Skip to main content
sharethis

23 ต.ค. 2557 ฝ่ายบริหารของบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงกรณีที่สหภาพแรงงานไทยอินดัสเตรียลแก๊ส ออกมาคัดค้านการเปลี่ยนข้อบังคับในการทำงานของบริษัทฯ หลังองค์กรแรงงานเรียกร้องให้มีการเจรจาพูดคุยกัน

โดยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2557 ที่ผ่านมาฝ่ายบริหารของบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงกรณีที่สหภาพแรงงานไทยอินดัสเตรียลแก๊ส ออกมาคัดค้านการเปลี่ยนข้อบังคับในการทำงานของบริษัทฯ ดังนี้

ตามทีท่านได้มีหนังสือที่ สร. ทีไอจี 077/2557 ถึงบริษัทฯ เพื่อคัดค้านระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทฯ ฉบับลงวันที่ 1 ตุลาคม 2557 นั้นบริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่าระเบียบข้อบังคับฉบับดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงสภาพการจ้างงานฉบับปัจจุบัน และเป็นคุณแก่ลูกจ้างมากกว่าฉบับเดิม โดยระเบียบข้อบังคับฉบับใหม่ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2557เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบข้อบังคับเดิม ฉบับลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ดังนี้

1. แก้ไขเพิ่มเติมวันหยุดพักผ่อนประจำปีสำหรับพนักงานให้สอดคล้องกับข้อตกลงสภาพการจ้างระหว่างบริษัทฯ กับสหภาพแรงงานฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2557 ทีผ่านมา

2. แก้ไขเพิ่มเติมให้มีความเป็นคุณแก่พนักงานมากขึ้น โดยให้สิทธิพนักงานจัดส่งสินค้าของบริษัทฯ สามารถมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุด จากเดิมที่ไม่มีสิทธิได้รับเนื่องจากพนักงานได้รับเงินชดเชยในลักษณะอื่นแทนการรับเงินล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุด เช่น โบนัสท่อ และค่าเที่ยวการขนส่ง เป็นต้น

ซึ่งยึดถือปฏิบัติกันมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปี โดยปรากฏหลักฐานชัดเจนนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา ตามที่ปรากฏในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการทำงานของบริษัทฯ ฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2542 ที่ระบุชัดเจนว่า พนักงานกลุ่มดังกล่าวไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดดังกล่าว จนกระทั้งนี้ เมือวันที่ 1 กันยายน 2556 ทีผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดแก่พนักงานขับรถขนส่งแก๊สของบริษัทฯ ในอัตรา 1 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมงการทำงานปกติตามกฎหมายแรงงาน ส่งผลให้พนักงานจัดส่งสินค้าสามารถได้รับค่าล่วงเวลาเพิ่มเติมจากเดิมทีมีสิทธิได้รับเฉพาะโบนัสค่าท่อและค่าเทียวขนส่งเท่านั้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ทำการปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับฯ ให้สอดคล้องกับการจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานจัดส่งดังกล่าว

อนึ่ง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุด ดังกล่าว บริษัทถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 12 ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ปี พ.ศ. 2541 แห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้ “ในกรณีทีนายจ้างให้ลูกจ้างในงานขนส่งทางบกทำงานล่วงเวลา ในวันทำงานและทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ให้นายจ้างจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่ว โมงในวันทำงานตามจำนวนชั่ว โมงทีทำ”

ทั้งนี้ในกรณีที่พนักงานจัดส่งได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติงานสำนักงานนอกเหนือจากงานขนส่งสินค้าหรือมาเข้ารับการฝึกอบรมสัมมนาที่บริษัทฯ จัดขึ้น ก็จะได้รับค่าล่วงเวลาหรือค่าทำงานในวันหยุดในอัตราเดียวกันกับพนักงานระดับปฏิบัติการในส่วนงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดและตามระเบียบบริษัทฯ ซึ่งมิได้เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างเดิมแต่อย่างใด

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ระเบียบข้อบังคับดังกล่าวไม่ได้ขัดหรือแย้งกับแนวปฏิบัติขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ตลอดจน ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติหรือ UN Global Compact แต่อย่างใด

บริษัทฯ จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านโปรดเข้าใจตรงกันว่าระเบียบข้อบังคับฉบับ 1 ตุลาคม 2557 จัดทำขึ้นเพียงเพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 30 เมษายน 2557 และการจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับพนักงานจัดส่งสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจ้างปัจจุบันและ กฎกระทรวงฉบับที่ 12 ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ปี พ.ศ. 2541 แห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่ง เป็นคุณแก่ลูกจ้างมากกว่าระเบียบข้อบังคับฉบับเดิม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากสหภาพแรงงานเพื่อสร้างสรรค์ระบบแรงงานสัมพันธ์ทีดีต่อไป

 

องค์กรแรงงานเรียกร้องให้มีการเจรจาพูดคุยกัน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2557 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และสหภาพแรงงานในกลุ่มพลังงานในประเทศไทยซึ่งเป็นพันธมิตรเครือข่ายแรงงานกับสหภาพแรงงานไทยอินดัสเตรียลแก๊ส ได้ออกมาระบุว่าจากการที่ได้รับทราบปัญหาที่มีสาเหตุจากการที่นายจ้างไม่มีการปรึกษาหารือร่วมกับสหภาพแรงงานไทยอินดัสเตรียลแก๊ส ก่อนประกาศลดสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิมนั้น จึงมีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุที่เข้าใจบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และกลุ่ม ปตท. น่าจะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจต่อกัน ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงจำเป็นต้องเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของบริษัทลินเด้ทบทวนในเรื่องการจัดเวทีประชุมหารือกับสหภาพแรงงานโดยเร็ว

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่าสืบเนื่องจากได้มีการรวมกลุ่มผู้นำสหภาพแรงงานในสาขาพลังงานในประเทศไทย ทั้งแรงงานภาครัฐวิสาหกิจและแรงงานภาคเอกชน เพื่อการรณรงค์และส่งเสริมระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดีในสถานประกอบการต้นสังกัดของแต่ละสหภาพแรงงาน ด้วยเชื่อว่าระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี และการส่งเสริมให้ทุกฝ่ายมีทัศนคติที่ดีต่อกัน ให้เกียรติกัน มีความเข้าใจในสิทธิหน้าที่ทั้งด้านผู้ใช้แรงงาน และ สิทธิการบริหาร อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะลดปัญหาความขัดแย้ง นำไปสู่การพัฒนาองค์กรและประเทศอย่างยั่งยืน การให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือในการเคารพสิทธิแรงงานของฝ่ายบริหารต้นสังกัดของแต่ละสหภาพแรงงาน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นยิ่ง ด้วยจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับองค์กรธุรกิจด้านพลังงานของภูมิภาคอาเซียนและในระดับโลก

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่าสำหรับความขัดแย้งที่เราได้รับทราบว่ามีสาเหตุจากการละเลยหรือไม่ยินดีที่จะปรึกษาหารือร่วมกับสหภาพแรงงานก่อนประกาศต่อสาธารณะเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพการจ้างนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น ด้วยการไม่เคารพในสิทธิแรงงาน เป็นเรื่องที่ ไม่ควรเกิดขึ้นกับ บริษัทข้ามชาติที่อยู่ภายใต้แนวปฏิบัติขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และ ภายใต้ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบทางสังคมของบริษัท (CSR) อย่างบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ด้วยที่ผ่านมาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่าเคยได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Social Dialog ที่ฝ่ายบริหารของบริษัทให้การสนับสนุนจัดขึ้น และทราบว่า ผู้แทนฝ่ายบริหารที่มาร่วมงาน มีความเข้าใจเรื่องของสิทธิแรงงานเป็นอย่างดี จึงน่าแปลกใจที่เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นอีก

แต่จากการเรียกร้องของสหภาพแรงงาน ได้ทราบว่า บริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้นัดหมายกับสหภาพแรงงาน ต้นเดือน พฤศจิกายน 2557 แล้ว หากทางบริษัทจะได้มีการดำเนินการที่มุ่งเน้นส่งเสริมระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี โดยเร่งทบทวนวิธีการดำเนินงานที่แสดงถึงการเคารพสิทธิแรงงานตามหลักการสากล และคำนึงถึงแนวปฏิบัติขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และ ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) อย่างเป็นรูปธรรม ย่อมจะช่วยยุติความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต

ด้วยประสงค์ให้ฝ่ายบริหารบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และสหภาพแรงงานไทยอินดัสเตรียลแก๊สได้มีโอกาสสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ได้หารือกันด้วยเหตุด้วยผล จึงขอวิงวอนให้ท่านได้โปรดพิจารณาหาทางลดความขัดแย้ง และยุติปัญหา ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ผลสรุปที่เกิดประโยชน์โดยรวม โดยเฉพาะกรณีการปรับปรุงและ เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และค่าตอบแทนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ในโอกาสต่อๆไป ทั้งนี้ สร.ปตท. ขอขอบคุณ ในความกรุณาและความเข้าใจในเจตนาดีของพวกเรา มา ณ โอกาสนี้

อนึ่งปัจจุบัน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่สาขาพลังงานของ IndustriALL Global Union ซึ่งเป็นสหพันธ์แรงงานระหว่างประเทศ ที่เกิดจากการควบรวมของ สหพันธ์แรงงานระหว่างประเทศ 3 แห่ง คือ สหพันธ์แรงงานโลหะระหว่างประเทศ (IMF) สหพันธ์แรงงานสิ่งทอตัดเย็บเสื้อผ้าระหว่างประเทศ (ITGLWF) และ สหพันธ์แรงงานเคมีภัณฑ์พลังงานและเหมืองแร่ระหว่างประเทศ (ICEM) ที่ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 50 ล้านคน จากสมาชิกประมาณ 140 ประเทศ ให้ทำหน้าที่ Co-Chair ในสาขาพลังงาน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net