Submitted on Fri, 2014-12-12 12:41
"โภคิน พลกุล" คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทยเสนอยกร่างรัฐธรรมนูญโดยยึดรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลัก ยุบศาลรัฐธรรมนูญ จัดตั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญแทน ออกกฎหมายให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลได้ ไม่เขียนนิรโทษกรรมให้ผู้ยึดอำนาจ
12 ธ.ค. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เปิดเผยก่อนเข้าให้ข้อเสนอแนะในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรใช้รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 เป็นหลัก และศึกษาแบบวิทยาศาสตร์ ปราศจากอคติว่าปัญหาความแตกแยกที่เกิดขึ้นจนลามไปสู่การไม่เคารพและบิดเบือนกฎหมาย และกฎกติกาทั้งปวงนั้นเป็นปัญหาที่ตัวระบบและตัวบทกฎหมาย หรือเกิดจากตัวบุคคล พรรคเห็นว่าเป็นเรื่องของคนมากกว่าระบบ และหากจะมีตัวบทกฎหมายที่ไม่ดี ไม่เป็นธรรม เช่น รัฐธรรมนูญ 2550 บางมาตราก็สามารถแก้ไขได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ยอมให้แก้ไข จึงยิ่งซ้ำเติมความแตกแยกที่ดำรงอยู่ ให้รุนแรงยิ่งขึ้น
นายโภคิน กล่าวว่า แนวคิดโดยสรุปเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปประเทศไทย ควรคงโครงสร้างหลักของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามที่ได้ตกผลึกในรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ปรับปรุงแก้ไขบางส่วนให้เหมาะสม เช่น การบัญญัติให้องค์กรอิสระต้องถูกตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยศาล การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีให้ใช้เสียงขอเปิดอภิปรายฯ น้อยลงกว่าเดิม ให้บัญญัติเรื่องการนิรโทษกรรม การล้มล้างรัฐธรรมนูญและองค์กรต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญไม่อาจกระทำได้ ไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น รัฐธรรมนูญ 2517 และให้ถือเป็นประเพณีการปกครองของไทยในระบอบประชาธิปไตย ศาลและกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนองค์กรอิสระต่างๆ ต้องยึดโยงกับอำนาจอธิปไตยของปวงชน ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญซึ่งมีองค์ประกอบจากทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ และองค์กรอิสระ มีหน้าที่ตีความรัฐธรรมนูญเป็นหลัก และมีอำนาจหน้าที่จำกัดเฉพาะที่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะวินิจฉัยตีความขยายอำนาจของตนไม่ได้
นายโภคิน กล่าวว่า การเสริมสร้างความปรองดองและความยุติธรรม สร้างระบบความรับผิดชอบที่เป็นรูปธรรมของผู้พิพากษาและตุลาการในการพิจารณาพิพากษาคดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความล่าช้า การวินิจฉัยที่ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นกลาง สร้างระบบและกระบวนการตรวจสอบการปฏิบัติงานของศาลและกระบวนการยุติธรรมทุกประเภท ไม่ว่าทางอาญา แพ่ง หรือทางปกครอง ตลอดจนองค์กรอิสระต่าง ๆ เพื่อให้ปราศจากอคติอย่างแท้จริง ออกกฎหมายให้ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลได้ โดยไม่ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล ถ้าเป็นไปโดยสุจริตและในทางวิชาการ และควรยกเลิกการลงโทษด้วยการตัดสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคที่มิได้มีส่วนรู้เห็นกับกับการกระทำผิดของพรรคหรือกรรมการบริหารผู้อื่น
นายโภคิน กล่าวว่า ส่วนการขจัดการทุจริตคอรัปชั่น ต้องป้องกันและรณรงค์ไม่ให้เกิดการรัฐประหารและระบบอำนาจนิยม เพราะไม่อาจถูกตรวจสอบได้ และยังนำมาซึ่งระบบอุปถัมภ์ อันเป็นสาเหตุหลักของการทุจริตคอรัปชั่น เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับไม่ว่าจะอยู่ในส่วนของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ หรือองค์กรอิสระต้องเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณะ การขยายความคำว่าทุจริตคอรัปชั่นให้รวมถึงการใช้อำนาจขององค์กรต่าง ๆ โดยมีอคติหรือเลือกปฏิบิบัต และตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติของทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงภาคเอกชน โดยใช้ระบบรายได้และระบบภาษี เพราะการคอรัปชั่นจะเกิดขึ้นได้ต้องมีความร่วมมือทั้งฝ่ายการ เมือง ราชการ และเอกชน