สภาพัฒน์ปรับลดการส่งออกปีนี้เหลือ 0% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2% ผลมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง ทั้งสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น รวมไปถึงยุโรป ด้านมูลค่าการนำเข้าคาดว่าจะติดลบ 6.5%

17 พ.ย.2557 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สภาพัฒน์ปรับลดการส่งออกปีนี้เหลือ 0% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง ทั้งสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น รวมไปถึงยุโรป ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรยังคงมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลกับการขยายตัวของภาคการส่งออกในปีนี้ที่จะทำให้เติบโตได้เพียง 0% เท่านั้น

นอกจากนี้ ภาคการส่งออกยังมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายเศรษฐกิจ และต้นทุนการผลิตในประเทศที่สำคัญ ที่จะส่งผลต่อภาคการส่งออกเดียว

"เราจะต้องเร่งพัฒนาการส่งออกให้กลับมาขยายตัวได้ มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างแน่นอน เนื่องจากการส่งออกมีมากถึง 70% ต่อจีดีพี" นายอาคม กล่าว

สำหรับมูลค่าการนำเข้าคาดว่าจะติดลบ 6.5% จากเดิมที่คาดจะติดลบที่ 4.9% สำหรับสาเหตุที่การนำเข้ามีการหดตัวช้าลงเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศเริ่มกลับมาขยายตัวได้ และตามแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของอุตสาหกรรมการส่งออก

นายอาคม แถลงด้วยว่า ตัวเลขจริงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ว่าขยายตัวอยู่ที่ 0.6% เทียบกับไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 0.4% ส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนของปี 57 เฉลี่ยอยู่ที่ 0.2% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ขยายตัวถึง 2.2% เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ขยายตัวเพียง 0.2% บวกกับการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างชัดเจน อยู่ที่ 3.9% จากเดิมติดลบ 7% อีกทั้งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจีดีพีที่ประกาศในวันนี้ ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมทำให้สภาพัฒน์จำเป็นต้องปรับตัวเลขคาดการณ์ทั้งปีรอบใหม่ อยู่ที่ 1% จากเดิม 1.5- 2%  ถือเป็นอัตราต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี หากเป็นเป้าเดิม จีดีพี ไตรมาส 4 ต้องขยายตัวได้ถึง 3% ทั้งนี้ เป็นผลจากการท่องเที่ยว และการส่งออกขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน และ ญี่ปุ่น ยังอยู่ในภาวะอ่อนแอ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 ก็ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ด้วย  นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวไม่มากนัก เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ ยังคงลดลงจากปีก่อนถึง 50%

ส่วนเศรษฐกิจในปี 58 นั้นคาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.5% ปัจจัยสนับสนุน จะมาจากการส่งออก และการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และผลการดำเนินนโยบายภาครัฐ  การลงทุนภาคเอกชนจากโครงการที่ได้รับการส่งเสริมไปแล้วในปี 57  การเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลก มีแนวโน้มลดลง คาดว่าในปี 58 การส่งออกสินค้าจะขยายตัวได้ถึง 4% อัตราเงินเฟ้อไม่เกิน 2.4%

เรียบเรียงจาก, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, www.krobkruakao.com