หลุดเอกสาร 'ลับมาก' ชงแก้ พ.ร.บ.กสทช. ยุบบอร์ด กทค.-กสท.

กสทช. หลุดเอกสาร "ลับมาก" เนื้อหาชงแก้ กม.กสทช. ยุบบอร์ด กทค.-กสท. ให้อำนาจเต็มบอร์ดใหญ่ แจงเกิดปัญหากรณีบอร์ดใหญ่ไม่ได้ตัดสินใจแต่ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย คาดส่งเรื่องต่อ ครม.และ สนช.เร็วๆ นี้ ด้านสุภิญญาทวีต ไม่รู้เรื่องด้วย ชี้ควรขอมติบอร์ด กสทช.ก่อนเสนอ

22 ต.ค.2557 เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เวลาราว 21.00 น. ทวิตเตอร์ @TakornNBTC ของ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการเผยแพร่ภาพถ่ายรายละเอียดภายใน "เอกสารลับมาก" ของ กสทช. โดยมีเนื้อหาระบุว่า ความเห็นชอบจากประธาน กสทช.เห็นควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ด้วยการปรับปรุงโครงสร้าง กสทช.เป็นการเร่งด่วน และเสนอให้มีคณะกรรมการเพียงคณะเดียว เพื่อทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้เกิดเอกภาพ ส่งเสริมการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นธรรม สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและธุรกิจที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจฐานดิจิตอล (ดิจิตอลอีโคโนมี) และรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ต่อมา เวลา 12.30 น. นายฐากรได้ลบภาพดังกล่าวออก และมีการให้สัมภาษณ์สื่อยืนยันว่า ไม่ได้ดำเนินการเผยแพร่รูปภาพดังกล่าว แต่ยอมรับว่ารูปภาพดังกล่าวได้ถ่ายไว้จริงในไอแพดส่วนตัว และไม่ได้ส่งให้แก่ใคร กำลังตรวจสอบที่มาของการเผยแพร่รูปภาพ แต่ยอมรับว่าหนังสือฉบับดังกล่าวที่เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการขอยุบบอร์ด กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และ กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ให้เหลือเพียงบอร์ด กสทช. เป็นบอร์ดเดียวเป็นเรื่องจริง

ด้านเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสำนักงาน กสทช. ว่า สาเหตุที่ต้องปรับโครงสร้างใหม่ เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 35 ให้ กสทช.แต่งตั้งคณะกรรมการชุดเล็ก 2 ชุด คือ กทค. และ กสท. เพื่อให้มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงตัดสินใจได้ทันทีโดยไม่ต้องส่งเรื่องเข้าที่ประชุม กสทช. ทำให้ที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่การตัดสินใจของกรรมการชุดเล็กมีปัญหา ขณะที่คณะกรรมการ กสทช.ไม่สามารถเข้าไปร่วมตัดสินใจได้ แต่เมื่อเกิดการฟ้องร้อง กสทช.ทั้งหมดกลับต้องรับผิดชอบด้วย

แหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า ดังนั้นสำนักงาน กสทช.จึงตัดสินใจลดอำนาจหน้าที่ของกรรมการทั้ง 2 ชุดดังกล่าว ด้วยการตัดมาตรา 35 ออก เพื่อไม่ให้มีกรรมการชุดเล็ก และให้อำนาจการตัดสินใจของทุกเรื่องอยู่ที่กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่แทน ส่วนการดำเนินงาน ก็อาศัยการตั้งคณะอนุกรรมการดูรายละเอียดในเรื่องต่างๆ แทน ก่อนจะส่งเรื่องให้กรรมการ กสทช.พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานได้หารือกับกฤษฎีกาอย่างต่อเนื่องจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการแก้กฎหมายดังกล่าว จากนี้จะดำเนินการนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ สภานิติบัญญัติ (สนช.) คาดว่าจะเรียบร้อยภายในเร็วๆ นี้
           
แหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า การแก้กฎหมายนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เพราะที่ผ่านมา กสทช.มีปัญหาในการบริหารงานหลายเรื่อง ถ้าไม่แก้ กสทช.อาจจะถูกยุบได้ อีกอย่างคือรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะออกมา ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะกำหนดบทบาทของ กสทช.ไว้อย่างไร จะยังให้เป็นองค์กรอิสระหรือไม่ หรือจะให้ไปอยู่ภายใต้หน่วยงานใด จึงไม่รู้ว่ากสทช.จะถูกจัดระเบียบอย่างไร ถึงตอนนั้นอาจจะต้องมีการแก้กฎหมายอีกครั้งหนึ่ง

ด้านกรุงเทพธุรกิจอ้างแหล่งข่าวจาก กสทช. ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ กสทช. นำส่งยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเบื้องต้นนายฐากร ได้หารือกับ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. และ กสทช. บางรายแล้ว ซึ่งกว่าครึ่งได้เห็นชอบ
      
ขณะที่ สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ @supinya ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องข้อเสนอยุบรวมบอร์ดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากสำนักงานและประธานจะเสนอแก้ พ.ร.บ.กสทช.ก็ไม่ว่าอะไร แต่ประธานและสำนักงานควรทำวาระหารือกรรมการทั้ง 10 คนว่าคิดเห็นอย่างไรด้วย อีกทั้งตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 27 (23) ระบุอำนาจของบอร์ด กสทช.ในการเสนอแก้ไขกฏหมาย ไม่ใช่อำนาจของประธาน กสทช.โดยลำพัง

"ไม่ได้ค้านเรื่องการแก้กฏหมาย ถ้าคนนอกจะยุบจะแก้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนในจะเสนอแก้เอง ขอเพียงให้หารือมติบอร์ด กสทช.ด้วย จะได้เสนอความเห็น" สุภิญญาระบุ


ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจ และ ทวิตเตอร์ @supinya

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท