11 พ.ย.2557 สมาคมพัฒนาทวาย (Dawei Development Association - DDA) เรียกร้องรัฐบาลไทยและเมียนมาร์แสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชนจากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยการเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้น 1 วันก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 25 ที่กรุงเนปิดอว์ ในระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายนนี้

สมาคมพัฒนาทวาย (DDA) เรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเพื่อเป็นหลักประกันถึงความโปร่งใส และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและเมียนมาร์ แสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ โดยระบุว่า การดำเนินโครงการที่ผ่านมาได้ก่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจำนวนมาก เช่น การโยกย้ายชาวบ้าน การยึดที่ดิน การจ่ายเงินชดเชยที่ไม่เป็นธรรม  การไม่ชดเชยให้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับที่ดินทำกินและป่าไม้  และผลกระทบอื่นๆ ต่อสังคมและเศรษฐกิจของชุมชน  โดยยังไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น 

ก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สมาคมพัฒนาทวายและตัวแทนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย ถึงผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม และได้นำเสนอรายงาน "เสียงจากชุมชน: ข้อกังวลเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและโครงการที่เกี่ยวข้อง"  เนื้อหาในรายงานระบุว่า มีหมู่บ้าน 20 ถึง 36 แห่ง (ประมาณ 4,384 ถึง 7,807 ครัวเรือน หรือ 22,000 ถึง 43,000 คน) ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและโครงการที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ ถนนเชื่อมต่อ อ่างเก็บน้ำ และพื้นที่รองรับชาวบ้านที่จะถูกอพยพโยกย้าย  โดยขณะนี้โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย

มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ชุมชนท้องถิ่นในทวายกำลังกังวลกับกระแสข่าวว่า บริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทยจะได้รับสัมปทานใหม่อีกครั้งหนึ่งเป็นระยะเวลานานถึง 75 ปี

ตัน ซิน ผู้ประสานงานสมาคมพัฒนาทวายกล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้ต่อต้านโครงการ แต่กำลังเรียกร้องความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ในการจัดการกับความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นจากโครงการในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา