ชาวสหรัฐฯ นัดประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีตำรวจสังหารวัยรุ่นชาวผิวสี แต่ก่อนหน้าการประท้วงไม่นานเกิดเหตุการณ์คล้ายกรณีบราวน์อีกครั้งทำให้อุณหภูมิการประท้วงเพิ่มสูงขึ้นจนมีเหตุปะทะกันในช่วงคืนวันศุกร์ แต่หลังจากนั้นในวันเสาร์ การประท้วงก็เป็นไปอย่างสงบ

11 ต.ค. 2557 ประชาชนนัดรวมตัวกันหน้าสถานีตำรวจในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา เพื่อประท้วงการใช้ความรุนแรงของตำรวจในกรณีของวัยรุ่นคนผิวสีชื่อไมเคิล บราวน์ รวมถึงกรณีคล้ายกันล่าสุดที่เพิ่มเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา

สำนักข่าวอัลจาซีราระบุว่ามีประชาชนราว 300 คนในเมืองเฟอร์กูสันเมื่อช่วงวันเสาร์ ยืนประท้วงอยู่กลางถนนพร้อมตะโกนวลีเช่น "เราเอามือไว้บนศีรษะแล้ว โปรดอย่ายิงเราตาย" โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบราว 30 นาย ยืนเฝ้าหน้าสถานีซึ่งการประท้วงในวันเสาร์ไม่มีเหตุการณ์ปะทะใดๆ เกิดขึ้น ทางด้านเดอะ การ์เดียนระบุจำนวนผู้ประท้วงโดยรวมว่ามีอยู่หลายพันคน

องค์กรด้านสิทธิพลเมืองและองค์กรอื่นๆ ได้เชิญชวนให้คนจากทั่วสหรัฐฯ เข้าร่วมการเดินขบวนและการจุดเทียนรำลึกเหตุการณ์ไมเคิล บราวน์ ตั้งแต่วันที่ 10-13 ต.ค. โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคนผิวขาวเปิดฉากยิงใส่บราวน์ วัยรุ่นผิวสีอายุ 17 ปีที่ไม่มีอาวุธ ทางด้านพ่อแม่ของบราวน์ขอร้องให้ผู้ประท้วงในวันศุกร์ดำเนินการชุมนุมอย่างสันติ

"พวกเราเข้าใจว่าประชาชนทุกภาคส่วนของสังคมรู้สึกไร้อำนาจและไม่พอใจต่อสิ่งที่เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายปฏิบัติต่อพวกเขา ...พวกเราขอให้ผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมสนับสนุนลูกชายของพวกเราชุมนุมอยู่ใต้กรอบกฎหมาย" พ่อแม่ของบราวน์กล่าว

อย่างไรก็ตามมีเหตุการณ์ที่ลักษณะคล้ายกับกรณีของไมเคิล บราวน์ เกิดขึ้นอีกครั้งในรัฐมิสซูรีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 ต.ค.) เมื่อชายผิวสีที่ชื่อเวนเดอร์ริต ดี ไมเออร์ส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสังหาร จนทำให้เกิดความไม่พอใจจากนักกิจกรรมและนักการเมืองบางคนที่คิดว่าไมเออร์สตกเป็นเป้าเพราะเขาเป็นคนผิวสี โดยพวกเขายังได้เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ สืบสวนในเรื่องนี้

ในกรณีของไมเออร์ส ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าไมเออร์สผู้ซึ่งมีอาวุธและมีท่าทีก้าวร้าวได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนด้วยอาวุธปืน 9 มม. ที่ขโมยมา แต่ฝ่ายพ่อแม่ของไมเออร์สกล่าวว่า ไมเออร์สไม่มีอาวุธ และสิ่งที่ไมเออร์สถืออยู่ในมือเป็นแซนด์วิชไม่ใช่ปืน อีกทั้งข้อมูลคดีระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงไมเออร์สถึง 17 นัด

สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานว่า จากเหตุการณ์สังหารไมเออร์ ทำให้มีประชาชนราวหลายร้อยคนออกมาประท้วงในช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. ในเซนต์หลุยส์ ซึ่งบางคนบอกว่าแม้ไมเออร์จะมีอาวุธหรือไม่ก็ตามแต่การใช้กำลังของเจ้าหน้าที่คือการยิง 17 นัด ถือเป็นเรื่องที่ถูกตั้งคำถาม นอกจากนี้ผู้ประท้วงบางรายยังมองว่ากรณีของไมเออร์สสะท้อนประเด็นเรื่องเหมารวมทางเชื้อชาติโดยมองคนผิวสีเป็นคนอันตรายและใช้เป็นข้ออ้างในการสังหาร

ในการประท้วงช่วงกลางคืนของวันที่ 10 ต.ค. มีการปะทะกันเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มยิงสเปรย์พริกไทยเข้าใส่ผู้ชุมนุมในเซนต์หลุยส์ ผู้ประท้วงบางส่วนยังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิมพร้อมตะโกนร่วมกันว่า "นี่ถนนของใคร ถนนของพวกเรา" มีบางส่วนยืนตะโกนด่าตำรวจปราบจลาจลซึ่งยืนอยู่ในระยะใกล้กัน ฝ่ายตำรวจระบุว่ามีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากช่วงที่มีการปะทะโดยถูกก้อนอิฐขว้างใส่แขน มีประชาชนบางส่วนทุบกระจกอาคารและรถตำรวจ มีผู้ถูกจับกุมจากเหตุการณ์นี้ 8 คน

อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์ของไมเออร์สจะทำให้การประท้วงในเซนต์หลุยส์ดุเดือดขึ้นแต่การประท้วงที่ชื่อ "สุดสัปดาห์แห่งการต่อสู้ขัดขืน" ในครั้งนี้จะเน้นกรณีของบราวน์เป็นหลัก และมีวัตถุประสงต์เพื่อเรียกร้องกดดันให้เกิดความเป็นธรรมในกรณีนี้ แม้ว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นไปอย่างเชื่องช้าและมีท่าทีว่าจะยกฟ้องเพราะอ้างหลักฐานไม่พอเอาผิด

กรณีของบราวน์ทำให้เกิดความสนใจในเรื่องการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจในสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะต่อคนผิวสี สำนักข่าวโปรพับลิการายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า คนผิวสีมีโอกาสถูกตำรวจยิงมากกว่าคนผิวขาว 21 เท่า

เรียบเรียงจาก

Thousands to gather in Ferguson for 'weekend of resistance', The Guardian, 10-01-2014
http://www.theguardian.com/us-news/2014/oct/10/ferguson-weekend-resistance-michael-brown-vonderrit-myers

Fresh protests in US over police violence, Aljazeera, 11-10-2014
http://www.aljazeera.com/news/americas/2014/10/fresh-protests-us-over-police-violence-201410115150137460.html

US police shooting reignites racial anger, Aljazeera, 10-10-2014
http://www.aljazeera.com/news/americas/2014/10/us-police-shooting-reignites-racial-anger-201410101254123538.html