Skip to main content
sharethis

ชาวบ้าน จ.นครศรีฯ แห่ศพ ‘พิธาน’ แกนนำต้านเหมืองแร่นบพิตำร้องศาลปกครอง ผอ.สนง.ศาลปกครองนครศรีฯ เผยขณะนี้อยู่ในขั้นคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้เหมืองดำเนินการ ขณะที่ฝ่ายเหมืองแร่ยื่นคำร้องให้ยกเลิกคำสั่ง

หลังจากเหตุยิง พิธาน ทองพนัง อายุ 45 ปี แกนนำชาวบ้านในการต่อสู้กับเหมืองแร่นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนเพียงลำพังลงจากภูเขาไม้ไผ่ ม.8 ต.กรุงชิง กลับจากทำธุระกับชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 และ ม.5 ต.กรุงชิง จ.นครศรีฯ

วันนี้(3 ธ.ค.57) ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เวลา 10.00 น. ชาวบ้านจาก ม.5 และ ม.8 ต.กรุงชิง จำนวนนับร้อยคน และญาติพี่น้องของ พิธาน ผู้เสียชีวิต ได้นำศพพิธาน แห่มาที่หน้าศาลปกครองนครศรีฯ เพื่อขอรับมรดกความในคดีที่พิธาน เป็นผู้ร้องให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ให้เหมืองแร่ยุติไว้ก่อน จนกว่าศาลจะพิจารณา

ต่อมาสัญญา ศิวิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศาลปกครองนครศรีฯ พร้อมกับธนากร สฤงคาร พนักงานคดีปกครองชำนาญการพิเศษสำนักงานศาลปกครองนครศรีฯ ได้เปิดแถลงข่าวถึงขบวนการของคดีดังกล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้เหมืองดำเนินการ หลังศาลได้เข้าไปเผชิญสืบด้วยตนเอง หลังจากนั้นจะเปิดให้นายสำเร็จ เป็นผู้ร้องแทนพิธาน ตามกระบวนการ ขณะที่ฝ่ายเหมืองแร่ก็ได้ยื่นคำร้องให้ศาลยกเลิกคำสั่ง โดยรู้ว่าได้ทำการแก้ปัญหาแล้ว แต่ศาลปกครองยังยืนคำสั่งชั่วคราวไว้ก่อน

สัญญา กล่าว่า ในนามของศาลปกครอง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ถึงขั้นเอาชีวิตกัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าคดีนี้เริ่มเมื่อเดือนม.ค. 57 ผู้ร้องระบุว่า ได้รับความเดือดร้อน 55 ราย หลังเหมืองแร่ออกประทานบัตรมิชอบด้วยกฎหมาย ประเด็นดังกล่าวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเนื่องจากทำเหมืองไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ให้ศาลพิพากษาถอนประทานบัตร และยุติการทำเหมืองแร่ ศาลรับคำฟ้องเรื่องการออกประทานบัตร โดยศาลได้เข้าไปเผชิญสืบด้วยตนเอง และให้หยุดทำเหมืองแร่เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์พิธาน ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตนั้น สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านรวมทั้งญาติพี่น้องของพิธาน นั้นทางศาลแนะนำให้ชาวบ้านยื่นคำร้องไปยังผู้คุ้มครองสิทธิ์ เพื่อคุ้มครองพยานผู้เสียหายในคดี ซึ่งพ่อหรือญาติร้องไปทางตำรวจเพื่อให้มาคุ้มครองได้ โดยเฉพาะสถานีตำรวจขอให้เข้ามาดูแลชาวบ้านเป็นกรณีพิเศษ เพราะหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งในกรณีนายพิธาน เสียชีวิต ในเมื่อมีนายสำเร็จ ผู้เป็นพ่อมารับมรดกความแล้วก็สามารถดำเนินการไปได้เลย

ด้าน พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้กล่าวว่า ในเรื่องคดีได้มอบหมายให้ตำรวจซึ่งได้แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการออกทำการสอบสวนคลี่คลายคดี 2 ชุด ซึ่งมี พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.และ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช เป็นหัวหน้าชุด ทั้งลงพื้นที่สืบสวนในคดี และติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุยิงพิธาน ส่วนสาเหตุได้ตั้งไว้ 2-3 ประเด็น ซึ่งไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะจะทำให้เสียรูปคดี และการติดตามหรือไล่ล่าคนร้ายยากขึ้น คืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป

วานนี้(2 ธ.ค.57) ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เปิดเผยว่า ได้มีผู้ร้อง จำนวน 5 ราย จากทั้งหมด 55 รายได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอถอนฟ้องคดีในคดีนี้ ซึ่งในทางคดีแล้วทางตุลาการจะออกหมายเรียกมาแถลงถึงเหตุผลในการยื่นขอถอนฟ้อง ซึ่งในทางพิจารณานั้นจะพิจารณาอย่างไรสุดแต่ตุลาการ แต่มีหลักสำคัญว่า หากพิจารณาแล้วพบว่าคำร้องเป็น “ประโยชน์สาธารณะ” ตุลาการจะมีคำสั่งไม่ถอนคำฟ้องก็ได้

            

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net