจ้างเสียเปรียบ และตามมาด้วยการขออำนาจศาลให้เลิกจ้าง บางแห่งคนงานถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อไปแจ้งตำรวจในท้องที่การดำเนินคดีก็มักไม่คืบหน้า

องจู ตัวแทนแรงงานข้ามชาติจากเมียนมาร์ เล่าว่า ไม่มีความเท่าเทียมทางกฎหมายในการคุ้มครองการจ้างงานของแรงงานข้ามชาติ แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน แต่ แรงงานข้ามชาติที่ อ.แม่สอดยังได้ค่าจ้างเพียง 120 บาทต่อวัน แรงงานใน จ.สมุทรสาครได้ค่าจ้าง 250 บาทต่อวัน เพราะถูกบริษัทซับคอนแทรกหักเงินเอาไว้ส่วนหนึ่งไว้ ส่วนที่รัฐมักอ้างว่าเป็นเพราะแรงงานข้ามชาติเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมาย จึงทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครอง  ซึ่งแรงงานข้ามชาติอยากทำงานอย่างถูกกฎหมายทุกคนและอยากได้ค่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงได้รับสวัสดิการ  มีสิทธิในการรวมตัวเช่นเดียวกับแรงงานไทย

ตัวแทนแรงงานข้ามชาติจากเมียนมาร์ กล่าวว่า ควรทำให้แรงงานข้ามชาติที่ไม่ถูกกฎหมาย ถูกกฎหมายด้วยการขึ้นทะเบียน เพราะทุกคนอยากได้รับการคุ้มครองในเรื่องประกันสังคม เนื่องจากเงินค่าจ้างได้มาไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลในเวลาเจ็บป่วย

นายวันชัย ม่วงดี แรงงานซับคอนแทรคในกิจการยานยนต์ กล่าวว่า รู้สึกแย่มากที่ในฐานะของคนที่ทำงานเหมือนๆ กันกับลูกจ้างประจำ แต่ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการแตกต่างกัน บางครั้งถูกก็ย้ายไปทำงานในที่ห่างไกลจากที่พักและเพื่อนร่วมงาน เมื่อถูกเลิกจ้างก็ได้ค่าชดเชยเพียงร้อยละ 15 ของสิทธิตามกฎหมาย การรวมตัวเป็นสหภาพแรงงานก็ทำได้ยากเพราะจะถูกนายจ้างย้ายงานตลอด เหมือนเป็ดไล่ทุ่งที่ถูกย้ายไปเรื่อยๆ ซึ่งนายวันชัยกล่าวว่า แรงงานซับคอนแทรคไม่ใช่เป็ด จึงอยากมีสิทธิที่เสมอภาคเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง

นายธนกร สมสิน ประธานสหภาพแรงงานมิชลินประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงที่สหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง การเจรจาต่อรองส่วนใหญ่เป็นการต่อรองเรื่องระยะเวลาของการทำสัญญาจ้าง โดยไม่ได้มีการพูดถึงการปรับสภาพการจ้างใหม่ จนทำให้เกิดการพิพาทแรงงาน การปิดงาน การชุมนุม และการชุมนุมของสหภาพแรงงานไม่สามารถใช้พื้นที่ของบริษัทหรือบริเวณฟุตบาตด้านข้างบริษัทได้ ต้องชุมนุมบนพื้นผิวจราจรซึ่งกระทบกับการคมนาคมบนถนนของนิคมอุตสาหกรรมและไม่ปลอดภัยต่อคนงานที่ชุมนุม นอกจากนี้ ยังมีการข่มขู่โดยการยิงปืนใส่รถยนต์หรือตามไปยิงตัวแทนคนงานถึงบ้าน แม้วันนี้จะกลับเข้าทำงานแล้ว แต่ก็ยังมีการย้ายงาน และคนงานที่กลับเข้าทำงานยังมีความอึดอัดในการทำงานอยู่บ้าง

น.ส.ธนัญภรณ์ บรมสม ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เล่าว่า ปัญหาการเลิกจ้างสหภาพแรงงานหลังการเจรจาข้อตกลง แม้ว่าจะร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ( ครส.) ว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แต่ ครส.มองว่าการที่นายจ้างจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและรับคนงานกลับเข้าทำงาน เป็นความเมตตาและเป็นบุญคุณกับคนงาน ครส.ไม่ได้มองว่าการที่นายจ้างเลิกจ้างเฉพาะสมาชิกสหภาพแรงงาน และการรับกลับเข้าทำงานนั้นเป็นการจ้างงานแบบสัญญาจ้างปีต่อปี ส่งผลให้ไม่มีความมั่นคงในชีวิตการงานและได้รับเพียงค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของครอบครัว การที่แรงงานไม่กล้าสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน เพราะกลัวนายจ้างจะไม่ต่อสัญญาจ้าง สหภาพแรงงานที่เคยเข้มแข็งเมื่อสมาชิกลดน้อยลงก็ส่งผลต่อการทำงานสหภาพไปด้วย ขณะนี้กลุ่มลูกจ้างที่กลับเข้ามาทำงานได้เพียงค่าจ้างวันละ 300 บาท ต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อให้ได้รับค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเพราะภาระหนี้สิน  นอกจากนี้ การตกงานยังส่งผลกับลูกที่กำลังเรียนหนังสือด้วย เพราะฉะนั้น จึงต้องยอมรับสภาพการจ้างที่แย่กว่าเดิม ยอมให้นายจ้างเอาเปรียบมากขึ้น

วณิช พิพัฒน์จักราภรณ์  ตัวแทนแรงงานนอกระบบ เล่าว่า แรงงานมักถูกมองข้ามในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ ในส่วนของเพศวิถีในระบบการจ้างงานยังมีเพียงเพศหญิงและชาย ส่วนเพศที่สามต้องไปทำงานอิสระ เป็นงานแรงงานนอกระบบ ทำงานในร้านเสริมสวย ไม่มีสวัสดิการ หรือได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย การรวมตัวเป็นไปได้ยาก และเป็นแรงงานราคาถูก ส่วนการเข้าไปทำงานในระบบก็จะถูกกีดกัน ไม่มีความก้าวหน้าเนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับเพศที่สาม ฉะนั้น การมองเรื่องความเท่าเทียมด้านสิทธิและสวัสดิการ ต้องคำนึงถึงคนเพศที่สามด้วย

วณิช กล่าวถึงกรณีการตรวจเชื้อเอชไอวีในการทำงานว่า แม้กฎหมายจะห้ามไม่ให้ตรวจแต่คนทำงานที่เป็นเพศที่สามยังคงถูกบังคับให้ตรวจ ซึ่งเป็นแรงกดทับทางเพศ และถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม จึงอยากเสนอให้สังคมมองและยอมรับเพศที่สาม ด้วยโอกาสการทำงานและความมั่นคงก้าวหน้าในหน้าที่การงานโดยไม่เลือกปฏิบัติ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท