Skip to main content
sharethis

ที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เห็นชอบหลักการกำหนดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นวินาที ด้วยมติ 211 ต่อ 3 เสียง งดออกเสียง 7 เผยประหยัดเงินได้ปีละ 43,092 ล้านบาท เตรียมส่งเรื่องให้ คสช.

6 ม.ค.2558 ที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องการกำหนดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามระยะเวลาการใช้งานที่เป็นจริง โดยคิดเป็นวินาที ด้วยคะแนนเห็นชอบ 211 เสียง ไม่เห็นชอบ 3 เสียง และงดออกเสียง 7 เสียง

ที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันนี้มีการพิจารณารายงานการศึกษา ‘การกำหนดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามระยะเวลาการใช้งานที่เป็นจริง โดยคิดเป็นวินาที’ ของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค 

สารี อ๋องสมหวัง ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค ชี้แจงว่า ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำหนดอัตราค่าบริการไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ โดยเก็บค่าบริการเป็นนาที แม้จะใช้งานจริงต่อครั้งไม่ถึงนาที ทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค

สารีกล่าวถึงรายได้ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปีว่า 2556 บริษัท ทรู มีรายได้รวม 9.6 หมื่นล้านบาท ดีแทคมีรายได้ 9.4 หมื่นล้านบาท และเอไอเอส มีรายได้ 1.4 แสนล้าน โดยยกตัวอย่างการคิดค่าบริการของสหภาพยุโรป ที่มีข้อกำหนดเรื่องการคิดค่าบริการข้ามแดนอัตโนมัติ (โรมมิ่ง) โดยคิดค่าโทรขั้นต่ำที่ 30 วินาทีแรก จากนั้นตั้งแต่วินาที 31 เป็นต้นไป ให้คิดค่าโทรตามระยะเวลาการใช้งานจริงเป็นวินาทีทั้งหมด จากการสำรวจการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ กสทช. ค่าบริการในระบบเติมเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 341 บาทต่อเดือน ส่วนระบบรายเดือนอยู่ที่ 716 บาท ถ้าเฉลี่ยทั้งสองระบบมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 415 บาทต่อเดือน โดยค่าโทรระบบเติมเงินอยู่ที่ 1.20 บาท ระบบรายเดือนอยู่ที่ 1.70 บาท เฉลี่ยทั้งสองระบบค่าโทรอยู่ที่ 1.30 บาท

สารีกล่าวว่า ประเด็นความเสียหายต่อผู้บริโภคนั้น หากมีการคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาที จะช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์ได้วันละ 1 นาที คิดเป็น 1.33 บาท ซึ่ง 1 เดือน จะประหยัดได้ 40 บาทต่อคน ประเทศไทยมีหมายเลขโทรศัพท์ 94 ล้านเลขหมาย จะประหยัดเงินได้เดือนละ 3,591 ล้านบาท หรือปีละ 43,092 ล้านบาท และสิ่งที่คณะกรรมาธิการฯ เสนอ จะช่วยประหยัดเงินได้กว่า 3,000 ล้านบาทต่อเดือน เป็นการลดการเอารัดเอาเปรียบ จึงขอให้ สปช.เห็นชอบหลักการกำหนดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามระยะเวลาการใช้งานจริง โดยคิดเป็นวินาที พร้อมส่งเรื่องให้ คสช.ให้ความเห็นชอบหลักการคิดค่าบริการดังกล่าว

ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ควรส่งเรื่องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และการกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) พ.ศ.2553 มาตรา 31 วรรคสอง ให้ออกคำสั่งห้ามผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม โทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียง คิดค่าบริการโดยปัดเศษเป็นวินาทีขึ้นเป็นหนึ่งนาที เนื่องจากเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และเร่งออกประกาศ หรือหลักเกณฑ์ว่าด้วยการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคที่อาศัยการใช้งานเครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควรหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ และใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กสทช. พ.ศ.2553 มาตรา 27 (9) ออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม โทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียง คิดค่าบริการตามระยะเวลาที่ใช้งานจริงเป็นวินาทีโดยไม่ปัดเศษเป็นนาที

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าสมาชิก สปช.มีการอภิปรายเห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค และที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบรายงานฉบับดังกล่าวด้วยเสียง 213 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียงและงดออกเสียง 7 เสียง


ที่มา ไทยรัฐออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจ

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net