เทียนฉาย เปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ ย้ำเสียงประชาชนมีคุณค่ามากกว่า 250 สปช. ยันการรับฟังความเห็นปปช. ผ่านศูนย์ฯ ไม่ขัดกฎอัยการศึก พร้อมเผยพรุ่งนี้ประชุมร่วม 5 ฝ่าย

ประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ พร้อมด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่งร่วมพิธีเปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2557 (ที่มา: เว็บสถานนีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา)

17 พ.ย. 2557 - ที่รัฐสภา นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ อย่างเป็นทางการ โดยมีนางสาวทัศนา บุญทอง รองประธาน สปช. คนที่สอง เป็นผู้ชี้แจงวัตถุประสงค์การจัดตั้งศูนย์รับฟังความคิดเห็นสภาปฏิรูปแห่ง ชาติ ทั้งนี้ประธาน สปช. ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ศูนย์รับฟังความคิดเห็นแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้กระบวนการรับฟังความคิด เห็น และข้อเสนอแนะของประชาชนบรรลุเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ภายใต้กรอบระยะเวลาจำกัด และทันต่อสถานการณ์โดยมีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหมาะสมกับสภาพสังคมไทย มีระบบเลือกตั้งที่สุจริตเป็นธรรม มีกลไกขจัดการทุจริตคอรัปชั่นที่มีประสิทธิภาพ  ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ บริการประชาสะดวกรวดเร็ว เป็นธรรม ตลอดจนมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวจะสำเร็จได้ต้องให้โอกาสประชาชนมีส่วนร่วมและ แสดงความคิดเห็น เพราะเสียงของประชาชนมีความหมายและมีคุณค่ามากยิ่งกว่าความคิดเห็นของ สปช. ทั้ง 250 คน

เทียนฉายได้กล่าวต่อไปว่า การปฏิรูปในส่วนของสปช. ไม่ได้มีการวางธง หรือวางกรอบแนวทางไว้ล่วงหน้า และพร้อมที่จะให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูป พร้อมย้ำว่ากฎอัยการศึกไม่เป็นปัญหาสำหรับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยผ่านศูนย์รับฟังความคิดเห็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งประชาชนสามารถเสนอความคิดเห็นมาที่ศูนย์ฯได้ทั้งหมด 9 ช่องทาง

9 ช่องทางสำหรับประชาชน ในการเสนอความคิดเห็นต่อศูนย์รับฟังความคิดเห็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ

ขณะเดียวกันเทียนฉาย เผยว่าในวันพรุ่งนี้(18 พ.ย. 2557) จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คณะรัฐมนตรี(ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาปฏิรูปแห่งชาติ 18 คณะ เป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดกรอบและแนวทางการทำงานร่วมกัน  รวมถึงกำหนดทิศทางการปฏิรูปประเทศและการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยยังไม่มีระเบียบวาระการประชุมที่ชัดเจน อีกทั้งไม่ขอเปิดเผยว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับการขอผ่อนปรนกฎอัยการศึกหรือไม่ สำหรับการประชุมในวันพรุ่งนี้จะมีขึ้นที่อาคารรับรองเกษะโกมล ในเวลา 14.00 น.

เรียบเรียงจาก : เว็บสถานนีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา